ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
กลายเป็นเหตุสลดที่เกิดกับหญิงสาวในประเทศอินเดียอีกครั้ง เมื่อแพทย์หญิงฝึกหัด วัย 31 ปี ทำงานติดต่อกันนาน 36 ชั่วโมง และเข้าไปในห้องสัมมนาเพื่อนอนหลับพักผ่อน
แต่กลับถูกข่มขืนและฆ่า ในเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลอาร์จี คาร์ เมืองโกลกาตา เมืองเอกของรัฐเบงกอลตะวันตก ประเทศอินเดีย
โดยมีผู้พบร่างของเธอในสภาพร่างที่เปลือยท่อนบน อยู่บนโพเดียม และบาดแผลสาหัสตามร่างกาย
เหตุสลดดังกล่าว ทำให้เกิดการรวมตัวของแพทย์และผู้คนจำนวนมากตามท้องถนนในเมืองโกลกาตา เดลี มุมไบ และปูเน่ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการก่ออาชญากรรมดังกล่าว ขณะที่สมาคมการแพทย์แห่งอินเดีย (ไอเอ็มเอ) ประกาศหยุดให้บริการเพื่อร่วมประท้วงด้วย
แน่นอนว่า คนที่ได้รับผลกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์นี้มากที่สุด คือคนในครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไป
บีบีซีได้สัมภาษณ์พ่อและแม่ของแพทย์หญิงฝึกหัดรายนี้ ในบ้านที่กลายเป็นจุดสนใจของบรรดาสื่อมวลชนจำนวนมาก ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองห่างจากเขตนครของโกลกาตาไม่กี่กิโลเมตร
แม่ของแพทย์หญิงบอกว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ลูกสาวโทร.มาหาเป็นปกติ ตามแบบที่ทำทุกวัน คือจะโทร.มาคุยก่อนเข้านอน และคืนนั้น น้ำเสียงของลูกสาวก็ดูมีความสุข และยังย้ำไปถึงพ่อว่า “อย่าลืมให้พ่อกินยาตรงเวลา แม่ไม่ต้องห่วงหนู”
และนั่นเป็นการพูดคุยกันครั้งสุดท้ายของแม่และลูก ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้น จะมีผู้แจ้งข่าวร้ายกับครอบครัวของแพทย์หญิง
ขณะที่พ่อของแพทย์หญิงบอกว่า เขาเป็นโรคความดันโลหิตสูง และต้องกินยาลดความดันเป็นประจำ ซึ่งลูกสาวห่วงเรื่องการกินยาของพ่อเป็นอย่างมาก และต้องคอยย้ำและถามให้แน่ใจตลอดว่า พ่อจะไม่พลาดการกินยาแม้แต่เม็ดเดียว
เคยมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ยาหมด พ่อจึงคิดว่าจะไปซื้อในวันรุ่งขึ้น แต่เมื่อลูกสาวรู้เรื่อง ก็ไม่ยอม และบอกว่า ไม่ว่าจะดึกแค่ไหน ก็จะไม่ยอมให้พ่อขาดยาเป็นอันขาด และบอกว่า จะไม่มีใครในบ้านได้กินข้าว จนกว่ายาของพ่อจะมาวางอยู่ตรงนี้
“ผมอายุ 62 ปีแล้ว ความฝันที่เคยมีทั้งหลายได้พังทลายลงหมดแล้ว เราอยากให้มีการลงโทษขั้นสูงสุดกับผู้ที่ทำความผิด” ผู้เป็นพ่อกล่าว และว่า “รัฐของเรา ประเทศของเรา รวมทั้งทั่วโลก ต่างเรียกร้องความยุติธรรมให้กับเธอ”
ผู้เป็นพ่อยังบอกด้วยว่า โรงพยาบาลซึ่งน่าจะเป็นสถานที่ปลอดภัย แต่กลายเป็นสถานที่เดียวกับสิ่งโหดร้ายป่าเถื่อนที่เกิดขึ้นกับลูกสาวของเขา ในขณะที่เธอกำลังทำงานอยู่
ที่สำคัญ ลูกสาวของพวกเขากำลังจะแต่งงาน และเตรียมการใกล้จะเสร็จแล้ว และยังบอกกับผู้เป็นพ่อด้วยว่า เธอจะยังคงดูแลครอบครัวต่อไป แม้ว่าจะแต่งงานไปแล้วก็ตาม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้หลายคนหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2012 ที่นักกายภาพบำบัดหญิงวัย 22 ปี ถูกชายฉกรรจ์หลายคนรุมข่มขืนบนรถบัส ที่กำลังแล่นไปตามท้องถนนในกรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดีย จนทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในที่สุด
หลังเกิดเหตุการณ์ครั้งนั้นขึ้น ก็ได้มีการแก้ไขกฎหมายว่าด้วยความรุนแรงทางเพศให้มีความเข้มงวดรัดกุมมากขึ้น และมีบทลงโทษสูงขึ้น
หากแต่สถิติของคดีทำร้ายทางเพศต่อผู้หญิงก็ไม่ได้ลดลงเลย ในขณะที่โอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมนั้น ก็ยังคงเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับผู้หญิงอินเดีย
โดยในปี 2022 มีรายงานเหตุข่มขืนกระทำชำเราต่อสตรีในอินเดียเฉลี่ยถึงวันละ 90 รายเลยทีเดียว
เหตุสลดที่เกิดขึ้นกับแพทย์หญิงฝึกหัดครั้งนี้ ก็กลายเป็นแรงกระตุ้นอีกครั้งให้อินเดียตื่นตัวกับการหันมาปกป้องสตรีจากการถูกข่มขืนหรือทำร้าย แต่ก็คงเหมือนกับทุกครั้งที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุแล้ว หวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
แต่ครั้งสุดท้าย ก็ไม่เคยมีอยู่จริง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022