“พรรคเพื่อไทยไม่ได้เรียนรู้บทเรียนในอดีตว่า ปัญหาที่แท้จริงทางการเมืองไทย คือการต่อสู้กับเผด็จการอำนาจนิยม คุณต้องเอาชนะพวกนี้ให้ได้ก่อน ประเทศไทยต้องแข็งแรงบนเส้นทางประชาธิปไตย จะต้องไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้น และไม่มีการฆ่าประชาชนกลางถนนอีกต่อไปเป็นอันขาด” นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. ที่เคยเป็นกัลยาณมิตรกับพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง กล่าวกับมติชนสุดสัปดาห์

นพ.เหวงระบุว่า เส้นทางที่เพื่อไทยตัดสินใจเดินไปแล้วมันล้มเหลวหมด แล้วเป็นเส้นทางที่ไม่อาจจะหวนกลับคืนมาได้อีก ภาษาอังกฤษเรียกว่า River of No Return ซึ่งน่าเสียดายพรรคการเมืองที่เคยมีศักยภาพที่ประชาชนจะใช้เป็นประโยชน์ในการทำให้การเมืองไทยแข็งแรงขึ้นมาได้ตอนนี้เสียหายโดยสิ้นเชิงแล้วไม่อาจจะกลับมาได้อีก

ซึ่งเป็นความตั้งใจของฝ่ายสืบทอดอำนาจ เผด็จการอำนาจนิยม เพราะเขาได้ตราลงในรัฐธรรมนูญและผลิผลออกมาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกวันนี้ รวมถึงสิ่งที่เรียกว่าองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ หรือสิ่งที่เรียกว่าจริยธรรมของนักการเมือง

ถ้าหากว่าพวกฝ่ายเผด็จการอำนาจนิยมหรือรัฐประหารต้องการที่จะกำหนดทิศทางทางการเมืองไปอย่างไรเขาก็ลงดาบไปอย่างนั้น จึงเกิดปรากฏการณ์ที่ยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมือง

ด้วยความเคารพ จริงๆ แล้วพรรคก้าวไกล จำนวน ส.ส.ทั้งหมดของเขา 151 คนนี้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนทั้งประเทศ เพราะฉะนั้น ต้องถือว่ามาจากอำนาจสูงสุด คืออำนาจอธิปไตยและไม่น่าจะมีอะไรที่มีอำนาจสูงไปกว่าประชาชน

และสำหรับผม มาตรฐานทางจริยธรรม มาตรฐานเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตอันเป็นที่ประจักษ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง การยึดอำนาจรัฐประหารเป็นการไม่ซื่อสัตย์สุจริตเลย เป็นการทุจริตอย่างรุนแรงที่เลวร้ายที่สุดจากการเมือง และเป็นการทำลายจริยธรรมทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุด

ลำพังที่มาของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระมาจากคณะรัฐประหาร มันก็บ่งบอกแล้วว่าสิ่งที่คุณเขียนขึ้นมาเพื่อใช้กับผู้แทนราษฎรที่มาจากการเลือกตั้งไม่ได้

แต่คุณใช้สิ่งนี้มาบังคับใช้กับผู้ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งยุบพรรคก้าวไกลและตัดสิทธิทางการเมือง แล้วยังต่อเนื่องไปอีกว่าการที่เขามีแนวคิดเสนอกฎหมายในการที่ไปแก้ไขมาตรา 112 เป็นการผิดอย่างร้ายแรง อาจจะจนถึงขั้นให้การที่จะตัดสินตลอดชีวิต

สิ่งที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นผลสืบเนื่องมาจากรัฐธรรมนูญ 2560 สืบเนื่องมาจากเจตจำนงของคณะรัฐประหารโดยตรงเลยจึงเกิดเรื่องของการให้คุณเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี คือคำว่ามีความสุจริตเป็นซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ คุณใช้มาตรฐานอะไร ต้องเอามาตรฐานทางการเมืองมาจับ การรัฐประหารยึดอำนาจ เป็นการไม่ซื่อสัตย์สุจริต เป็นความทุจริตอย่างเลวร้ายที่สุดทางการเมืองต่อพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ และคุณบอกว่าต้องไม่ประพฤติและไม่มีพฤติกรรมในการผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง การรัฐประหารนั่นแหละคือเป็นการผิดจริยธรรมทางการเมืองอย่างเลวร้ายที่สุดในโลกเลย แล้วทำไมคุณไม่ตัดสินพวกนั้น กลับมาตัดสินอย่างนี้

โดยที่ไม่มีบรรทัดฐานเลยว่าสุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีมาตรฐานอะไรใช้มาตรฐานเป็นตัววัด ใช้อะไรเป็นนิยาม 2 กรณีที่เกิดขึ้นคือยุบก้าวไกล และทำให้การเป็นนายกรัฐมนตรีของเศรษฐา ทวีสิน สิ้นสุดลง ก่อให้เกิดความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในปัจจุบันนี้ ทำให้ทุกคนหวั่นวิตกไปหมดว่าอะไรคือนิยามของคำว่าสุจริตเป็นที่ประจักษ์ อะไรคือนิยามของคำว่าผิดจริยธรรมทางการเมืองอย่างร้ายแรง

เพราะฉะนั้น วันนี้หลายอย่างที่ผมไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทยนะ แต่วันนี้คุณอุ๊งอิ๊งจะตั้งรัฐบาลลำบากมาก เพราะว่าคุณจะใช้อะไรเป็นมาตรฐานในการที่จะตรวจสอบ

 

ผมเองก็รู้สึกเสียดาย แล้วก็เสียใจที่พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปร่วมมือกับทางฝ่ายรัฐประหาร โดยคิดว่าฝ่ายนั้นจะเป็นมิตรทางการเมืองกับพวกเขา ร่วมหัวจมท้ายไม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างอื่น แต่หารู้ไม่ว่าจริงๆ เป็นเจตจำนงของพวกเผด็จการอำนาจนิยม คือการที่จะสืบทอดอำนาจอย่างยาวไกลออกไป เพราะเขาไม่ได้เรียนรู้เลย

อย่างที่เขาพูดกันว่ายอมเสียทุกอย่างเพื่อที่จะข้ามขั้วไป โดยพยายามอ้างเหตุผลในการตัดสินใจอย่างนั้นเนื่องจากต้องการที่แก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ สุดท้าย 10 เดือนที่ผ่านมาคุณแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ไหม?

สิ่งที่คุณอธิบายต่อประชาชนบอกว่าการที่คุณเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปร่วมกับฝ่ายขวา เพียงเพื่อจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สุดท้ายเป็นเรื่องที่ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง สิ่งที่คุณสัมฤทธิผลคือความล้มเหลว ผมเรียนด้วยความเคารพในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา

ณ วันนี้ยังมีคำถามที่น่าสงสัยนะครับว่าดิจิทัลวอลเล็ต จะไปต่ออย่างไร ถึงแม้คุณทักษิณจะพูดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมาว่ามี 3 ประการ 1) คือสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทันที 2) บอกว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีของประชาชน และ 3) สร้างความใกล้ชิดระหว่างประชาชนกับรัฐบาลได้ แต่ผมดูความแน่นอนของดิจิทัลวอลเล็ต เบาลงไปทุกทีหรือเลือนรางไปทุกที

ผมชักจะเป็นห่วงดิจิทัลวอลเล็ต ก็อาจจะล้มเหลวหรืออาจจะต้องเปลี่ยนรูปแบบไปจนคนจำไม่ได้เลยก็ได้

 

ชะตากรรมของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทยล้ำเส้นพวกเผด็จการอำนาจนิยมหรือเปล่า ถ้าไม่ล้ำเส้นเป็นเด็กดีทำตามสิ่งที่เขาต้องการทุกประการก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น

แต่เมื่อไหร่ก็ตามถ้าคุณล้ำเส้นไปก้าวล่วงอำนาจของพวกเขานิดเดียว ผมเชื่อว่าคุณโดนแน่นอน และอาจจะโดนหนักกว่าเก่าด้วย เพราะผมไม่เคยเชื่อใจพวกขวาจัดอนุรักษนิยมเลย เพราะพวกนี้เหี้ยมโหดอำมหิตมาตั้งแต่ 6 ตุลาคมแล้ว เห็นไหมครับ

ใครก็ตามที่ไปท้าทายสถานภาพของเผด็จการอำนาจนิยมจะต้องมีอันเป็นไป คราวนี้เขาดูแล้วตอนการเลือกตั้งปี 2566 โอกาสที่จะสู้กับก้าวไกลริบหรี่เหลือเกินนะ หรืออาจจะแทบไม่มีโอกาสสู้เลย ทางเดียวคือต้องดึงเอาเพื่อไทยมาเป็นกำลัง โอกาสที่จะสถาปนาประเทศไทยที่เป็นประเทศประชาธิปไตยที่แข็งแรงมันหมดไปแล้ว จะเห็นว่าฝ่ายขวาเลยฉวยโอกาสไปสร้างมิตรภาพกับพรรคเพื่อไทย ด้วยเหตุอะไรก็แล้วแต่ ผมก็ไม่รู้นะจะมีดีลหรือไม่มี จะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างไร ก็คือเปลี่ยนขั้วสลับข้างไปแล้ว

ดังนั้น เขากลับมาลำบากแล้ว

 

ส่วนพรรคเพื่อไทยจะกู้คืนความหวัง ความศรัทธาจากผลงานที่เคยทำได้ในอดีตได้อย่างไร ข้อที่ 1 อย่างที่ผมเรียนว่ารัฐไทยขณะนี้ฝ่ายขวาจัดกุมอำนาจอยู่แล้ว 2.ฝ่ายขวาจัดเขาประสงค์ที่อยากจะสร้างรัฐไทยที่เป็นขวาจัดที่แข็งแกร่งขึ้นมา ดังนั้น อะไรก็ตามที่ไปสั่นคลอนรากฐานในนี้เขาไม่พอใจอย่างแน่นอน แล้วทักษิณ ชินวัตร ไม่มีทางเลือกแล้วถึงคุณจะทำเศรษฐกิจดียังไงก็ตามแต่ คุณก็ไม่สามารถที่ชนะใจประชาชนได้อีกต่อไปแล้วอย่างที่ผมเรียน พรรคเพื่อไทยประเมินประชาชนผิด เขาเห็นประชาชนหยุดนิ่งอยู่กับที่ เขาเห็นประชาชนเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตทางเศรษฐกิจ ประชาชนไม่ใช่สิ่งมีชีวิตทางเศรษฐกิจ

แต่ประชาชนเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอุดมการณ์ และอุดมการณ์ที่สำคัญที่สุดคืออุดมการณ์ทางการเมือง

แปลว่าคุณอ่านประชาชนไม่ขาด ประชาชนเขาต้องการต่อต้านรัฐประหาร พรรคเพื่อไทยยังจมปลักอยู่กับความเชื่อว่าคนเสื้อแดงหลงใหลได้ปลื้ม เชื่อมั่นศรัทธาพรรคเพื่อไทยหรือคุณทักษิณอย่างหัวปักหัวปำ

ใช่ครับ มีจำนวนหนึ่ง ซึ่งผมก็เคารพ เพราะว่าคุณทักษิณก็มีความสามารถในการที่จะทำให้เศรษฐกิจของคนรากหญ้าดีขึ้น

แต่จากการต่อสู้ทางการเมืองตั้งแต่ปี 2549 จนถึงการฆ่าคนกลางเมืองปี 2553 ความตื่นตัวจัดการเมืองของคนระดับรากหญ้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเลยครับ คือเปลี่ยนไปเห็นอย่างชัดเจนเลยว่าประเทศไทยต้องต่อต้านรัฐประหาร เผด็จการอำนาจนิยม

แต่ว่าพรรคเพื่อไทยยังไปหยุดอยู่แค่มองเห็นประชาชนเป็นโหวตเตอร์ทางการเมืองเฉยๆ เท่านั้นเอง โดยไม่ได้มองว่าประชาชนพัฒนาจิตสำนึกทางการเมืองขึ้นไปสู่ระดับที่ต้องการที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยแข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว

และหากถ้าเขาอ่านออก ตอนเลือกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประชาชนเลือกยิ่งลักษณ์ด้วยคะแนนเสียง 15.75 ล้านเสียง วันนั้นคือเขาอ่านได้แค่ว่าคนเสื้อแดงรักทักษิณ รักพรรคเพื่อไทยก็เลยเทคะแนนให้ยิ่งลักษณ์ เขาไม่ได้อ่านลงไปเลยว่าคนเขาเกลียดการฆ่าคนกลางถนนของ ศอฉ. ประชาชนต้องการลงโทษ ศอฉ. ต้องการลงโทษเผด็จการที่ใช้ทหารฆ่าคนมือเปล่ากลางเมืองที่เพียงแต่มาเรียกร้องให้ยุบสภาเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้น จึงเลือกยิ่งลักษณ์ไม่ใช่ว่ายิ่งลักษณ์เก่งมหาศาล ใช้เวลา 49 วันเอาชนะใจคน 15 ล้านคน ไม่ใช่ เขามองไม่ออกจริงๆ

ตอนนี้ เพื่อไทยตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนที่ไปเลือกก้าวไกลโจมตีใส่ร้ายป้ายสีหาว่าพวกนี้เป็นด้อมส้ม หาว่าไปกินส้มเน่า หาว่าเป็นสลิ่มเฟส 2 คือไปสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น โดยไม่ไปอ่านว่าพวกนี้เขาต้องการประชาธิปไตย เพราะฉะนั้น ก็แปลว่าเพื่อไทยเขาอ่านไม่ออกเลย

 

การบ้านที่อยากฝากกับรัฐบาลแพทองธาร 1 ก็คือ

1. อยากให้พรรคเพื่อไทยจริงจังกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องให้ประชาชนทั้งประเทศเลือก ส.ส.ร.โดยตรงที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ

2. นิรโทษกรรมทางการเมือง ทำให้ความขัดแย้งทางการการเมืองทั้งหมดรวมทั้ง 112

3. ที่สำคัญที่สุดพรรคเพื่อไทยเป็นคนที่ได้อานิสงส์มากที่สุดจากการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนปี 2553 เพราะฉะนั้น ผมทวงความยุติธรรมจากพรรคเพื่อไทย ว่าคุณจะคืนความยุติธรรมให้คนตายปี 2553 อย่างไร

ผมขอทวงความยุติธรรมให้คนตายนิรโทษกรรมให้คนเป็น ผมอยากให้พรรคเพื่อไทยมองให้เห็นนะว่าประเด็นทางการเมืองเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณสามารถที่จะเปลี่ยนโครงสร้างทางการเมืองของประเทศไทยนี้ให้เป็นประชาธิปไตยที่แข็งแรงได้ประชาชนก็จะกลับมาสนับสนุนคุณ แต่วันนี้ผมรู้สึกว่าคุณช้าไปเยอะแล้ว แต่ก็ยังไม่สาย

คุณทักษิณเป็นคนที่มีความสามารถ เป็นคนที่มีประสบการณ์ในชีวิตเยอะ เขาดิ้นรนต่อสู้ชีวิตเยอะแต่ว่าการดิ้นรนต่อสู้ชีวิตของเขาส่วนใหญ่มันขีดวงเฉพาะเศรษฐกิจอย่างเดียว ความเข้าใจสำหรับผมนะ ทางการเมืองของคุณทักษิณนี้ผมว่ายังอ่อนแอมาก ถ้าจะพูดกันตรงไปตรงมาถ้าเปรียบเชิงระหว่างคุณทักษิณกับทางฝ่ายขวาจัดชั้นเชิงด้านการเมืองของคุณทักษิณสู้ทางฝ่ายขวาจัดก็ไม่ได้เลย ซึ่งเรื่องนี้เป็นจุดอ่อนของคุณทักษิณ

ผมต้องเรียนด้วยความเคารพ คุณทักษิณต้องระมัดระวัง เพราะวันนี้มีบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญห้ามคนอื่นมาครอบงำพรรคการเมือง ถึงเป็นพ่อก็ดี แต่พ่อสมัยใหม่จะไปครอบงำหรือครอบครองลูกไม่ได้ ลูกเขาเป็นตัวของเขาเองนะ ลูกเขามีสิทธิที่จะออกไปโบยบินออกไปจากเรา ลองไปอ่าน คาลิล ยิบราน เขียนไว้ว่า เขามาจากเรา แต่เขาไม่ใช่ของเรา

สุดท้าย นพ.เหวง ฝากทิ้งท้ายไว้ว่า สถานการณ์นี้ ไม่ควรประมาทชนชั้นนำ เพราะสิ่งที่เขาทำได้อย่างเก่งก็คือรัฐประหารยึดอำนาจ ในวันนี้ก็จะพัฒนาขึ้นมาอีกทางหนึ่งก็คือนิติสงคราม แล้วคนก็เริ่มเรียนรู้เรื่องนิติสงครามมากขึ้น มันไม่เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมสากล

ชมคลิป

 

สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj

— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022