วิกฤต (อีกครั้ง) ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด การเปลี่ยนแปลงที่มีตัวแทนแล้ว

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาสู่จุดที่แฟนบอลเรียกร้องอย่างหนักให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีมอีกครั้ง หลังจากผลงานในช่วงต้นฤดูกาล ไม่ได้ดูดีมีความหวังอย่างที่คิดกันไว้

อีริก เทน ฮาก พาทีมทำผลงานแบบที่แฟนบอลตั้งคำถามถึงกึ๋นของเขา ถึงแม้ว่าจะพาทีมคว้าแชมป์ได้ทั้ง 2 ฤดูกาลที่อยู่มา ทั้งคาราบาวคัพและเอฟเอคัพ แต่ผลงานในลีกและในเวทียุโรป กลับไม่สามารถคาดหวังให้ทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้เลย

การโดนลิเวอร์พูลบุกมาขย้ำ 3-0 คาโอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เป็นจุดเริ่มของการอดรนทนไม่ได้อีกครั้ง

ยิ่งมาเจอคริสตัล พาเลซ เสมอทเวนเต้ เหมือนเป็นการเติมเชื้อไฟ

แต่เมื่อมาโดนท็อตแนม ฮอตสเปอร์ บุกมากระซวกคาบ้าน 3-0 อีกรอบ ก็ถึงจุดเดือดที่แฟนบอลไม่อยากเห็นสภาพทีมเป็นแบบนี้อีกต่อไปแล้ว

เทน ฮาก มักจะใช้เหตุผลของการเริ่มต้นสร้างทีมขึ้นมาใหม่ การเสริมทีมที่ต้องให้เวลากับนักเตะในการปรับตัว และการปั้นแข้งดาวรุ่งขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีมในวันข้างหน้า

แต่ถ้าดูจากรูปแบบการเล่นของแมนฯ ยูใน 2 ซีซั่นกว่าๆ ที่ผ่านมา ยังไม่เห็นถึงความสม่ำเสมออย่างที่ควรจะเป็น โดยเฉพาะในลีก

 

ทีมบริหารใหม่ที่นำโดย เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีที่เข้ามาเป็นเจ้าของร่วม มีการเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องภายในสโมสร

แนวทางการเสริมทีม การต่อสัญญานักเตะ บรรยากาศภายในทีม สาธารณูปโภคต่างๆ รวมไปทั้งการเตรียมแผนปรับปรุงหรือสร้างสนามเหย้าใหม่ในอนาคต ทำให้แฟนบอลมีความหวังมากว่า ผลงานในฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูจะเป็นแมนฯ ยูที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับทีมใหญ่ทีมอื่นได้มากขึ้น

แต่มันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย

เทน ฮาก บอกว่าช่วงปิดฤดูกาลที่ผ่านมา ทุกฝ่ายได้ตัดสินใจร่วมกันแล้วว่า จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่ และต้องใช้เวลา ดังนั้น จึงไม่ได้คิดเรื่องที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งเลยด้วยซ้ำ และมั่นใจว่าจะยังได้รับการหนุนหลังที่ดีจากบอร์ดบริหารเหมือนเดิม

ถ้ามองสแตนด์ของฝ่ายบริหารในหลายแมตช์ที่ผ่านมา เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์, เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด คีย์แมนทีมบริหาร, โอมาร์ เบร์ราด้า ซีอีโอของสโมสร, แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการสโมสร, เจสัน วิลคอกซ์ ผู้อำนวยการเทคนิค ต่างมีสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อเห็นผลงานของทีม แน่นอนว่าพวกเขาย่อมรู้ดีกว่าแฟนบอลว่าทีมกำลังประสบปัญหา

ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทีมบริหารได้มีการประเมินผลงานของเทน ฮาก และเปรียบเทียบความเป็นไปได้กับแคนดิเดตผู้จัดการทีมคนใหม่แล้ว ก็ยังมองว่า เทน ฮาก มีความเหมาะสมในการทำงานมากกว่าคนอื่นๆ อยู่ดี

 

สื่ออังกฤษก็ต่างรายงานข่าวในด้านลบของแมนฯ ยูอีกครั้ง อย่างเดลี่เมลก็ปล่อยข่าวจากห้องแต่งตัวว่า นักเตะปีศาจแดงบางคนอยากเห็นเทน ฮาก โดนปลดเสียที และบางคนก็ถึงขั้นประหลาดใจว่าทำไมโค้ชชาวดัตช์ยังได้ทำทีมต่อในฤดูกาลนี้ด้วยซ้ำ

เหตุผลหลักที่ทำให้เทน ฮาก ยังอยู่ได้ ก็เพราะการที่ยังมีแชมป์ติดมือ และสัญญาที่ยังเหลืออีก 1 ปี การจะปลดก็ต้องจ่ายค่าชดเชย ซึ่งทีมบริหารใหม่พยายามลดค่าใช้จ่ายในด้านต่างๆ ลงมา แต่ก็น่าแปลกใจว่า ทำไมถึงรีบใช้ออปชั่นขยายสัญญาออกไปอีก 1 ปี ให้สัญญาของเทน ฮาก เพิ่มเป็น 2 ปี ทั้งๆ ที่ต้องพิสูจน์ว่าเขาจะทำทีมมีลุ้นได้มากกว่า 2 ซีซั่นก่อนหรือไม่

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ซีอีโอเบร์ราด้าออกมาประกาศว่า แมนฯ ยูตั้งเป้าจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้อีกครั้งในปี 2028 เพื่อเป็นการฉลองการก่อตั้งสโมสรครบ 150 ปี พอดิบพอดี ถือว่าเวลายังเหลืออีกพอสมควร กับการยกระดับทีมให้สู้กับทีมใหญ่ในลีกได้ แต่ก็ต้องทำให้ถูกทางตั้งแต่วันนี้แล้ว ไม่ใช่รอรีสตาร์ตใหม่ในฤดูกาลหน้า

ถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว โอกาสที่เทน ฮาก จะอยู่ทำทีมไปจนจบซีซั่นหรือถูกปลดก็มีมากเท่ากัน การจะอยู่ได้ก็คือต้องพาทีมกลับมาเล่นแบบมีทรงและคว้าชัยชนะได้อย่างต่อเนื่อง

แต่ถ้าพลาดท่าเสียที กลับมาช้า การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นแน่ๆ

 

รุด ฟาน นิสเตลรอย ตำนานกองหน้าของทีมที่ปัจจุบันมาเป็นผู้ช่วยของเทน ฮาก ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เคยมีประสบการณ์คุมพีเอสวี ไอด์ไฮเฟ่น มาแล้ว พาทีมได้แชมป์บอลถ้วยในเนเธอร์แลนด์มาแล้ว ทำให้ถูกมองว่าจะมารับงานต่อจากเทน ฮาก ทันที ถ้ามีการปลดขึ้นมา

ถ้ารุดเลื่อนตำแหน่งมาเป็นกุนซือใหญ่ การเปลี่ยนแปลงอาจจะไม่มากมาย เพราะเขาอยู่กับทีมมาก่อนแล้ว รู้จัดแมนยูในแง่ของบรรยากาศที่เคยค้าแข้งมา และช่วงเวลาสั้นๆ ที่มาอยู่กับทีมในฤดูกาลนี้ นักเตะก็ทำความรู้จักกันมาแล้วระยะหนึ่ง

ช่วงแรกที่เขาจะมาเป็นทีมงานเทน ฮาก หลายคนก็มองว่า นี่อาจจะเป็นการหาตัวแทนมารอไว้ ในวันที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

แน่นอนว่าประสบการณ์ของรุดอาจจะยังไม่มาก แต่ถ้าถึงเวลาที่เทน ฮาก กู่ไม่กลับแล้ว เชื่อว่ารุดจะเป็นทางเลือกที่ดีและง่ายกว่าทางเลือกอื่นๆ

แฟนบอลปีศาจแดงส่วนใหญ่ก็คงอยากเห็นภาพที่รุดมาคุมทีมข้างสนามเช่นกัน •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]