รู้จัก ‘เลเวย์’ ศิลปินป๊อปแจ๊ซ ‘ไอซ์แลนด์-จีน’ ที่คนไทยเพิ่งได้ตกหลุมรัก

คนมองหนัง

“เลเวย์” (Laufey) คือหนึ่งในศิลปินที่สร้างความประทับใจให้แก่แฟนเพลงชาวไทยเป็นอย่างสูง จากการขึ้นเวทีในเทศกาลดนตรี “ซัมเมอร์โซนิคแบงค็อก 2024” เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา

เลเวย์มีชื่อเต็มๆ ว่า “เลเวย์ หลิน ปิง โยนส์โตห์ตีร์” ปัจจุบันเธอมีอายุ 25 ปี โดยถือกำเนิดในครอบครัวที่มีพ่อเป็นชาวไอซ์แลนด์ ส่วนแม่เป็นนักไวโอลินชาวจีน เช่นเดียวกับคุณตาและคุณยายของเธอ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนไวโอลินและเปียโน นอกจากนั้น เธอยังมีพี่น้องฝาแฝดเพศหญิงที่รักดนตรีเหมือนกันชื่อ “ยูเนีย”

เลเวย์เติบโตมาในฐานะลูกครึ่งเอเชียที่มีอยู่น้อยมากในประเทศไอซ์แลนด์ เธอนิยามตนเองว่าเป็นเด็กเนิร์ดที่หลงใหลในดนตรีคลาสสิค ซึ่งเลือกกลับบ้านไปซ้อมดนตรี มากกว่าจะไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ

ในวัย 15 ปี เลเวย์ได้ขึ้นเวทีในฐานะมือโซโล่ “เชลโล” ร่วมกับเดอะ ไอซ์แลนด์ ซิมโฟนี ออร์เคสตรา และได้เข้าประกวดในรายการโทรทัศน์แนวเรียลลิตี้โชว์ “ไอซ์แลนด์ ก็อต ทาเลนต์” โดยผ่านเข้าไปถึงรอบไฟนอล

ตั้งแต่เด็ก (ถึงปัจจุบัน) เลเวย์นิยามตนเองว่าเป็นคนที่มีวินัยตามแบบอย่างของนักดนตรีคลาสสิค เธอไม่นิยมไปงานปาร์ตี้หรือกินดื่มสังสรรค์ แต่มุ่งมั่นฝึกฝนทักษะด้านดนตรีและแสวงหาทุนการศึกษาเพื่อจะไปเรียนต่อในต่างประเทศ

ในที่สุด เธอก็ได้รับทุนการศึกษาจากวิทยาลัยดนตรี “เบิร์กลี” ที่บอสตัน สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำให้เลเวย์ได้เริ่มศึกษาดนตรีแจ๊ซอย่างจริงจัง

 

ศิลปินลูกครึ่งไอซ์แลนด์-จีนผู้นี้ เล่าว่าเธอได้รับแรงบันดาลใจในการทำงานเพลงเบื้องต้น มาจากแผ่นเสียงเพลงแจ๊ซของพ่อ และความรักในดนตรีคลาสสิคของแม่

เธอเริ่มเป็นที่รู้จักของสาธารณชน จากการโพสต์คลิปแสดงดนตรีลงในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะติ๊กต็อก ในช่วงล็อกดาวน์ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด

นำมาสู่การได้ออกผลงาน (ถึงตอนนี้ เธอมีสตูดิโออัลบั้มสองชุด อัลบั้มบันทึกการแสดงสดอีกหนึ่งชุด และมีซิงเกิลจำนวนมาก) ที่ได้รับความนิยมและเสียงชื่นชมในวงกว้าง

หนึ่งในข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน ก็คือการคว้ารางวัลแกรมมี่สาขา “อัลบั้มเพลงป๊อปดั้งเดิมยอดเยี่ยม” มาครอง จากอัลบั้มชุดที่สอง ซึ่งมีชื่อว่า “Bewitched”

เลเวย์ได้รับการยกย่องว่าเป็นศิลปินรุ่นใหม่ ที่ทำให้คนฟังเพลงรุ่นปัจจุบันหันมาสนใจดนตรีแจ๊ซ (ขณะที่คนฟังเพลงรุ่นเก่าก็ได้ย้อนกลับมาฟังสำเนียงดนตรีที่พวกตนคุ้นเคยจากน้ำเสียงของศิลปินรุ่นหลัง)

ผ่านงานดนตรีที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีคลาสสิคแจ๊ซยุค 1950 อันโดดเด่นด้วยเสียงดนตรีสนับสนุนของวงซิมโฟนีออร์เคสตรา และวิธีการเขียนเนื้อร้องในแนวทางสมัยนิยมที่มีศิลปินหญิงอย่าง “เทย์เลอร์ สวิฟต์” เป็นต้นแบบ

ต่อไปนี้ คือทัศนะบางส่วนที่เลเวย์เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับสื่อต่างๆ ซึ่งสะท้อนวิธีคิดและรสนิยมของเธอได้เป็นอย่างดี

 

“ดนตรีที่ฉันทำ ได้รับแรงบันดาลใจจากผลงานยุคเก่าๆ แต่เนื้อหาของมันกลับมีความทันสมัยอย่างมาก ฉันไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นใครสักคนที่ควรใช้ชีวิตอยู่ในทศวรรษอื่นๆ ก่อนหน้านี้ ฉันเป็นหญิงสาวของศตวรรษที่ 21 อย่างแท้จริง และรักที่จะใช้ชีวิตอยู่ในห้วงเวลานี้ เพราะไม่มีช่วงเวลาอื่นใด ที่เราจะสามารถเป็น ‘ผู้หญิง’ ได้มากเท่ากับยุคสมัยนี้อีกแล้ว

“ฉันยังคิดว่า ไม่มีช่วงเวลาไหนที่เราจะสามารถเป็น ‘นักดนตรี’ ได้ดีเท่ากับยุคสมัยนี้อีกด้วย เพราะคนฟังเพลงในยุคนี้นั้น (มีรสนิยม) เปิดกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นในยุคก่อนๆ พวกเรามีทางเลือกมากมายในการฟังดนตรีทุกประเภท

“ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่เรื่อง ‘แนวเพลง’ อีกต่อไป มันเป็นเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกมากกว่า และถึงที่สุด คนรุ่นใหม่ก็ยังต้องการฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ด้วยกัน พวกเขาไม่ต้องการจะฟังคำเทศนาสั่งสอนของคนรุ่นก่อน”

Laufey performing At EartH, Hackney, last month. Photograph: Burak Çıngı/Redferns

“ฉันรักที่จะได้เห็นคนดูจำนวนไม่น้อยพาพ่อแม่ของพวกเขามาดูคอนเสิร์ตของฉันด้วย แล้วพวกท่านก็ดูเหมือนจะมีความสุขกับการแสดงกันมากๆ

“เช่นเดียวกับที่ฉันได้รับข้อความทางโซเชียลมีเดียจำนวนมากจากคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ ที่ทักทายเข้ามาประมาณว่า ‘นี่คือดนตรีแบบเดียวกับที่เราคุ้นเคย และเราก็ภูมิใจมากที่ลูกๆ ของเราหันมาฟังดนตรีแบบนี้ กระทั่งพวกเราตัดสินใจไปดูคอนเสิร์ตด้วยกัน’

“ข้อความทำนองนี้ทำให้ฉันมีความสุขมากๆ ฉันคิดว่าปัจจุบันนี้มีความแตกแยกทางเจเนอเรชั่นเกิดขึ้นเยอะ และฉันก็ต้องการที่จะนำเสนออะไรบางอย่าง ซึ่งสามารถเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนต่างรุ่น”

 

“เชต เบเกอร์ น่าจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันเริ่มต้นทำเพลงเอง และเริ่มเขียนเพลงของตัวเอง ฉันตกหลุมรักการตีความ (ในการสร้างสรรค์ผลงานดนตรี) ของเขาเมื่อ 2-3 ปีก่อน (สัมภาษณ์เมื่อปี 2023) แล้วก็ตามไปฟังผลงานเพลงของเขาจนครบทุกชุด

“วิธีการใช้สำบัดสำนวนของเขา วิธีการเลือกใช้ถ้อยคำของเขา รวมถึงวิธีการโซโล่ ล้วนส่งอิทธิพลอย่างสูงมาถึงการสร้างสรรค์บทเพลงในแบบของฉัน

“ฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะเบเกอร์ทำให้ดนตรีแจ๊ซกลายเป็นสิ่งที่คนเจนซีและผู้ฟังรุ่นใหม่ๆ สามารถเข้าถึงได้ ฉันยอมรับว่าถ้าย้อนไปในตอนที่ตัวเองกำลังเรียนอยู่ที่ (วิทยาลัยดนตรี) เบิร์กลี ฉันคงรู้สึกหวาดกลัวมากที่จะพูดอะไรแบบนี้ออกมา แต่ในตอนนี้ ฉันไม่รู้สึกกลัวที่จะยืนยันถึงเรื่องนี้แล้ว

“เมื่อเพื่อนๆ ถามฉันว่า ‘ใครคือนักดนตรีแจ๊ซที่เราควรฟัง? ฉันมักตอบว่า ‘ไปฟังเชต เบเกอร์ สิ’ เพราะฉันคิดว่า นั่นคือวิถีทางที่ดีที่สุดที่จะแนะนำดนตรีแจ๊ซให้กับคนฟังกลุ่มใหม่ๆ เบเกอร์ไม่เพียงเป็นนักร้อง แต่เขายังเป็นนักดนตรี เขาเล่นดนตรีแจ๊ซเหมือนอย่างที่นักดนตรีแจ๊ซเล่นกัน” •

 

ข้อมูลจาก

https://www.theguardian.com/music/2024/mar/03/laufey-jonsdottir-iceland-bewitched-tour-grammys-interview

https://variety.com/2023/music/news/laufey-interview-tour-bewitched-album-jazz-pop-1235831966/

https://www.grammy.com/news/icelandic-jazz-singer-laufey-interview-new-album-bewitched

 

| คนมองหนัง