‘AVATR 11’ เอสยูวีพรีเมียม ‘BYD M6’ เอ็มพีวีครอบครัว

สันติ จิรพรพนิต

แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ของไทยยังดูไม่สดใสกาววาวนัก

แต่แผนการตลาดของบรรดาค่ายต่างๆ ยังเดินหน้าต่อเนื่อง

โดยเฉพาะรถไฟฟ้าจากแบรนด์จีน

ที่เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กันอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุดอีก 2 ค่าย ส่งรถรุ่นเด่นเข้ามาทำตลาด

เริ่มจาก “BYD M6” MPV ไฟฟ้า 6 ที่นั่ง

และ “AVATR 11” แบรนด์หรูจากค่าย CHANGAN (ฉางอัน)

แจ้งให้ทราบก่อนว่าไม่ได้จะนำมาเทียบฟอร์มอะไร เพียงแต่ทั้ง 2 รุ่นเปิดตัวออกมาในเดือนเดียวกัน

จึงมัดรวมมานำเสนอในฉบับนี้ไปเลย

ประเดิมกันที่ค่ายใหญ่ของเมืองไทย BYD ส่ง “M6” รถ MPV ไฟฟ้า 6 ที่นั่ง

หากดูรูปร่างหน้าตา ต้องบอกว่าเป็นรถสำหรับครอบครัวที่แท้ทรู

เพราะไม่เน้นความโฉบเฉี่ยวใดๆ มองผาดๆ ดูเรียบๆ

ที่เด่นหน่อยคงเป็นไฟหน้า LED เต็มระบบ มาพร้อมระบบเปิดปิดไฟหน้า และเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ

มีไฟเดย์ไทม์เป็นเส้นบริเวณด้านล่างของโคม

กันชนหน้าติดตั้งกล้องมองภาพ 360 องศา

ด้านข้างก็ไม่ต่างจากด้านหน้าที่ดูเรียบๆ

มือจับประตูไม่ได้ราบเรียบแต่เป็นลักษณะคล้ายมือจับรถทั่วไป

แต่ดูไม่โล้นเกินไปเพราะชายล่างารอบตันติดเส้นโครเมียม

ไฟท้ายมีเส้นคาดยาว

ประตูท้ายไฟฟ้า พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิด ประตูท้ายไฟฟ้าระยะไกล

ติดตั้งราวหลังคามาให้

ล้อขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง 225-55

ภายในเน้นความเรียบเช่นกัน ใช้สีดทนดำตัดด้วยโครเมียม

พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

เรือนไมล์ทรงเดิมๆ ที่เราคุ้นเคย แบ่งเป็น 2 วงซ้าย-ขวา ตรงกลางเป็นจอ TFT

สำหรับสาวกรถค่ายนี้อาจดูแลปกตาสักหน่อย เพราะปกติจะเป็นเรือนไมล์เป็นดิจิทัล

ส่วนจอตรงกลางยังคงเอกลักษณ์มีขนาดใหญ่เหมือนไอแพด ปรับหมุนได้ ขนาด 12.8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto

ลำโพงรอบคัน 6 ตำแหน่ง

ต่ำลงมาเป็นช่องแอร์ มีตัวกรองฝุ่น PM 2.5

พร้อมเจาะช่องแอร์เพดานสำหรับผู้โดยสารทุกแถว

ที่ชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย

คอนโซลกลางติดตั้งแป้นเกียร์และเบรกมือไฟฟ้า พร้อมปุ่มปรับโหมดการขับขี่

มีไฟสร้างบรรยากาศ Ambient Light

เบาะนั่ง 3 ตอนหุ้มหนัง คู่หน้าปรับไฟฟ้าพร้อมระบบเป่าลมเย็น

แถว 2 แยกเบาะพร้อมที่เท้าแขน

ส่วนแถว 3 พับได้ราบเพรียบเพิ่มพื้นที่บรรทุก

โดยรวมทั้งภายนอก-ภายใน เน้นความเรียบง่าย เหมาะกับการใช้งานของครอบครัว

ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหน้า เทคโนโลยี BYD Blade Battery

ความจุแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสูงสุด 71.8 kWh

กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 8.6 วินาที

ซึ่งพอๆ กับเอสยูวีรุ่น ATTO 3

วิ่งไกลสุดต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง 530 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ส่วนรุ่นรองลงไปความจุแบตเตอรี่น้อยลงเหลือ 55.4 kWh วิ่งไกลสุด 420 กิโลเมตร ตามมาตรฐาน NEDC

ชาร์จแบบกระแสตรง DC ความแรงสูงสุด 115 Kw ใช้เวลา 40 นาที (10-80%) ชาร์จแบบกระแสสลับ AC ที่ 7 kW

ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut ด้านหลัง Multi-Link

ระบบความปลอดภัย และตัวช่วยขับขี่มาแบบพอตัว อาทิ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังก์ชั่น Stop and Go

เตือนเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA), ช่วยเบรกเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) เตือนการชนด้านหน้า (FCW)

ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA), ระบบตรวจจับและอ่านป้ายจราจร (TSR), ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HHC) ฯลฯ

BYD M6 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

Dynamic ราคา 829,000 บาท

Extended ราคา 929,000 บาท

คราวนี้มารถไฟฟ้ารุ่นหรูกันบ้าง

“AVATR 11” มาในรูปทรงเอสยูวี พรีเมี่ยม ดีไซน์ทันสมัยการันตีด้วยรางวัล Red Dot Design Award มอบให้กับการออกแบบยอดเยี่ยม

มี 2 รุ่นย่อย

Standard Range 1,999,000 บาท

Long Range 2,199,000 บาท

เป็นราคาช่วงเปิดตัว 200 คันแรก รับส่วนลด 100,000 บาท จากนั้นปรับเป็นราคาปกติ

ถือว่าเป็นรถไฟฟ้าแบรนด์จีน ที่ตั้งราคามาได้ดุพอสมควร เพราะหากดูรุ่นอื่นๆ ค่ายอื่นๆ จะต่ำกว่านี้กันทั้งหมด

ขึ้นไปซัดกับรถอเมริกันอย่าง TESLA

ภายนอกดูทันสมัยเปี๊ยบ โดยเฉพาะไฟหน้าขนาดเล็กเรียวแบบ LED พร้อมระบบปรับความสูงไฟหน้า ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าแบบอัตโนมัติ

ไฟ Daytime Running Light แบบ LED

ไฟท้าย LED แบบ Star Ring

ภายในใช้โทนดำ ตัดด้วยโครเมียม อารมณ์ไม่ต่างจากรถยุโรปหรูๆ

พวงมาลัยทรงรีๆ ปรับด้วยไฟฟ้า 4 ทิศทาง

มาตรวัด Full Digital LCD ขนาด 10.25 นิ้ว

หน้าจอกลาง ระบบ Touchscreen ขนาด 15.6 นิ้ว เชื่อมต่อความบั้นเทงครบครัน สั่งงานด้วยเสียง ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ

ระบบเสียงรอบทิศทาง Meridian ลำโพง 25 ตำแหน่ง ปรับเสียงอัตโนมัติตามความเร็วรถ

เบาะนั่งดูหรูเฟร่อมาก งหุ้มด้วยหนัง Nappa Leather เคลือบสารกันแบคทีเรีย

คู่หน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกความจำตำแหน่ง Memory Seat

พร้อมระบบระบายอากาศ ระบบนวด

ปุ่มปรับเบาะต่างๆ ติดตั้งอยู่บริเวณแผงข้างประตู ได้อารมณ์รถยุโรป

ช่องเก็บของด้านหน้า เปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ แยกอิสระ

ระบบไฟต้อนรับ Welcome Light ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร Ambient Light 256 สี และปรับจังหวะได้

ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 370 นิวตันเมตร

รุ่นท็อปใช้แบตเตอรี่ Ternary Lithium (NCM) ขนาดความจุ 116 kWh

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร ภายใน 6.9 วินาที

ความเร็วสูงสุด Top Speed 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง

วิ่งไกลสุด 680 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ส่วนรุ่นรองลงมาความจุแบตเตอรี่ลดเหลือ 90 kWh วิ่งไกลสุด 575 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ชาร์จ DC Fast Charging จาก 0-80% ภายใน 25 นาที

มีระบบ VTOL จ่ายกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ภายนอก สูงสุด 3.3 kW

มีโหมดการขับขี่ 4 แบบ ECO / Comfort / Sport / Customize

ช่วงล่างด้านหน้า Double Wishbone ด้านหลัง 5-Links

ความปลอดภัยและตัวช่วยจัดมาเน้นๆ ครบๆ ขออนุญาตไม่เอ่ยถึงแล้วกันครับ เพราะมีทุกอย่างมาให้แล้ว

“AVATR 11” จัดเป็นเอสยูวีหรูระดับพรีเมียม แต่ด้วยราคาตัวท็อปแตะ 2 ล้านบาท

ต้องรอดูว่าจะได้รับการตอบรับจากคนไทยมากน้อยขนาดไหน •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]