อุรุดา โควินท์ / ความทรงจำ : บ้านอยู่ที่ไหน

ยังตอบตัวเองไม่ได้ เช้านี้ฉันอยากกินข้าวต้มเพราะ…

ก. มีข้าวเหลือจากมื้อเย็น

ข. บังเอิญว่ามีเต้าหู้ยี้

ค. อากาศไม่ร้อน

ง. อยากใช้จานบางใบ-มันสวย แต่เล็กมาก

ด้วยเหตุผล ต้องตอบว่าถูกทุกข้อ แต่ถ้าใช้ความรู้สึก ฉันเลือก ง.

ถ้าคุณจะว่า ตลกจัง (ถือเป็นความเอ็นดู) หรืองี่เง่าจัง (นับว่าจิก) ฉันก็น้อมรับทั้งคู่

กับคุณ-ฉันจริงใจอยู่แล้วล่ะ

 

จานชามคืออาภรณ์ของอาหาร คุณในมินิเดรสสีดำ กับคุณในเสื้อเชิ้ตตัวโคร่งกับกางเกงยีนส์ เป็นคุณคนเดิมซึ่งแตกต่างกันมาก หากมองด้วยตา (เท่านั้น)

เสื้อผ้าทรงอิทธิพลต่อร่างกายเราอย่างไร จานชามก็มีความหมายต่ออาหารไม่ต่างกัน

ข้าวผัดกุ้งจานที่หนึ่ง มีไข่ดาวโปะหน้า วางแตงกวากับต้นหอมข้างจาน และถ้วยพริกน้ำปลาเล็กๆ เบียดมาในจานข้าว

หรือข้าวผัดกุ้งที่เสิร์ฟในจานขนาดกลาง มากับจานใบเล็กใส่ไข่ดาว และจานอีกใบ, ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีต้นหอม แตงกวาพร้อมถ้วยพริกน้ำปลา

ฉันจะไม่ตัดสินอย่างไหนน่ากินกว่า อร่อยกว่า แต่ฉันแน่ใจ คุณจะเห็นพ้อง ข้าวผัดกุ้งแบบที่หนึ่ง กับแบบที่สองแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

นี่เป็นเหตุผลที่ฉันซื้อจาน ซื้อจาน ซื้อจาน แล้วก็…จานอีก จานเปลืองกว่าเสื้อผ้า หนึ่งมื้อใช้หลายใบ และแม่ครัวบ้าความงามย่อมไม่โอเคกับจานซ้ำซาก

ตราบเท่าที่ใช้ทุกใบ ซื้อด้วยเงินของตัวเอง และไม่แพงเกินไป ฉันย่อมใช้มันอย่างโปร่งใจ

จานเดินทางมาต่างกรรม ต่างวาระ ต่างทิศทาง ต่างลาย ต่างยี่ห้อ ต่างเนื้อ

ฉันสนุกที่ได้จับมันร่วมสำรับกัน

 

ก่อนเลือกจาน ฉันควรสำรวจตู้เย็น มีอะไรเหมาะกับข้าวต้มอีกบ้าง…

มีอกไก่เหลือนิดหน่อย และมีผักกาดดอง

อืม-ดูเหมือนมีผักกาดดองกระป๋องด้วย เปิดปุ๊บอร่อยปั๊บ ไม่เปลืองแรง

ฉันชั่งใจ ซ้ายหรือขวา แต่แล้วความเสียดายก็ฉวยผักกาดดองในตู้เย็นออกมา ซื้อจากตลาดเมื่อต้นสัปดาห์ กินกับน้ำพริกตาแดงไปสองมื้อ ยังเหลืออยู่หน่อย

ควรคั่วกับไข่ซะ ช้ากว่านี้มันจะเก่า หมดอร่อย

ผักกาดดองในน้ำซาวข้าว ฉันเอามาซอยเล็กๆ ใช้น้ำมันน้อยที่สุด ไฟอ่อนที่สุด ตอกไข่ลงไปหนึ่งฟอง ค่อยๆ คั่วอย่างใจเย็น ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยนิด น้ำตาลและน้ำปลาอีกอย่างละหน่อย

ฉันต้องย้ำว่าอย่างละหน่อยจริงๆ

จะผัดอย่างเร็วก็ได้ ใช้น้ำมันเยอะขึ้น ความอร่อยต่างกันพอประมาณ

แต่วันนี้ฉันมีเวลา จึงอยากใช้เวลาให้ไฟอ่อนทำงานกับผักกาดดอง คั่วไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเบื่อกันไปข้าง

ยิ่งนานยิ่งอร่อย

บางวัน ถ้าฉันหิวจัด คั่วไฟอ่อนแค่พอให้ไข่สุกก็กินดีเหมือนกัน

 

อกไก่ชิ้นนั้น ฉันเอามาต้ม แล้วหั่นเต๋าชิ้นเล็ก ตำกระเทียมเยอะๆ บดพริกไทยดำปนลงไป

ตั้งกระทะ ใช้ไฟอ่อน น้ำมันน้อย-อีกแล้ว ก็มันดีนี่นา ไม่เปลือง ไม่เลี่ยน และเราต้องไม่ลืม-ไก่มันสุกมาแล้ว

ใส่ทุกอย่างลงกระทะพร้อมกัน ทั้งไก่หั่นเต๋า กระเทียมตำหยาบ พริกไทยบด ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย เกลือ น้ำตาล ให้รสเค็มนำหน้าสักหนึ่งก้าว รวนไฟอ่อนให้ไก่แห้งลง กระเทียมสุก เครื่องปรุงเข้าเนื้อ เป็นอันเรียบร้อย

หากมีไก่เหลือจากการไหว้เจ้า ฉันมักเอามาปรุงแบบนี้ หรือไม่ก็รวนเกลือให้แห้งและเค็มๆ (เก็บได้นาน และเผื่อเจอคนเค็มใส่ เราจะได้เค็มกว่า)

ผักกาดดองคั่วไข่ ไก่รวนกระเทียม…

โห ถ้าเปลี่ยนจากเต้าหู้ยี้เป็นยำไข่เค็ม มันคือกับข้าวต้มรถทัวร์ดีๆ นี่เอง ต่อให้แน่ใจ-ฝีมือฉันอร่อยกว่า แต่ฉันก็ต้องยอมรับว่าหน้าตามันคล้ายกัน

ทำยังไงได้ (ยักไหล่ค้าง) ไม่อยากทิ้งวัตถุดิบ เสียดาย เถอะน่า ฉันจะจับแต่งตัวใหม่

เอาให้ลืมข้าวต้มรถทัวร์

 

เลือกจานเล็กจานน้อย เน้นใบที่ชอบ จากประสบการณ์ (ทางความรู้สึก) ของฉัน ไม่ว่าอะไร-ถ้าเรารัก เราชอบ จับมาวางไว้ด้วยกัน ย่อมเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ครั้นจัดจานเสร็จ อาหารก็เปลี่ยนไป ไม่เหมือนข้าวต้มรถทัวร์ (สักนิด) ฉันเอียงคอมอง มันช่างจิ้มลิ้มพริ้มเพรา โดยเฉพาะเต้าหู้ยี้บนจานใบไม้ ซึ่งรองด้วยใบไม้อีกที

หึ…ต่อให้สมบัติทัวร์ซูเปอร์ของซูเปอร์วีไอพีก็ทำไม่ได้

ระหว่างรอข้าวต้ม ฉันตระหนักว่า ฉันไม่ได้ไปไหนเลย นับแต่คำว่ารถทัวร์วาบขึ้นมา

ถ้อยคำและอาหาร กระชากฉันกลับไปนั่งในรถ 24 ที่นั่งของสมบัติทัวร์อีกครั้ง

 

ฉันชอบเดินทางคนเดียว ชอบนั่งแถวหน้าสุด และชอบนั่งคนเดียว ฉันจึงจองตั๋วล่วงหน้านานเพื่อให้ได้ที่นั่งนั้น

มันเหมือน…ฉันเดินทางคนเดียวจริงๆ (ถ้าไม่มองด้านข้าง ไม่นับเวลาพนักงานมาเสิร์ฟขนม) ฉันมองออกไปนอกหน้าต่าง บอกยามค่ำแห่งมหานคร “แล้วเจอกัน อีกสี่ห้าวันหรืออาจนานสักหน่อย…ถ้าทางนั้นน่าอยู่อ่ะนะ”

ไม่มีเวลาใดที่ฉันจับจ้องท้องฟ้าเท่าขณะอยู่บนรถทัวร์ จันทร์ดวงเดิมที่ดูเปลี่ยนไป ไม่เหมือนการเดินทางครั้งก่อน

หากได้เห็นเดือนเต็มดวง ฉันบอกตัวเอง -หนนี้ล่ะ ที่บ้านจะต้อนรับอย่างอบอุ่น ที่เชียงรายจะรั้งฉันไว้-ในนามของบ้านเกิด

ความว่างเปล่าใดก็ไม่กว้างใหญ่เท่า คุณลงรถทัวร์ตอนตีห้า เหนือขึ้นไปคือฟ้าสีน้ำเงินเข้ม

คุณขยี้ตา ควานหาดาวจากท้องฟ้าก่อนรุ่งสาง

อาจมีบางดวงกล่าวต้อนรับ

รอบตัวคุณ มีพ่อมารับลูกสาว แม่อ้าแขนรอลูกชาย ชายหนุ่มคนนั้นกับรอยยิ้มกระจ่าง และสองมือกำแน่น เขากำลังรอหญิงสาวผู้เดินทางมากับรถทัวร์, ไม่ใช่คุณ

ไม่มีใครมารอคุณ

ขยี้ตาอีกครั้ง (แรงขึ้น) สางผมด้วยนิ้ว กระชับเป้ เดินตัวตรง ไม่สบตาขบวนคนขับตุ๊กตุ๊ก ผู้กระโจนเข้ามาด้วยคำถาม “ตุ๊กตุ๊กมั้ยครับ” “ไปไหนดีครับ”

นู้น…คุณจะเดินไปหาคันที่จอดอยู่เงียบเชียบ คันซึ่งเจ้าของขี้อาย หรือไม่ก็อายุมากสักหน่อย บอกปลายทาง ถามราคา จะ 120 140 160 คุณก็พยักหน้า ก้าวขึ้นรถ กี่บาทก็ช่าง คุณอยากออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวนี้!

บางครั้งคุณคิด-หรือจะลงตลาดเด่นห้า แวะซื้อข้าวเหนียวกับตำมะเขือ เติมความว่างเปล่านั้นด้วยอาหาร

“น้องมาเที่ยวเหรอครับ”

คำถามของคนขับตุ๊กตุ๊ก ถ่างมันออก กว้างขึ้น ไกลห่างไป…สุดสายตา-พื้นที่สีดำอันเยียบเย็น

ฉันเดินทางคนเดียวเสมอ ไปอีสาน ไปภาคใต้ ไปเชียงใหม่ เดินทางอย่างลิงโลด และทันทีที่ลงรถ ไม่ว่าเวลาใด ฉันตื่นเต้นที่จะได้กินอาหารมื้อแรก

มีเพียงจังหวัดบ้านเกิดที่ฉันรู้สึกเช่นนี้

ฉันเป็นคนที่ไหนกันแน่?

 

ข้าวต้มเดือด ฉันปิดเตา ตักข้าวใส่ถ้วยปากบาน รองด้วยจานเล็ก บนโต๊ะ

ข้าวต้มร้อนฉ่าได้วางอยู่ข้างบริวารแห่งมัน…

แล้วฉันก็หัวเราะ

โธ่เอ๋ย ตรงนี้ไงเล่า ตำแหน่งแห่งที่ของฉัน มันคือโต๊ะอาหาร และครัว