คลัสเตอร์-ยาดองมรณะ ตายหมู่-ป่วยโคม่าระนาว จับ 2 พี่น้อง-เจ๊ปูเอเย่นต์ส่ง ใช้เมทานอลแทนเหล้าขาว

เหตุการณ์ ‘คลัสเตอร์ยาดองมรณะ’ เกิดจากความเห็นแก่ได้ของคน 2 คน

แต่กลับสร้างความเสียหายใหญ่หลวง มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก

นับเป็นบทเรียนราคาแพงให้กับทั้งนักดื่มและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พึงสังวร

สรรพสามิตรตรวจยึดของกลางจากบ้าน2พี่น่อง

คลัสเตอร์ยาดองมรณะ

ย้อนไปเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา แพทย์โรงพยาบาลนพรัตน์พบความผิดปกติเมื่อมีคนไข้หลายรายทยอยถูกส่งตัวเข้ามารับการรักษาตัวด้วยอาการเหนื่อยหอบ ซึม อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะ และอาเจียน โดยหลายรายอาการหนักถึงขั้นต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เมื่อประสานข้อมูลกับโรงพยาบาลใกล้เคียงก็พบว่ามีผู้ป่วยด้วยอาการดังกล่าวเข้ารับการรักษาเหมือนๆ กัน

แพทย์ทำการตรวจเลือดผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาพบว่ามีความเป็นกรดสูง เกิดจากภาวะพิษจากเมทานอล (Methanol intoxication)

กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข รีบส่งทีมสอบสวนโรคไปตรวจสอบทันที ก่อนจะพบความเกี่ยวข้องของผู้ป่วยทั้งหมดว่าก่อนมีอาการป่วยได้ไปดื่มยาดองที่ร้านในย่านหทัยราษฎร์ แม้ทั้งหมดไม่ได้ดื่มที่ร้านเดียวกัน แต่ก็อยู่ในพิกัดถนนหทัยราษฎร์ ถนนสามวา ถนนเจริญพัฒนา และบริเวณโดยรอบพื้นที่เขตคลองสามวาและเขตมีนบุรี

วันที่ 24 สิงหาคม สำนักงานเขตคลองสามวาได้ประกาศเตือนระบุว่า ประชาชนที่ดื่มสุรา ยาดอง ซุ้มยาดอง แล้วมีอาการเหนื่อยหอบง่าย ซึม อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว วิงเวียนศีรษะ และอาเจียน โดยเฉพาะพิกัดถนนหทัยราษฎร์ ถนนสามวา ถนนเจริญพัฒนา และบริเวณโดยรอบพื้นที่เขตคลองสามวาและเขตมีนบุรี

สืบเนื่องจากเกิดคลัสเตอร์ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาด้วยอาการ Methanol intoxication จำนวน 19 ราย เสียชีวิต 1 ราย และรายอื่นอยู่ในขั้นโคม่า เข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี และโรงพยาบาลใกล้เคียง

 

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งลงพื้นที่สำรวจจุดจำหน่ายทั้ง 9 แห่ง ในเขตคลองสามวา โซนกรุงเทพฯ ตะวันออกกลาง พร้อมค้นหาผู้สัมผัสร่วมวงยาดองที่หทัยราษฎร์ 33 พบผู้สัมผัสร่วมวงในชุมชนอีก 3 ราย แต่ไม่มีอาการทั้ง 3 ราย เมื่อผู้ป่วยมีอาการเกิดขึ้น แพทย์จึงสันนิษฐานว่าสิ่งที่ดื่มไปนั้นเป็นเมทานอล ทำให้เกิดร่างกายมีการสันดาปภายใน ที่ทำให้ร่างกายเป็นกรดชนิดหนึ่งชื่อกรดฟอร์มิก หรือกรดมด (Formic acid) เมื่อกรดมดผสมกับเลือดของผู้ป่วย ทำให้เลือดเป็นพิษ ถ้ามาหาแพทย์ไม่ทันเวลาก็จะเสียชีวิตได้ แต่ถ้ามาหาแพทย์ทันเวลาก็เสียชีวิตได้เช่นกัน เพราะปริมาณเมทานอลในเลือดของแต่ละคนไม่เท่ากัน อาการก็จะเริ่มเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 24-48 ชั่วโมงเป็นต้นไป ทำให้คนที่ดื่มเข้าไปไม่รู้สึกตัวว่าได้ดื่มสารพิษเข้าร่างกายแล้ว ทั้งนี้ หากมีปริมาณเมทานอลในเลือดมากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะทำให้มีอาการ แต่ถ้ามากจนถึง 150 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร อาจถึงเสียชีวิต หรือพิการได้

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า ได้พูดคุยกับกรมสรรพสามิตแล้วว่า กรณีดังกล่าวไม่ได้ขออนุญาตกับกรมสรรพสามิต ขอย้ำว่าการผลิตสุรายาดองต่างๆ จะไม่ได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต เพราะจะอนุญาตเฉพาะบรรจุภัณฑ์ที่ปิดเรียบร้อย จึงหารือกันว่าจะทำให้เกิดความชัดเจนระหว่างเมทานอลกับเอทานอล เช่น ผสมเป็นสีให้ชัดเจน แต่ต้องขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูแลต่อ เช่น กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม

ด้านว่าที่ ร.ต.ยงยุทธ ภูมิประเทศ รองอธิบดีกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง กล่าวว่า สุราที่กรมสรรพสามิตจะออกใบอนุญาตให้จำหน่ายได้ ต้องมีการส่งมาตรวจแล็บของกรมก่อนว่าผ่านเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่ ซึ่งรวมถึงสุราชุมชน ภูมิปัญญาชาวบ้าน เมื่อออกใบอนุญาตให้จำหน่ายได้ มีการเสียภาษีถูกต้องจะมีอากรติดที่ขวดเท่านั้น

ยาดองตามซุ้มริมถนนทางไม่เคยมีการออกใบอนุญาตให้จำหน่าย จึงถือเป็นสินค้าผิดกฎหมายอยู่แล้ว

ล่าสุด นพ.ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เผยจำนวนผู้ป่วย ณ วันที่ 28 สิงหาคมว่า พบมีผู้ป่วยสะสม 37 ราย รักษาหายแล้ว 9 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย ซึ่งมี 1 รายเสียชีวิตที่บ้าน ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการรุนแรงได้รับการปั๊มหัวใจ 6 ราย, ใส่ท่อช่วยหายใจ 16 ราย, กำลังใส่ท่อ 7 ราย, ต้องฟอกไต 23 ราย โดยในจำนวนนี้บางรายหากหายแล้วอาจจะมองไม่เห็น หรือบางรายอาจต้องฟอกไตไปตลอดชีวิต

แพทย์แถลงอาการผู้ป่วย

ตร.จับสองพี่น้อง-เจ๊ปูตัวการ

ขณะที่การสอบสวนติดตามที่มาของยาดองมรณะ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.อิสระ ณ พัทลุง รอง ผบก.น.3 สั่งการฝ่ายสืบสวน เร่งสอบผู้ป่วยที่สามารถให้การได้ทำให้จำกัดวงแหล่งจำหน่ายยาดองได้ 3 แหล่ง คือ ที่ซอยสามวา หทัยราษฎร์ นิมิตรใหม่ โดยทั้ง 3 แหล่งล้วนรับยาดองมาจากร้านขายส่งเจ้าเดียวกัน คือ น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี หรือเจ๊ปู

ตำรวจพร้อมสรรพสามิตรเข้าตรวจสอบที่มาที่ไปก็พบว่าเจ๊ปูไม่ได้ผลิตเหล้าขาวที่นำมาดองยาเองแต่สั่งซื้อมาจากนายสุรศักดิ์ อินสาม อายุ 46 ปี และนายสุรชัย อินสาม อายุ 44 ปี 2 พี่น้อง ก่อนนำมาปรุงตามสูตรส่งขายให้ซุ้มยาดอง จำนวน 18 ร้าน เจ้าหน้าที่จึงรีบตามไปตรวจยึดเอาไว้พร้อมสั่งปิดร้านทั้งหมด

ต่อมาตำรวจพร้อมด้วย น.ส.ณัฐธยาน์ สุหงษา สายตรวจสรรพสามิตพื้นที่ กทม.5 เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 6 ซอยกาญจนาภิเษก 25 แยก 1-3 แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของนายสุรศักดิ์และนายสุรชัย พร้อมทั้งยึดสุราขาวที่ผสมแล้ว นำไปตรวจสอบว่าเป็นเมทานอลหรือเป็นเอทานอล

จากการสอบถามผู้ต้องหาทั้งสองให้การว่าได้ร่วมกันผลิตสุราขาวจำหน่ายให้กับซุ้มยาดองจำนวนหลายร้าน โดยผลิตสุราขึ้นครั้งละ 3 ถัง ขนาด 200 ลิตร และได้กรอกใส่ถุงพลาสติกขุ่น ปริมาณน้ำสุรารวม 25 ลิตร จำหน่ายในราคาถุงละ 900 บาท

เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้เพื่อจำหน่ายสุราที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืนมาตรา 153 วรรคหนึ่ง และมาตรา 191 พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 ส่วนหากพบว่าจงใจซื้อเมทานอลมาผสมเป็นเหล้าขาว ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป

ขณะที่นายพยุง บุญสมสุวรรณ ผอ.สำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต กล่าวว่า จากการตรวจค้นจับกุมแหล่งผลิต ได้เก็บพยานหลักฐาน น้ำสุรา เบื้องต้นทางห้องแล็บของกรม ตรวจพบมีเมทานอลปริมาณสูง และมีไอโซโพรพานอล (IPA) ปนเปื้อนอยู่ โดยลักษณะโรงงานที่เข้าไปตรวจสอบเป็นการลักลอบผลิต ซื้อแอลกอฮอล์ ทั้งเมทานอล เอทานอล นำมาผสมน้ำเปล่า วัดดีกรีแล้วส่งออกจำหน่าย เป็นลักษณะสุราขาว

สอบปากคำผู้ผลิต บอกว่าไม่ทราบว่าเป็นเมทานอล เพราะเมทานอลเป็นเคมีภัณฑ์ ดูลักษณะทางกายภาพไม่ได้ ต้องตรวจทางแล็บเท่านั้น ส่วนสูตรผสมผู้ผลิตค่อนข้างมีความรู้ โดยเอาเมทานอลมาผสม เจือจางน้ำ มีปรอทมาวัดดีกรี ให้ได้ 35-40 ดีกรี ซึ่งจุดที่กระจายส่งออกไปอยู่ย่านนี้ประมาณ 18 จุด

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบยาดองที่ยึดมาพบมีเมทิลแอลกอฮอลล์ เข้มข้นสูงกว่า 100,000 PPM

น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี หรือ เจ๊ปู

ส่วนเจ๊ปู ก็ไม่รอด ถูกแจ้งข้อหากระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งเจ๊ปูกล่าวทั้งน้ำตาว่า ครอบครัวตนทำยาดองขายมา 30 กว่าปี ตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ ไม่เคยมีปัญหาเลย โดยที่ผ่านมาไม่เคยรับเหล้าจากเจ้าอื่น จะรับจากเจ้าประจำที่คุณพ่อสั่งมาตลอด

แต่ประมาณ 1 ปีที่แล้ว เอสกับอาร์ท ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของแฟน มาบอกว่างานน้อยลง อยากหารายได้ และมีสูตรเหล้าขาวที่ไปเรียนทำมา อยากให้ช่วยซื้อ เลยบอกให้ลองทำมาดูว่าผ่านไหม

ซึ่งพอทำมาแล้วก็พบว่าระดับดีกรีได้ รสชาติก็คล้ายกับเจ้าเก่า จึงช่วยสั่งด้วยความสงสาร โดยซื้อในราคา 25 ลิตร ราคา 900 บาท เท่ากันกับเจ้าเก่า

ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหา การผสมยาดองจะใช้สมุนไพรที่เป็นภูมิปัญญาไทย ทำตามสูตรของพ่อ ไม่เคยทำอะไรที่ผิดเพี้ยน จะทำเองชิมเองตลอด

เพิ่งมีความผิดปกติช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยช่วงหลังลูกค้าคอมเมนต์ว่าเหล้าจืด ไม่แรง และมีรสชาติซ่าๆ ตนก็เคยโทร.ถามเอสกับอาร์ทว่าทำไมรสชาติเปลี่ยน ได้เปลี่ยนวัตถุดิบไหม แต่เขาก็ไม่บอก บอกแค่ว่าเดี๋ยวจะปรับปรุง ส่วนตัวได้ชิมแล้วก็รู้สึกว่ากลิ่นมันจางลง แต่คิดว่าไม่เป็นอะไร เพราะพ่อสอนมาว่า ยาดองนั้นต้องมีกลิ่นยาจีนนำกลิ่นเหล้าอยู่แล้ว

เจ๊ปูกล่าวต่อว่า ชิมสุราล็อตล่าสุดไป ก็มีอาการท้องเสียเล็กน้อยมา 3 วันแล้ว แต่ไม่เป็นอะไรมาก จนกระทั่งมารู้ว่ามีคนเสียชีวิต ก็ตกใจมาก ไม่อยากเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ไม่เข้าใจว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็รู้สึกผิด เสียใจ ไม่ได้อยากจะทำให้ใครตาย ก็อยากเยียวยาผู้เสียหาย เพราะ 1 ในผู้เสียชีวิต ก็เป็นเพื่อนด้วย

ขณะที่ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. ประสานตำรวจพื้นที่ บก.น.3 และ บก.น.4 ทุกโรงพัก ที่มีร้านยาดองอยู่ในพื้นที่ ว่าช่วงที่ผ่านมามีเหตุผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุหรือไม่ โดยเฉพาะบุคคลต่างด้าว ที่อาจเคยดื่มยาดองจากซุ้มเป้าหมายเหล่านี้ ภายหลังพบว่ามีเหยื่อบางรายเสียชีวิตที่บ้าน เพื่อนำเข้าสู่ระบบยอดผู้ที่เสียชีวิตจากยาดองมรณะต่อไป

บทเรียนจากความมักง่ายครั้งนี้นำมาสู่การตายหมู่ ทั้งยังมีผู้ป่วยที่โคม่าอีกหลายราย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรีบสรุปบทเรียน ออกมาตรการป้องกันที่เป็นรูปธรรมเพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุสลดขึ้นอีก

ตำรวจสอบปากคำ น.ส.ภัสส์รศา อารีจิตสุขสิริ อายุ 49 ปี หรือ เจ๊ปู