ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง |
เผยแพร่ |
ยังจำได้ไหม บีบีซี นิวส์ เคยรายงานว่า โรคโคโรนาไวรัส 2019 (COVID-19) ได้ก่อมหันตภัยใหญ่หลวงแก่มวลมนุษย์โลกและเป็นสาเหตุให้ประชากรกว่า 18 ล้านคนเสียชีวิตในช่วงสองปีแรก (ปี 2563-2564) ขณะที่ช่วงวิกฤตโควิดปีแรกทั้งโลกและไทยแลนด์ยังเป็นสุญญากาศทางสาธารณสุข ไม่มีทั้งวัคซีนและยาฝรั่งที่มีประสิทธิภาพพอที่จะใช้ต้านเชื้อซาร์สโคโรนาไวรัส-ทู จากอู่ฮั่น
กล่าวเฉพาะเมืองไทยช่วงนั้น ฟ้าทะลายโจรกลายเป็นยาสมุนไพรฟ้าประทาน ที่คนไทยคิดถึงเป็นอันดับต้นๆ เมื่อเริ่มมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว หรือเมื่อวัดไข้ได้ 37 องศาเซลเซียส โดยที่ตอนนั้นยังไม่มีอุปกรณ์ ATK สำหรับตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยตัวเอง เพียงแค่รู้สึกว่าเริ่มเป็นหวัด ก็รีบรับประทานยาฟ้าทะลายโจร 4-5 วัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็ได้ผล ช่วยแก้หวัด ลดไข้ หายเจ็บคอ
ทั้งนี้เพราะยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาสามัญประจำบ้านที่ประชาชนหาซื้อได้ง่ายใกล้ตัว และยังเป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติที่ใช้เป็นยารักษากลุ่มอาการของระบบทางเดินหายใจ คือ ใช้บรรเทาอาการหวัด เจ็บคอ ประกอบกับอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เป็นต้น
แม้ข้อบ่งใช้ในบัญชียาหลักจะไม่ระบุว่ายาฟ้าทะลายโจรใช้แก้ไข้ แต่คนทั่วไปย่อมเข้าใจว่ากลุ่มอาการหวัดนั้นรวมถึงไข้ ไอด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ.2564 ระหว่างโควิด-19 กำลังระบาดหนัก กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศแนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และการรักษา COVID-19 ที่ไม่มีอาการรุนแรง (เชื้อยังไม่ลงปอด) ด้วยการใช้ยาฟ้าทะลายโจร ก็ยิ่งทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า ยาฟ้าทะลายโจรสามารถใช้ต้านเชื้อโควิด-19 ได้ ถึงขนาดเกิดปรากฏการณ์ยาฟ้าทะลายโจรขาดตลาดหาซื้อไม่ได้ แม้กระทั่งวัตถุดิบสมุนไพรและแคปซูลบรรจุยาก็ขาดตลาดนานนับเดือนเลยทีเดียว
โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย จึงได้ทำ “โครงการคนไทยตื่นรู้ สู้ภัยโควิด-19” กระจายยาฟ้าทะลายโจรให้ผู้ป่วยในพื้นที่ กทม. 50 เขต โดยประสานร่วมมือกับอาสาสมัครสาธารณสุข กทม. รวมทั้งกระจายเมล็ดพันธุ์ฟ้าทะลายโจรทางไปรษณีย์ทั่วไทย ควบคู่ไปกับโครงการรัฐส่งมอบยาฟ้าทะลายโจรจำนวน 6 แสนแคปซูลแก่โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
โดยมีรายงานเป็นทางการหลังจากนั้นว่า ผู้ป่วยโควิดที่ใช้ยาฟ้าทะลายโจรส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นและไม่มีเชื้อโควิด-19 ลงปอด โดยพบผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์น้อยมาก
นอกจากยาฟ้าทะลายโจรแล้ว ยังมียาแผนไทยอีกหลายขนานที่มีสรรพคุณแก้ไข้และใช้อย่างแพร่หลายในช่วงการระบาดโควิด-19 เช่น ยาห้าราก ยาครอบไข้ตักศิลา ยาจันทลีลา ยาตรีผลา และยาขาววัดโพธิ์ ฯลฯ นี่ยังไม่นับสมุนไพรก้นครัวที่ประชาชนใช้ดูแลป้องกันตัวเองตามภูมิปัญญาสุขภาพวิถีไทยด้วยการดื่มน้ำต้มกระชาย ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเทียม และหอมแดง เป็นต้น ซึ่งเชื่อว่ามีส่วนร่วมด้วยช่วยกันทำให้คนไทยรอดพ้นวิกฤตโควิด-19 มาได้ นับประสาอะไรกับแค่โรคทางเดินหายใจ ที่มีอาการไข้ ไอ หวัด เจ็บคอ ที่มากับหน้าฝนนี้ ยาฟ้าทะลายโจรเอาอยู่ได้สบายมาก
ส่วนด้านพิษวิทยาของฟ้าทะลายโจรนั้น แม้จะไม่มีการวิจัยทางคลินิกแบบฟันธง แต่มีการวิจัยในห้องปฏิบัติการพบว่าสารสกัดฟ้าทะลายโจรสามารถออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อโควิด-19 ในเซลล์เยื่อหุ้มปอดของมนุษย์ในถาดเพาะเชื้อ (plaque assay) ได้ถึง 90% โดยที่มีการทดสอบความเป็นพิษของสารสกัดฟ้าทะลายโจรต่อเซลล์ตัวแทนอวัยวะสำคัญต่างๆ ของมนุษย์ คือ เซลล์ตับ เซลล์ลำไส้เล็ก เซลล์ปอด และเซลล์สมอง ผลปรากฏว่าไม่พบความเป็นพิษต่อเซลล์ตัวแทนอวัยวะของมนุษย์เหล่านั้นเลย
ถึงแม้ยังไม่มีงานวิจัยในมนุษย์ที่ยืนยันว่าฟ้าทะลายโจรสามารถรักษาโรคโควิด-19 ได้อย่างแน่นอนก็ตาม แต่จากประสบการณ์จริงในการใช้ฟ้าทะลายโจรของผู้ป่วยโควิด-19 ที่ผ่านมา และผลการวิจัยสารสกัดฟ้าทะลายโจรกับเซลล์มนุษย์ในห้องปฏิบัติการดังกล่าว จึงพอการันตีได้ว่าสำหรับเมืองไทยในสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่กลายเป็นโรคประจำถิ่น ณ ปัจจุบันใช้ฟ้าทะลายโจรพึ่งตนเองได้ โดยเฉพาะช่วงเข้าฤดูฝนนี้ แพทย์ไทยผู้เขี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาชี้ว่า “โรคทางเดินหายใจในไทยจะแพร่ระบาดในช่วงหน้าฝนซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่เด็กนักเรียนเปิดเทอม”
กล่าวเฉพาะสถิติผู้ป่วยโควิดที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล เฉลี่ยวันละ 250-300 ราย ไม่นับไข้หวัดน้อย ไข้หวัดใหญ่ที่กำลังป่วยกันงอมแงมในช่วงนี้ ซ้ำยังมีโรคแทรกซ้อนจากไข้ฝีดาษลิงพันธุ์เคลด 1 บี (Clade 1B) ซึ่งติดต่อง่ายมากแค่ไอ จามใส่กันก็ติดโรคแล้ว เราคงต้องกลับมาใช้มาตรการเดิมคือ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ และพกยาฟ้าทะลายโจรกันอีก ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่าผลิตภัณฑ์ยาฟ้าทะลายโจรในตลาดยาสามัญประจำบ้านเวลานี้มีมาตรฐานสารสำคัญแอนโดรกราโฟไลด์จากการคุมเข้มของ อย. พร้อมคำแนะนำไม่ควรใช้กับหญิงตั้งครรภ์ และหญิงให้นมบุตร และบางคนแพ้กินแล้วมีอาการ เช่น ผื่นลมพิษ ปากบวม หายใจติดขัด เป็นต้น รวมถึงคำเตือนตามมาตรฐานด้วย
ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลในข้อควรระวังและในเรื่องประสิทธิศักดิ์ของยาเมื่อใช้ตามเอกสารกำกับยา ดังนี้
วิธีใช้ ยาฟ้าทะลายโจรแคปซูลขนาด 400 ม.ก. เพื่อแก้ไข้ ไอ หวัด เจ็บคอ อย.ระบุ ผู้ใหญ่ให้รับประทานครั้งละ 2-4 แคปซูล วันละ 4 ครั้งหลังอาหารและก่อนนอน หรือหากเป็นชนิดเม็ดขนาด 250 ม.ก. ให้รับประทานครั้งละ 3-5 เม็ด วิธีใช้สำหรับเด็กอายุ 6-12 ปี ขนาดรับประทานลดลงครึ่งหนึ่ง
เคล็ดลับของการใช้ยาฟ้าทะลายโจรตามคำแนะนำของแพทย์รักษาโรคติดเชื้อคือ ต้องกินยาฟ้าทะลายโจรทันทีที่รู้สึกจะมีไข้หรือเจ็บคอ เพื่อลดเชื้อและลดอักเสบให้เร็วที่สุด เป็นการกินยาก่อนไข้หนัก ไม่ใช่ตีตนก่อนไข้ เพราะถ้าเชื้อลุกลามและไข้สูง ยาฟ้าทะลายโจรเอาไม่อยู่ต้องรีบพบแพทย์สถานเดียว
คนไทยเรายังต้องอยู่กับความเปียกชื้นและโรคทางเดินหายใจที่มากับฤดูมรสุมอีกอย่างน้อยสองเดือน จึงต้องท่องคาถาไว้ว่า ตัดหวัดฝนต้นไข้ด้วยฟ้าทะลายโจร ยาสามัญประจำบ้านใกล้ตัวคู่คนไทย •
สมุนไพรเพื่อสุขภาพ | โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตนเอง
มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022