33 ปี ชีวิตสีกากี (89) | คดีใหญ่ ฆ่า 2 สามี-ภรรยา

พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์

 

ก้าวเข้าสู่ปี พ.ศ.2528 ถ้านับเป็นปี ก็ถือเป็นปีที่ 4 แล้วที่ผมเป็นตำรวจ และใช้โรงพักอย่างเต็มเวลา เป็นทั้งที่ทำงาน ที่หลับนอน จนเสมือนหนึ่งโรงพักคือบ้านของผม

ผมเห็นสภาพโรงพักเก่า ฝาผนังสกปรก มีเชื้อราสีดำเกาะอยู่ไปทั่ว อยากจะปรับปรุงให้ดีกว่านี้ แต่คงจะหางบประมาณได้ยาก

ผมได้ติดต่อกับคุณการุณ โฆษิตสกุล ผู้บริหารบริษัทระนองทำไม้ บริจาคเงินจำนวน 5 หมื่นบาท เพื่อทาสีโรงพักใหม่ทั้งหลัง ซึ่ง พ.ต.ท.เสถียร จันทร์สว่าง สวญ.สภ.อ.เมืองระนอง เห็นชอบตามที่ผมได้ไปหาเงินสนับสนุนมาเพื่อใช้ในการพัฒนา จากโรงพักที่ดูมอมแมม สกปรก รกหูรกตา

เมื่อทาสีโรงพักใหม่ทั้งหลัง คราบสกปรกหายไป ผมภูมิใจที่ทำให้บ้านหลังนี้ดูดีขึ้น สีสะอาดตา

ขอบคุณบริษัทระนองทำไม้ และคุณการุณ โฆษิตสกุล ที่ช่วยเหลือราชการครั้งนี้

 

ยังไม่ทันผ่านบรรยากาศของปีใหม่ แค่วันพุธที่ 2 มกราคม 2528 เวลาประมาณสามทุ่ม ผมนั่งทำสำนวนการสอบสวนอยู่ที่โรงพัก จนกระทั่งประมาณห้าทุ่ม รับแจ้งว่า ตำรวจที่ไปรักษาการณ์งานปีใหม่ ที่สนามกีฬาจังหวัดระนอง ถูกคนร้ายใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงได้รับบาดเจ็บ คือ จ.ส.ต.วิชัย วชิระตรียากุล

ผมได้ไปดูอาการ จ.ส.ต.วิชัย ที่โรงพยาบาลระนอง แล้วตามไปสนามกีฬา จากนั้นพาผู้ต้องหาที่จับไว้ได้ 2 คน ไปตามหาผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี โดยตามไปหลายแห่ง จนกระทั่งไปสะพานปลาระนอง ดักรอจนพบจับกุมตัวได้ นำส่งโรงพักดำเนินคดี กว่าจะได้นอนผ่านไปเป็นเวลาตีสองครึ่งแล้ว

วันเสาร์ที่ 12 มกราคม 2528 ผมได้นำไข่เต่า ซึ่งเป็นของฝากผู้ใหญ่ยอดนิยมจากระนอง มอบให้ ร.ต.อ.ทัศนัย ฉายวัฒนะ นายเวร ผบก.ภ.10 ซึ่งเดินทางมาพักผ่อนที่ระนอง และพักที่โรงแรมจันทร์สมธารา โดยเดินทางมาจาก จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมกับ ร.ต.ต.ไชยยุทธ ถมยา รอง สวส.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี

วันนั้นนอกจากผมจะไปต้อนรับนายเวรแล้ว ยังมี ร.ต.อ.ชัยพร วามะศิริ สว.สภ.อ.ละอุ่น กับคุณนาย ร.ต.อ.สุเมธ สังขนันท์ รอง สวส.สภ.อ.กะเปอร์ และ ร.ต.ท.สมศักดิ์ นามาบ รอง สวป.สภ.อ.กระบุรี มาร่วมให้การต้อนรับด้วย

รายการต่อมา คือ นำไปนั่งฟังเพลงที่ห้องอาหาร XO ภายในโรงแรม แล้วไปกินข้าวต้มรอบดึกที่ปั๊มน้ำมันเอสโซ่ จนตีหนึ่งครึ่ง จึงได้กลับมานอน

และในคืนนั้นผมทราบข่าวว่า ร.ต.อ.ทัด ภูมี รอง สวส.สภ.อ.เมืองระนอง กับเพื่อนผม ร.ต.ท.ชัยรัตน์ ศรีเอี่ยม ถูกย้ายทั้งคู่

เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ หลังอาหารเช้าและกาแฟที่โรงแรม ผมกับ ร.ต.ท.ชัยรัตน์ ได้นำนายเวรไปเที่ยวที่หาดส้มแป้น สะพานปลา ก่อนเดินทางกลับสุราษฎร์ธานี

 

วันต่อมา วันที่ 28 มกราคม 2528 คณะจเรตำรวจ มีหัวหน้าคณะคือ พ.ต.อ.อนันต์ เหมทานนท์ ผู้ตรวจราชการสำนักงานจเรตำรวจ ได้มาตรวจราชการที่จังหวัดระนอง และตรวจสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนทุกคน ซึ่งของผมผ่านการตรวจไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีข้อบกพร่องแต่อย่างใด

ตอนค่ำมีการเลี้ยงรับรองคณะ นำโดย พ.ต.อ.ปรีชา แสงวรรณ ผกก.ภ.จว.ระนอง และ พ.ต.ท.เสถียร จันทร์สว่าง สวญ.สภ.อ.เมืองระนอง

วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2528 ร.ต.ท.นพดล สุทธิเสริม รอง สวป.สภ.อ.เมืองจันทบุรี ได้นำตัวผู้ต้องหา คดีลักรถบรรทุกน้ำของโกหนุ่ย มาส่งที่ สภ.อ.เมืองระนอง ผมกับเพื่อนๆ ดีใจที่ได้พบเพื่อนร่วมรุ่นที่แยกย้ายไปอยู่กันคนละภาค นานมาก เมื่อมาพบกันได้พากันไปกินอาหารที่ร้านรวมมิตร และไปต่อที่ข้าวต้มโต้รุ่งจนดึก

เพื่อนๆ กับผมที่มาบรรจุครั้งแรก ถือเป็นรุ่นบุกเบิก หลังจากนั้นก็มี นรต.รุ่น 37 ตามมาในปี พ.ศ.2527 อีก 1 คน คือ ร.ต.ต.ขจรศักดิ์ อุ่นจันทร์ เป็น รอง สวส.สภ.อ.เมืองระนอง และมีญาติอยู่ในจังหวัดระนองด้วย

ต่อมา ในปีนี้ 2528 นรต.รุ่น 38 น้องใหม่ 2 คน คือ ร.ต.ต.ชูศักดิ์ วัฒนโยธิน และ ร.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ มาดำรงตำแหน่ง รอง สวส.สภ.อ.เมืองระนอง

นอกจากนั้นแล้วยังมี ร.ต.ต.ภานุมาต ศุภกิจจารักษ์ เป็น รอง สวส.สภ.อ.กะเปอร์ ซึ่งเป็นบุตรชายของ พ.ต.อ.กฤช ศุภกิจจารักษ์ เมื่อมีย้ายเข้า ก็มีย้ายออก คนแรกที่ได้ย้ายไปก่อนหน้านี้นานแล้วคือ ร.ต.ท.นพดล เผือกโสมณ ย้ายไปเป็น รอง สวป.สภ.อ.หาดใหญ่ และ ร.ต.ท.ชัยรัตน์ ศรีเอี่ยม ย้ายไป สภ.อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ตามที่ผมได้รับข่าวมาก่อนจริงๆ

ก่อนย้ายเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2528 พ.ต.ท.เสถียร จันทร์สว่าง สวญ. ได้จัดงานเลี้ยงส่ง ร.ต.ท.ชัยรัตน์ ศรีเอี่ยม และ ร.ต.อ.ทัด ภูมี ในการโยกย้ายไปโรงพักอื่น ที่ห้องอาหารรวมมิตร พร้อมมอบของขวัญ มีนายตำรวจพร้อมเพรียงกันไป มี พ.ต.ต.วราวุธ วงศ์ปรีดี สวส., พ.ต.ต.ไทยชนะ ทองคำมา สวป., ร.ต.ท.ถนอม สุวรรณ, ร.ต.ท.สำอางค์ มีจิตร, ร.ต.ท.สุรศักดิ์ ทองนอก, ร.ต.ต.ประเสริฐ สุทธิ, ร.ต.ท.อนุชน ชามาตย์, ร.ต.ท.นริศ สุนทรโรจน์, ร.ต.ท.ปวีณ พงศ์สิรินทร์, ร.ต.ท.ชัยสิทธิ์ สิทธิชัย, ร.ต.ต.ธวัช วังพฤกษ์, ร.ต.ต.วิทยา พูนวิทย์, ร.ต.ต.ปราโมทย์ บุญทับ, ร.ต.ต.ชาติ งานพิทักษ์, ร.ต.ต.ขจรศักดิ์ อุ่นจันทร์, ว่าที่ ร.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ, ว่าที่ ร.ต.ต.ชูศักดิ์ วัฒนโยธิน, ว่าที่ ร.ต.ต.ภานุมาต ศุภกิจจารักษ์

พวกผมนายตำรวจเกือบทั้งหมด ตั้งแต่ สวญ., สวป. เดินทางไปส่ง ร.ต.ท.ชัยรัตน์ที่ อ.คีรีรัฐนิคม เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2528 ตลอดการเดินทางเที่ยวนั้น พวกผมได้เปิดฟังเทปธรรมะที่เทศน์โดยพระอาจารย์พยอม กัลยาโณ วัดสวนแก้ว ได้ทั้งความรู้สอนใจ ทั้งสนุกสนาน ตลกขบขัน และรู้จักพระอาจารย์มาตั้งแต่นั้นแล้ว

สมเด็จย่า เสด็จไปที่เกาะพยาม มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ คือ พ.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ รอง ผบก.ภ.10 เดินทางไปรับเสด็จ และมีการจัดกำลังตำรวจเดินทางไปเกาะเพื่อ ถปภ. (ถวายความปลอดภัย) ในครั้งนี้

 

ผมยังมีหน้าที่พานายตำรวจใหม่ ว่าที่ ร.ต.ต.ภานุมาต หรือแจ๊ค ศุภกิจจารักษ์, ว่าที่ ร.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ, ว่าที่ ร.ต.ต.ชูศักดิ์ วัฒนโยธิน ไปรายงานตัวต่อ พ.ต.อ.ปรีชา แสงวรรณ ผกก.ภ.จ.ระนอง, พ.ต.ท.หวล กลิ่นหอม รอง ผกก.ภ.จ.ระนอง, พ.ต.ท.ไกรสร อมรไกรสีห์ รอง ผกก.ภ.จ.ระนอง แล้วไปพบนายสาคร เปลี่ยนอำไพ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และ นายประกอบ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง นายประเสริฐ ศรัทธาวรสิทธิ์ อัยการจังหวัดระนอง อัยการวุฒิรัตน์ บุญผดุง และไปต่อที่ศาลจังหวัดระนอง พบนายอัธยา ดิษยบุตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล นายสมพงศ์ แพนเดช และนายธราวุธ จีนสลุต ผู้พิพากษา จนครบ

ผมเข้าเวรสอบสวนสลับสับเปลี่ยนกันไปมาของ รอง สวส.สภ.อ.เมืองระนอง จนมาถึงวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 2528 ก็ถึงวันที่ผมต้องเข้าเวรทำหน้าที่นายร้อยเวรสอบสวนคดีอาญา เวลาประมาณ 18.30 น. ผมได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสองสามีภรรยาเสียชีวิต ขณะขับรถยนต์กระบะกลับเข้าอำเภอเมืองระนอง เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม ระหว่างหลัก ก.ม.8-9 หมู่ที่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง

เมื่อทราบดังนั้นจึงรีบเดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุทันที พร้อมพลขับรถร้อยเวร บริเวณที่เกิดเหตุ พบร่างสองสามีภรรยานอนเสียชีวิตอยู่บนถนนเพชรเกษม ลักษณะคล้ายคลานออกมาจากรถยนต์กระบะที่เสียหลักพลิกคว่ำตะแคง โดยถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 ม.ม. มีบาดแผลตามลำตัว มีเลือดไหลกองเต็มถนน

ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนทองเหลือง ขนาด 11 ม.ม. ตกอยู่กระเด็นกระจายเกลื่อนบนผิวถนน ผมได้รีบจัดทำแผนที่โดยสังเขป วัดระยะแล้วจดในสมุดบันทึกของร้อยเวร พร้อมทั้งถ่ายรูปโดยละเอียด เก็บวัตถุพยานต่างๆ ไว้เป็นหลักฐาน เพื่อส่งตรวจพิสูจน์ต่อไป

จากนั้นผมได้นำร่างสามีภรรยาส่งไปโรงพยาบาลระนองทันที พร้อมทั้งวิทยุรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับทราบ

 

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ตายคือ นายวิสูตร จันทวิโรทัย หรือเสี่ยวิสูตร และภรรยาชื่อ นางจริยา จันทวิโรทัย ขณะเดินทางกลับจากการไปดูแลกิจการโรงเลื่อยทรายแดง ที่ ต.ทรายแดง โดยนายวิสูตรขับรถยนต์กระบะ มุ่งหน้ากลับบ้านพักใน อ.เมืองระนอง มีนางจริยา ภรรยานั่งคู่กันมา เมื่อถึงที่เกิดเหตุ ได้มีคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์และคนซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนยิงนายวิสูตรและนางจริยา จำนวนหลายนัด แล้วคนร้ายได้หลบหนีไปทาง อ.กระบุรี

ผมจึงได้แจ้งศูนย์วิทยุ ให้ สภ.ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี ทำการสกัดจับ โดยเฉพาะ สภ.ต.บางแก้ว อ.ละอุ่น สภ.ต.ปากจั่น อ.กระบุรี เพราะมีเส้นทางหลบหนีไปได้เพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น

และเมื่อศูนย์วิทยุแจ้งไป ทุก สภ.ตอบกลับมาว่า ไม่มีคนร้ายพร้อมรถจักรยานยนต์ตามลักษณะที่แจ้งผ่านจุดสกัดแต่อย่างใด

เวลานั้นผมยังประหลาดใจว่า คนร้ายจะหนีไปได้อย่างไรเพราะมีเส้นทางเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น และมีแม่น้ำละอุ่นขวางเส้นทางอยู่ ผ่านได้เฉพาะสะพานละอุ่น ที่กิโล 30 ได้เท่านั้น