ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 27 กันยายน - 3 ตุลาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | การศึกษา |
เผยแพร่ |
กลายเป็นดราม่า สนั่นโซเชียล กับกรณี น.ส.เบญ โพสต์ร้องขอความเป็นธรรม เรื่องราวการสอบครู หลังสอบติดพนักงานราชการทั่วไปอันดับที่ 1 เอกวิทยาศาสตร์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) สระแก้ว แต่ผ่านไป 3 วัน ปรากฏว่าชื่อของเธอหายไป เมื่อสอบถามไปยังหน่วยงานจัดสอบคือ สพม.สระแก้ว กลับได้รับแค่คำขอโทษ โดยไม่ได้รับคำอธิบายใดๆ ทั้งสิ้น
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นหลังการสอบพนักงานราชการ ตำแหน่งครู สังกัด สพม.สระแก้ว ซึ่งมีการเปิดสอบทั้งหมด 5 สาขาวิชาเอก โดยในการประกาศผลสอบครั้งแรก วันที่ 9 กันยายน ปรากฏชื่อครูเบญ สอบผ่านเป็นลำดับที่ 1
ต่อมาวันที่ 12 กันยายน มีการแก้ไขประกาศผลการสอบใหม่ แต่ครั้งนี้ไม่ปรากฏชื่อครูเบญอยู่ในลำดับที่ 1-10 ของผู้สอบผ่าน…
จึงมีการตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะมีการทุจริต ถูกปัดชื่อตกเพราะมีเด็กฝาก เด็กเส้นนักการเมืองเข้ามาแทน!!
ไม่ทันข้ามคืน นายประยงค์ สารภูมิ ผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว ออกแถลงการณ์ชี้แจง โดยอ้างว่า “ภายหลังจากได้มีการประกาศบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการสรรหา ได้มีข้อทักท้วงเรื่องข้อสอบและคำตอบที่ถูกต้อง ทางเขตพื้นที่ฯ จึงทบทวนข้อสอบและคำตอบ และดำเนินการตรวจคะแนนประมวลผลใหม่ทั้งหมดทุกคน
ปรากฏว่า ผลคะแนนการประเมินภาค ก และภาค ข ของผู้เข้ารับการสรรหาคลาดเคลื่อน ไม่ตรงกับข้อมูลเดิม
สาเหตุเกิดจากการเฉลยคำตอบไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง และเฉลยสลับข้อ ส่งผลให้คะแนนรวมภาค ก ภาค ข และภาค ค ของผู้เข้ารับการสรรหาเกิดความคลาดเคลื่อน และทำให้ลำดับที่ของผู้ผ่านการสรรหามีการเปลี่ยนแปลง
โดยมีทั้งผู้ที่ได้ลำดับที่คงเดิม สูงขึ้น และลดลง และการดำเนินการจัดทำประกาศรายชื่อผู้ผ่านการสรรหา ผิดพลาดไป จึงได้ประกาศแก้ไขบัญชีรายชื่อผู้ผ่านการเลือกใหม่ อีกทั้งบุคลากรที่ดำเนินการสอบยังขาดประสบการณ์ด้านการดำเนินการสอบ
เหมือนเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ!!
ไม่ปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อนาน ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ส่งนิติกรลงพื้นี่ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ควบคู่ไปกับการตรวจสอบของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธาน รวมถึงสั่งย้ายผู้อำนวยการ สพม.สระแก้ว เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ที่ สพฐ. อีกตำแหน่ง…
กระบวนการสืบข้อเท็จจริง เป็นไปอย่างเข้มข้น โดย สพฐ.อายัดข้อสอบ กระดาษคำตอบของครูเบญ รวมถึงผู้ที่มีชื่อได้ลำดับที่ 1 แทนครูเบญ คอมพิวเตอร์ที่ใช้ตรวจกระดาษคำตอบ มาตรวจสอบที่ส่วนกลาง
โดย นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการ กพฐ. ขยายความการตรวจสอบว่า ไม่ใช่เรื่องยาก อันดับแรกต้องไปดูที่กระดาษคำตอบ ข้อสอบ และเฉลยใหม่ ว่ามีการแก้ไข ฝนรหัสใหม่เหมือนที่สังคมสงสัยหรือไม่ เพราะเป็นการใช้ดินสอสองบีในการฝนรหัสคำตอบ และเป็นการตรวจด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่การตรวจด้วยมือ เนื่องจากมีผู้เข้าสอบกว่า 250 คน เฉพาะสาขาวิชาเอกวิทยาศาสตร์ มีผู้เข้าสอบจำนวน 106 คน
ขณะเดียวกันได้เชิญครูเบญเข้าให้ปากคำ เพื่อยืนยันว่ากระดาษคำตอบที่อายัดเป็นของตนเองจริง และได้มีการแก้ไขปรับปรุงหรือไม่ ก่อนตรวจสอบคะแนนของครูเบญอย่างเป็นทางการ
ข้อสรุปเบื้องต้น พบว่าผลสอบของ “ครูเบญ” คะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ คือไม่ถึง 60% ตามที่กำหนด ทั้งภาค ก ภาค ข และภาค ค และไม่ติด 1 ใน 10 จากข้อมูลและผลการสอบสวนในเบื้องต้น ยังไม่เห็นความตั้งใจในทางทุจริต แต่จะมีความหละหลวมในการทำงานในแต่ละขั้นตอน
ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า ผู้ที่สอบได้แทนที่ครูเบญ เป็นคนนามสกุลดัง รู้จักกับนักการเมืองท้องถิ่นนั้น สพฐ.ยืนยันว่า การตรวจสอบต้องเป็นไปตามกระบวนการ โดยจะต้องดูที่คะแนน หากเป็นไปตามหลักฐานที่ปรากฏก็ต้องว่าไปตามนั้น เช่นเดียวกันหากพบว่าเป็นการทุจริต ก็ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานใคร ถ้ากระบวนการไม่ถูกต้องก็รับไม่ได้ทั้งนั้น
สำหรับกระบวนการเยียวยานั้น สพฐ.ยื่นข้อเสนอ คืนสถานะครูอัตราจ้าง โรงเรียนเดิมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้ครูเบญ ได้ปฏิบัติหน้าที่สอนต่อเนื่อง
ที่ยังต้องลุ้น คือ มาตรการลงโทษผู้บริหารเขตพื้นที่ฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสอบครั้งนี้ทุกคน เพราะไม่ว่าความผิดพลาดจะเกิดจากขั้นตอนใด ทั้งที่กล่าวอ้างว่า เจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่ฯ สลับชื่อ ทำให้ประกาศผิดพลาด การจัดสอบที่ไม่ได้มาตรฐาน ทั้งข้อสอบ และกระบวนการจัดสอบ
ไปจนถึงการแก้ไขปัญหาของผู้บริหารเขตพื้นที่ฯ ทุกคน ตั้งแต่ผู้อำนวยการ สพท.สระแก้ว รองผู้อำนวยการ สพท.สระแก้ว ซึ่งมีการโทร.ไปขมขู่ให้ครูเบญลบโพสต์ โดยไม่มีคำอธิบายที่เหมาะสม ที่สำคัญคือการเยียวยาจิตใจที่บอบช้ำ จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้น…
ภาระหนักตกไปอยู่ที่ สพฐ.ในฐานะหน่วยงานต้นสังกัด ที่ต้องตัดสินใจ วางมาตรการลงโทษที่เหมาะสม เพราะนอกจากจะช่วยให้สังคมคลายความสงสัยกรณีทุจริต เล่นพรรคเล่นพวก ช่วยเหลือกันเองแล้ว ยังจะถือเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่สำคัญให้กับการจัดสอบทุกระดับ…
เพราะไม่ว่าจะเป็นการสอบคัดเลือกข้าราชการระดับล่าง ไปจนถึงการคัดเลือกผู้บริหารระดับสูง ล้วนมีความสำคัญ เป็นฟันเฟือนในการพัฒนาการศึกษาของประเทศ… •
| การศึกษา
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022