มื้อค่ำ | ศฤงคาร อรัญพยัคฆ์ : ประกวดเรื่องสั้นมติชนอวอร์ด 2024

มื้อค่ำ | ศฤงคาร อรัญพยัคฆ์

ประกวดเรื่องสั้นมติชนอวอร์ด 2024

 

นับเป็นช่วงเวลานานนับสัปดาห์ทีเดียวที่มีอุดมการณ์บางอย่างอันน่าหลงใหลอยู่ร่วมกับเขามาโดยตลอด หรือจะพูดให้ถูกต้องนั้น อุดมการณ์ที่ว่านั้นไม่ได้เพียงแค่อยู่ร่วมกับเขาเฉยๆ มันค่อยๆ เคลื่อนไหวเข้าแทรกซึมเข้ามาฝังรากลึกในตัวเขาเสียด้วยซ้ำ อุดมการณ์บางอย่างที่ว่านี้อยู่ในร่างของหญิงสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่แปรผันอารมณ์ความรู้สึกไปตามแต่โอกาสและเวลา บางครั้งเธอก็เหมือนทะเลเงียบสงบที่ซ่อนเร้นความเร้นลับน่าสะพรึงกลัวไว้ในคว่าน่ารักและความอ่อนไหว หรือบางครั้งเธอก็เหมือนทะเลคลั่งที่พร้อมจะทำลายและกลืนกินทุกอย่าง

เขาเฝ้ามองเธออ้วกรถถังออกมาขณะที่กำลังกินมื้อค้ำด้วยกัน รถถังคันแล้วคันเล่าพุ่งพรวดออกมาจากปากเล็กๆ ของเธอ พวกมันวิ่งพล่านไปทั่วโต๊ะอาหาร เข้าชนถ้วยชามระเนระนาด บางคันวิ่งตกลงจากโต๊ะแล้วนอนหงายอย่างไร้พิษสง บางคันที่หล่นลงไปแล้วแต่ยังมีฤทธิ์วิ่งพล่านไปทั่วทั้งห้อง คืนนั้นในขณะที่โลกภายนอกอยู่ภายใต้หมอกควันของแก๊สน้ำตา เขากำลังต่อสู้อยู่กับรถถังที่กำลังทำลายมื้อค่ำของทั้งสอง

ไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้กินมื้อค่ำด้วยกัน นับตั้งแต่ที่แต่งงานกันมาประมาณหนึ่งเดือนหลัง จากการคบหากันมาประมาณเกือบปี รู้จักกันผ่านเพื่อนของกันและกัน งานแต่งเรียบง่ายไร้ที่ติ ฮันนีมูนบน เกาะเล็กๆ บนทะเลอันดามัน เขาทำงานในบริษัทออกแบบภายใน ส่วนเธอเป็นธุรการกะดึกในโรงพยาบาลเอกชน ทำให้เวลาของไม่ค่อยประสานกันนักสำหรับมื้อค่ำ กว่าที่เขาจะเลิกงานในตอนหัวค่ำเธอก็ออกไปทำงานของเธอแล้ว

การอ้วกรถถังออกมาของเธอเกิดขึ้นหลังจากการรัฐประหาร เธอลาออกจากงานหลังจากนั้นแล้วขังตัวเองอยู่ในกล่องกระดาษ นอนขดอยู่ในนั้นไม่ขยับเขยื้อน ใช้ชีวิตอยู่ในนั้นเหมือนปูเฉฉวนที่ค้นพบเปลือกที่ตามหามาตลอดชีวิต

ในตอนแรกที่เธอแบกกล่องกระดาษเข้ามาที่คอนโดฯ แล้วบอกกับเขาว่านับจากนี้ไป นี้คือบ้านหลังใหม่ของเธอ แล้วจะใช้ชีวิตอยู่ในนั้นตลอดไป เขายังนึกว่าเธอแค่จะพูดหยอกเล่นขำๆ เท่านั้น เหมือนครั้งก่อนๆ ที่เธอว่าบอกจะทำนู้นทำนี้หลายอย่างและในท้ายที่สุดเธอก็ไม่เคยทำได้อย่างที่พูดซักครั้ง

แต่ในครั้งนี้ดูเหมือนจะต่างออกไป

 

เธอยึดครองโซฟาในห้องนั่งเล่น วางกล่องกระดาษทอดยาวกินพื้นที่ทั้งหมดแล้วมุดเข้าไปขลุกอยู่ในนั้น มีเพียงศีรษะของเธอเท่านั้นที่โผล่ออกมา ทั้งวันดวงตาของเธอจะจ้องอยู่ที่หน้าจอทีวี คอยฟังประกาศฉบับต่างๆ ของคณะปฏิวัติ และสารคดีที่ฉายวนซ้ำตลอดทั้งวัน

เหมือนการรบในสมรภูมิพึ่งจบลง ทั้งห้องกระจัดกระจายไปด้วยน้ำซุป เศษเนื้อไก่และข้าวสวยที่โดนตีนตะขาบของรถถังบดจนเละ ตอนที่ตั้งโต๊ะอาหารเธอมีท่าทางหิวจัด หลังจากไม่มีอะไรตกถึงท้องของเธอมาเกือบสัปดาห์แล้ว เธอใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีกับการจัดการข้าวสวยสามจามและแกงเขียวหวานอีกสองถ้วยใหญ่จนหมด เขาไม่เคยเห็นเธอตะกละตะกลามแบบนี้มาก่อน ก่อนหน้านี้ในทุกครั้งเธอจะค่อยๆ ตักอาหารเข้าปากอย่างเชื่องช้าเหมือนตัวสล็อตเวลาเคลื่อนกาย และมีเพียงแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้นที่เธอกินอาหารที่อยู่ตรงหน้าจนหมดจาน เขารักเธอตอนที่เป็นคนที่กินอะไรอย่างช้าๆ มากกว่า

“ถือไว้ให้หน่อย” เธอยื่นรถถังซึ่งคาดว่าจะเป็นคันสุดท้ายให้กับเขา

เขารู้สึกขยะขแยงอย่างบอกไม่ถูก เหมือกเหนียวสีเขียวที่ติดออกมากับรถถังเหล่านั้นส่งกลิ่นเหม็นหืนจนคลื่นเหียนจนแทบจะอ้วกออกมาตามเธอ

เธอดูอ่อนล้ากับภารกิจที่พึ่งเสร็จสิ้น ผล็อยหลับอยู่บนกล่องกระดาษโดยที่หมดแรงก่อนที่จะคลานเข้าไปในกล่องกระดาษได้ เขาอุ้มเธอไปทำความสะอาดร่างกายแล้วส่งกลับเข้ากลับกล่อง ร่างของเธอเบาหวิวราวกับขนนก เขาจูบส่งเธอก่อนนอนที่หน้าผาก มีงานในครัวที่ต้องสะสาง

รถถังวิ่งวุ่นไปทั่วทั้งคอนโดฯ มันทะลวงจอคอมพิวเตอร์ของเขาจนเป็นรูโหว่ ทลายชั้นหนังสือและหนังสือบนนั้นจนพังยับ หนังสือหลายร้อยเล่มร่วงหล่มลงสู่พื้น ฝากรอยตีนตะขาบไว้บนปกหนังสือเป็นทางยาว กว่าจะจัดการยัดพวกมันลงถุงขยะจนหมดก็ทำเอาเขาเหนื่อยหอบ บางคันไปจนมุมตรงฐานชักโครก บางคันวิ่งชนกำแพงซ้ำๆ ไม่รู้ทางไป บางคันก็จนมุมอยู่ใต้กองหนังสือที่พวกมันทำให้ตกลงมา ถึงแม้ว่าจะถูกจับยัดลงถุงขยะแล้วพวกมันก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์พยายามเร่งเครื่องบดตีนตะขาบเพื่อให้พวกมันหลุดออกมา เขาจับพวกมันยัดลงถังขยะ ผนึกฝาด้วยสก๊อตเทปและเชือกฟาง พวกมันดิ้นรนอยู่นานกว่าจะสิ้นฤทธิ์

หลังจากแน่ใจแล้วว่ารถถังไม่สามารถเล็ดลอดออกมาได้แล้ว เขาก็เข้าห้องน้ำล้างเมือกที่ติดตัวออก ฝังตัวเองลงใต้ฝักบัว สายน้ำชำระล้างเอาทุกอย่างลงสู่ท่อระบายน้ำ เขาเข้านอนข้างเธอบนโซฟานอกกล่องกระดาษเหมือนเช่นทุกครั้ง

แล้วฝันเหมือนเช่นทุกคืน

 

หลังแต่งงาน เขาฝันบ่อยครั้งถึงการรัฐประหาร

ในฝันเขาเป็นหนึ่งในฝ่ายต่อต้าน กำลังตกอยู่ในวงล้อมของทหารในใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงระฟ้าที่กำลังถูกไฟลุกท่วม แสงอาทิตย์เริ่มโรยอ่อนลง การล้อมฆ่าในนามของปิตุภูมิกำลังเริ่มต้นขึ้น แก๊สน้ำตาถูกโยนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์เพื่อให้ฝ่ายต่อต้านแตกกลุ่ม พวกเขาถูกปลิดชีวิตทีละคน โดยกระสุนปริศนาที่ถูกยิงมาจากระยะไกล เสียงโหยหวนของร่างทำถูกกระสุนชำแรกร่างดังก้องป่าคอนกรีต

ขอบฟ้ารุ่งสางสีเหมือนควันบุหรี่ที่เขาพ่นออกไป นานเท่าไรแล้วที่เขาไม่ได้มองเห็นท้องฟ้ายามเช้าแบบนี้ ถนนด้านล่างส่งเสียงอื้ออึงดังมาแต่ไกลค่อยๆ ขยับใกล้เข้ามาทุกที เสียงประกาศออกลำโพงกระจาย เสียงฟังไม่ได้ศัพท์ สลับกับเสียงเชียร์ของมวลชนดังอึงอล เมฆฝนเกาะตัวทั่วฟ้าทั้งผืน ภาพด้านล่างเลือนรางในม่านควัน

เธอไถลตัวออกจากกล่องเหมือนเยลลี่ที่ถูกบีบออกจากถ้วยพลาสติก พาร่างเปลือยเปล่ามายืนเคียงข้างเขา สายลมหอบเอาละอองฝนกระเซ็นเข้ามา เธอเบี่ยงหลบเข้าหลังเขาแล้วเข้ากอดจากด้านหลัง

“ดูอะไรอยู่?”

“ภาพเขียนนามธรรมของศิลปินมากชื่อผู้ตายอย่างราชา”

“ฝันร้ายหรือ?”

คำถามของเธอทำเขาสะดุ้ง อกอวบอิ่มที่แนบอยู่แผ่นหลังทำให้ลำลึงค์ของเขาตื่นจากหลับใหล

“ฝันเกี่ยวกับอะไรบ้าง?”

“ไม่รู้สิ – จำไม่ได้” เขาโกหก

“คงจะดีถ้าเรามีเครื่องบันทึกความฝัน”

ในฝันการต่อต้านรัฐประหารจบลงอย่างไรไม่ทราบ ทุกคืนเขาและสหายร่วมอุดมการณ์ต่างพลีชีพในสนามรบ ก่อนที่การต่อต้านจะสิ้นสุดเมื่อตื่นขึ้น เมื่อหลับตาลงอีกครั้งการต่อต้านก็เริ่มขึ้นใหม่ตรงจุดเดิมดุจฟุตเตจที่เล่นซ้ำไม่รู้จบ

เขาหิวขึ้นมาอยากกะทันหัน เขาไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เมื่อคืน รถถังของเธอจัดการแกงเขียวหวานของพวกเขาหมดตั้งแต่เมื่อคืน

“หิวมาเหรอ?” เสียงท้องร้องของเขาดังจนเธอสังเกตได้

“กินเราแทนก็ได้” เธอเล่นลิ้น

ในตอนที่เริ่มเขาควรจะมัดขาของเธอเอาไว้ด้วยเชือกเพื่อไม่ให้เธอหนีไป หรือบางทีคงต้องมัดที่ข้อมือของเธอไว้ด้วย เขาควรจะใช้เทปกาวปิดปากของเธอไว้ เผื่อว่าเธอจิตตกร้องไห้แล้วร้องเรียกหาให้คนช่วย แต่เขาไม่อยากทำรุนแรงกับเธอแบบนั้น เธอเป็นฝ่ายเชื้อเชิญให้เขากินเธอเอง เธอคงไม่ขัดขืน

เธอครางออกมาเหมือนลูกแมวแล้วซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มตอนที่เขาเริ่มกินเธอที่หัวแม่เท้า เขาเริ่มจากด้านล่างก่อนเผื่อเธอเปลี่ยนใจไม่อยากให้เขากินต่อ เธอเริ่มดิ้นขุกขิกบิดตัวไปมาและส่งเสียงหัวเราะคิกคักเมื่อเขากินเธอถึงแก้มก้นทำเอาเขาสะดุ้งเมื่อหัวเข่าของเธอกระแทกที่ลำคอ

ไรขนอ่อนที่พึ่งขึ้นจากการโกนตรงซอกเนินเนื้อมีรสชาติแปลกพิลึกเป็นรสของมะนาวผสมกับวานิลลาและแอบมีรสช็อกโกแลตปนอยู่ด้วย เหมือนไอศกรีมหลากรสที่รวมอยู่ในถ้วยเดียวกัน

เธอครางออกมาไม่หยุด เมื่อเขาพยายามกลืนหน้าอกของเธอทั้งสองข้างอย่างยากลำบาก มันดิ้นออกจากปากของเขาอยู่ตลอดเวลา ขยับขับเคลื่อนเชื่องช้ากว่าจะกลืนเข้าไปได้หมดทั้งสองเต้าก็ใช้เวลานานโข

รอยยิ้มของเธอละลายในปาก เขากลืนกินตัวเธอถึงดั้งจมูก เธอพูดอะไรบางอย่างฟังไม่ได้ศัพท์ น้ำตาของเธอมีรสขมประหลาด เส้นผมของเธอเคี้ยวมันเขี้ยวเหมือนตังเม

เขากลืนกินเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ตัวเขาพองตัวขึ้นสองเท่าจากที่ตัวใหญ่อยู่แล้วเหมือนรูปวาดงูเหลือมที่กินช้างเข้าไปทั้งตัวในหนังสือเรื่องเจ้าชายน้อย เขานอนแผ่หลาอยู่บนโซฟาที่ทั้งสองเคยนอนด้วยกัน รู้สึกผะอืดผะอมในช่องท้อง เหมือนเธอดิ้นขุกอยู่ในนั้นด้วยความทรมานจากกรดในกระเพาะของกำลังย่อยเธอให้กลายเป็นสารอาหาร

ไม่รู้ว่าตัวของเธอใหญ่เกินไปหรือกระเพาะของเขานั้นเล็กจนเกินไป เขาอ้วกเอาเธอออกมาหลังจากที่ยังย่อยไม่เสร็จดี เส้นผมที่เหนียวเป็นตังเมของเธอไหลออกมาเป็นชิ้นแรก เส้นผมพันกันรุงรังเสียยิ่งกว่ารังนก กระดูกของเธอไหลออกตามมา มีเศษชิ้นเนื้อของเธอติดมาตามกระดูกเพราะระบบการย่อยอาหารยังไม่สมบูรณ์ แต่กะโหลกของเธอไม่ตามออกมาด้วย เขาพยายามขย้อนจนเขาแทบไม่มีอะไรจะอ้วกออกมาก็ไม่สามารถเอากะโหลกของเธอออกมาได้

เศษกระดูกของเธอกระจายเกลื่อนพื้นห้องแม้กระทั้งบนโซฟา ไม่น่าเชื่อว่าหญิงสาวตัวเล็กๆ จะมีกระดูกมากมายเพียงนี้ เขาเคยกินใครไปก่อนหน้านี้แล้วหรือเปล่า? พยายามนึกอยู่นานแต่ก็ไม่สามารถตอบตัวเองได้

เขาหมดแรงอ่อนล้าจากการกินแล้วอ้วก ปิดเปลือกตา นัยน์ตาหายลับสู่ความมืดมิด หลับใหลบนซากกองกระดูก ในหูก้องไปด้วยเสียงของขบวนต่อต้านที่ใกล้เข้ามา

เขาเคยกินใครไปก่อนหน้านี้แล้วหรือเปล่า?

เขาพยายามนึกอยู่นานแต่ก็ไม่สามารถตอบตัวเองได้ •