ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 - 17 ตุลาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | เขย่าสนาม |
เผยแพร่ |
จู่ๆ วงการฟุตบอลไทยก็มีเรื่องให้คนกีฬาโฟกัสกันเมื่อ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ออกมาเปิดใจชนิดหมดเปลือกตอบคำถามทุกประเด็นร้อนในโซเชียลหลังมีข่าวลือหนาหูว่า เตรียมจะลาออกจากตำแหน่ง “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ” หลังจบศึกอาเซียน คัพ 2024 ช่วงปลายปี 2567
เรื่องราวดังกล่าวทำให้หลายคนสงสัยกันมากเพราะ “มาดามแป้ง” เพิ่งจะชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ด้วยเสียงโหวตสูงถึง 68 จาก 73 เสียง หรือคิดเป็น 93% สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากเป็นนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในฐานะผู้หญิงคนแรกของประเทศไทย ตั้งแต่ก่อตั้งมา 109 ปีแล้ว ยังเป็นผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์ของทวีปเอเชียด้วย
ต่อมา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ส่งหนังสือลงนาม เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2567 ให้การรับรอง “มาดามแป้ง” นั่งตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ คนที่ 18 อย่างเป็นทางการ
หลังจากเข้ารับตำแหน่ง “มาดามแป้ง” ต้องเจอกับการทำงานในสมาคมที่ยากลำบากทันที ทั้งภาษีหนี้กรมสรรพากรที่ค้างมาจากคณะกรรมการชุดเก่าจำนวนมหาศาล
คดีความกับ บริษัท สยามสปอร์ต ซินติเคท จำกัด (มหาชน) ที่เกิดขึ้นจากคณะกรรมการชุดเก่า
รวมถึงเรื่องไม่มีผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ก่อนเข้ามา ก่อนเจรจาจนจบที่ “ทรู วิชั่นส์” ในฤดูกาล 2024/2025
“มาดามแป้ง” เปิดใจว่า ประเด็นแรกคือ ข่าวลือที่ว่าจะลาออกจากตำแหน่งหลังจบอาเซียนคัพปลายปีนี้ เรื่องลาออก ลูกน้อง คุณพ่อ คุณแม่ บอกให้แป้งลาออกเถอะ จะอยู่ทำไม อยู่ไปก็เปลืองตัว
แต่ว่าแป้งไปที่ไหน ก็ได้ไปสัมผัสกับแฟนบอล ทุกคนให้กำลังใจ และข่าวนี้มันดูจะดังไปถึงต่างประเทศด้วย มีผู้ใหญ่มากๆ ของเอเอฟซีได้มาคุยกับแป้ง ท่านถามแป้งว่า ถามตรงๆ ว่า จะตัดสินใจแบบนี้เหรอ คุณอย่าลืมว่า คุณเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่เป็นผู้หญิงคนแรกของเอเอฟซี ที่ชนะการเลือกตั้งมาแบบถล่มทลาย คุณจะตัดสินใจแบบนี้เหรอ
แป้งเองชีวิตที่ผ่านมา เจออะไรไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบ เจออุปสรรคมาทุกอย่างแล้ว และที่แป้งมาทำตรงนี้เพราะด้วยใจรัก
แป้งเชื่อว่า คำตอบ ณ ขณะนี้อาจจะไม่ถูกใจลูกน้อง ไม่ถูกใจคุณพ่อ คุณแม่ เพราะมันคือศักดิ์ศรี และเกียรติยศ ซึ่งทุกอย่างต้องเดินต่อไป
แป้งขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้แป้งตลอดมา ขอบคุณทุกกำลังใจจริงๆ
ประเด็นที่สอง เรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า “แป้ง” ไปเชียร์ทีมการท่าเรือ เอฟซี เพราะเป็นอดีตประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี แล้ว ณ ตอนนี้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เหมาะสมหรือไม่
เรื่องนี้ แป้งว่ามันไม่มีกฎข้อใดเลยที่บังคับไม่ให้นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ห้ามมีทีมในดวงใจ คือแป้งเป็นคนกรุงเทพ บ้านแป้งอยู่สุขุมวิท 49 การเดินทางที่ใกล้ที่สุดจากบ้านแป้งคือ แพท สเตเดี้ยม และที่ผ่านมาแป้งเป็นประธานการท่าเรือ เอฟซี มา 8 ปี ถามว่ารักไหม รักมาก
ทีแรกก็ไม่มีกฎว่าจะมาลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แล้วจะต้องลาออกจากประธานสโมสรฟุตบอล มันไม่มีกฎ แต่แป้งก็ทำ ได้ลาออกเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหา
แป้งขอโทษคนที่ดราม่าด้วย ไม่รู้ว่าจะดราม่าไปทำไม พี่เอ (พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ ผู้เป็นสามี) บอกว่า ถ้าแป้งไม่เชียร์ท่าเรือ แป้งต้องบ้าแน่ จริงๆ ทีมอื่นๆ แป้งก็เชียร์ แต่ส่งใจไปเชียร์ ในแมตช์ที่ได้แชมป์ แป้งก็ไปตลอด นครราชสีมา มาสด้า แชมป์ไทยลีก 2 อะไรต่างๆ
ส่วนที่ถามว่าแล้วนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ไปดูทีมทีมหนึ่งแบบนี้จะเป็นกลางหรือไม่ แป้งบอกเลยว่าแป้งไม่เคยแทรกแซงใครอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องเป็นกลาง ไปดูสถิติได้เลย การท่าเรือไม่เคยได้จุดโทษเลย แล้วแบบนี้มันจะไม่เป็นกลางยังไง
เรื่องแบบนี้มันเสแสร้งไม่ได้ และยังไงก็คงจะเชียร์ท่าเรือไปตลอดกาล มันไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะไม่เชียร์ท่าเรือจริงๆ มันผูกพันมากๆ หลายคนห่วงเรื่องกรรมการจะเกิดความเกรงใจหรือไหม
จริงๆ แป้งไปดูแต่เกมเหย้าที่แพท สเตเดี้ยม เกมเยือนไม่ได้ไป คนเราก็เป็นคนนะ แป้งเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มีน้ำหล่อเลี้ยงในใจบ้าง เสาร์-อาทิตย์ ไปดูฟุตบอลบ้าง
แป้งถ่ายทอดแบบตรงไปตรงมา ใครว่าบ้า แป้งก็เสียใจเป็นธรรมดา แต่ไม่เป็นไร แป้งตอบตรงๆ หมดแล้ว ไม่มีอะไรต้องปิดบัง
ประเด็นที่สาม เรื่องล่าสุดที่ไปใช้สนาม บีจี สเตเดี้ยม ของการท่าเรือ เอฟซี ในเกมกับไลออน ซิตี้ เซเลอร์ แต่ว่าฝนตกหนัก ทำให้เกมแข่งไม่ได้ พูดถึงสนามบีจี แป้งว่าน่าจะดีที่สุดในประเทศสนามหนึ่ง
ส่วนเรื่องแป้งกับคุณปวิณ ภิรมย์ภักดี อาจมีความเข้าใจผิดที่ผ่านมา จนมาถึงวันนี้ แป้งไม่ได้โกรธคุณปวิณ และมีความรู้สึกที่ดีๆ เสมอ
แป้งว่าคุณปวิณมีนิสัยบางอย่างเหมือนแป้ง ส่วนที่ไม่รับดอกไม้วันนั้น ก็เขาเป็นคนตรงๆ แต่แป้งจะเอาดอกไม้ไปให้เพราะคุณปวิณเป็นแชมป์ แต่หากว่าวันนั้นเมืองทองเป็นแชมป์ แป้งก็ต้องเอาดอกไม้ไปให้คุณวิลักษณ์ โหลทอง
แต่เหตุการณ์ดอกไม้วันนั้นก็กลายเป็นดอกไม้ดราม่าไปเลย
ประเด็นที่สี่ เรื่องที่ว่า บีจี สปอร์ต สื่อของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ให้ความสนใจในลิขสิทธิ์ไทยลีกซีซั่นหน้า
ลิขสิทธิ์ไทยลีก 1 ไทยลีก 2 อยู่ที่สมาคม เมื่อ 2-3 อาทิตย์ที่ผ่านมา ถูกติดต่อตรงมาทั้งในไทย และต่างประเทศ เรื่องลิขสิทธิ์ สมาคมต้องการเงิน ไทยลีกต้องการเงิน ถ้าบีจีสปอร์ต อยากซื้อ ต้องประมูล
ซึ่งตอนนี้ฤดูกาลที่แข่งมานี้ เป็นที่น่าประทับใจ ยอดแฟนบอลไทยลีก 1 โตขึ้น 6.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนไทยลีก2 เพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์
ส่วนเรื่อง VAR ที่มีปัญหาอยู่ตอนนี้ทางสมาคมกำลังจะจัดทำ VAR 3D เหมือน VAR ของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่มีกล้อง 16 ตัว ในไทยลีกเลกสองกำลังมีแนวโน้มที่จะใช้
ส่วนไทยลีก 2 จะเป็นเทคโนโลยีที่เรียกว่า VAR ไลฟ์ ได้ใช้ ไทยลีก 2 เลกสอง ส่วนนี้ได้งบประมาณจากฟีฟ่าที่จะนำมาพัฒนาและยกระดับเรื่องการตัดสินด้วย
นี่จึงเป็นการเปิดใจหลัง “มาดามแป้ง” ต้องเผชิญกระแสดราม่า และการร้องขอจากคนใกล้ชิดให้เธอลงจากเก้าอี้ “นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ”
ซึ่ง “หญิงแกร่งหัวใจลูกหนังไทย” อย่าง “มาดามแป้ง” จะ “สู้ต่อ VS ยอมแพ้” เป็นเรื่องน่าติดตามกันต่อไป… •
เขย่าสนาม | เงาปีศาจ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022