ขอแสดงความนับถือ

ระหว่าง 31 สิงหาคม-1 กันยายน 2567 ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี

มีพิธีรำลึก 34 ปี การจากไปของ สืบ นาคะเสถียร

เป็น 34 ปี ที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร ให้ข้อมูลว่า จากผลงานวิจัยป่าทุ่งใหญ่-ห้วยขาแข้ง ในรอบ 34 ปี

พบว่า มีประชากรเสือโคร่งมากขึ้น

ทำให้เห็นว่าการทุ่มเทรักษาป่าที่ผ่านมาได้ผล

เพราะเสือมากขึ้น หมายถึงเหยื่อของเสือ และพืชพรรณต่างๆ สมบูรณ์

ตอนนี้ป่าที่สืบ นาคะเสถียร เสียสละชีวิตปกป้อง กลายเป็นความหวัง และตัวอย่างของการอนุรักษ์เสือโคร่งของโลกไปแล้ว

 

สืบ นาคะเสถียร สู้ให้มีผืนป่าอนุรักษ์ของประเทศไทยที่ 20 เปอร์เซ็นต์

น่ายินดีที่มูลนิธิสืบนาคะเสถียร บอกว่า ตอนนี้พื้นที่ป่าอนุรักษ์เกินกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ไปแล้ว

เป็นผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจในการผนวกรวมพื้นที่ป่าเป็นป่าอนุรักษ์ และในทุกๆ ปี

อย่างไรก็ตาม แม้ผืนป่าอนุรักษ์เพิ่มขึ้น

แต่ภาพรวมสถานการณ์ป่าไม้ของประเทศยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันมีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่ที่ 101,818,155.76 ไร่ หรือ 31.47 เปอร์เซ็นต์

ไทยควรมีความพยายามที่จะเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของประเทศ

จึงต้องการความร่วมมือในการอนุรักษ์และฟื้นฟูผืนป่าเพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อสู้สภาวะ “วิกฤตโลก” ที่กำลังคุกคามความมั่นคงของการดำรงอยู่ของมนุษยชาติ

อย่างที่เราเผชิญปัญหา “อุทกภัย” หนักตอนนี้

 

คอลัมน์ “สิ่งแวดล้อม” ของ “ทวีศักดิ์ บุตรตัน” ใน “มติชนสุดสัปดาห์” ฉบับนี้

ขับเน้นปัญหาน้ำท่วมที่หนักหน่วงในภาคเหนือและภาคใต้

เหยื่อผู้ประสบภัยแทบไม่มีเวลาตั้งตัวรับมือกับมวลน้ำที่ทะลักล้น

ทั้งๆ ที่ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมามีการใช้งบประมาณสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมไปแล้วเป็นพันๆ ล้านบาท

แต่ก็เอาไม่อยู่

เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งบ่งชี้ว่าแผนยุทธศาสตร์แก้ปัญหาน้ำท่วมของชาติ

ล้มเหลวไม่เป็นท่า

หลังรัฐประหาร คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) วางยุทธศาสตร์ 20 ปี ในแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ระหว่าง พ.ศ.2561-2580

หนึ่งในนั้น คือการแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในลุ่มน้ำยม

รายงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

พบว่า ลุ่มน้ำยม ที่เจอวิกฤตอุทกภัยอย่างหนักขณะนี้

มีแผนพัฒนาแหล่งน้ำในช่วงปี 2562-2566 จำนวนมากถึง 22 โครงการ

ใช้งบประมาณรวมกันเกือบๆ หมื่นล้าน

และในอนาคต อาจมีการรื้อฟื้นการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ขึ้นมาอีก

คงเป็นประเด็นขัดแย้งกันอีกระหว่างฝ่ายหนุนและต้าน

 

ว่าที่จริงถ้าดูตามยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้ยาวถึง 20 ปี และใช้งบประมาณต่อเนื่องมาตลอด 5 ปีที่ผ่านมา

“ทวีศักดิ์ บุตรตัน” บอกว่าน่าจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในพื้นที่ภาคเหนือได้บ้างแล้ว

แต่ผลปรากฏตรงกันข้าม ปีนี้น้ำท่วมหนักขึ้น รุนแรงขึ้น

ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้น

เมื่อดูรายงานการวิจัยเปรียบเทียบองค์กรการบริหารจัดการน้ำ ภายใต้โครงการขับเคลื่อน แผนงานวิจัยด้านการจัดการน้ำ

พบว่าหน่วยงานการบริหารจัดการน้ำในประเทศไทยมีมากถึง 38 หน่วยงาน

ตั้งกระจัดกระจายใน 1 สังกัด 9 กระทรวง

ทวีศักดิ์ บุตรตัน จึงตั้งคำถามว่าน้ำท่วมหนักๆ แล้งจัดๆ ที่เกิดขึ้นซ้ำซากทุกปี

เป็นเพราะประเทศไทยมีหน่วยงานแก้ปัญหาเยอะเกินไป

ต่างฝ่ายต่างทำ

ไม่ได้คิดแผนเชื่อมโยงข้อมูลอย่างเป็นระบบ

เลยต้องเผชิญปัญหาน้ำซ้ำซากเช่นนี้

และในอนาคตอันใกล้ ต้องมาทะเลาะถกเถียงกันอีกว่าจะสร้างหรือไม่สร้างเขื่อนหรือไม่ •