ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ |
ผู้เขียน | หนุ่มเมืองจันท์ |
เผยแพร่ |
ตอนที่ได้ข่าวว่าคุณทักษิณ ชินวัตร จะออกมาโชว์วิสัยทัศน์ในงานดินเนอร์ ทอล์ก ของค่ายเนชั่น
ผมรอคอยเลยครับ
เพราะติดตามเรื่องราวของคุณทักษิณมาตั้งแต่เป็นนักธุรกิจ
ระดับที่เขียนประวัติ “ทักษิณ ชินวัตร อัศวินคลื่นลูกที่ 3” ลงใน “มติชนสุดสัปดาห์” ก่อนใคร
เขียนจบนำมารวมเล่มขายซ้ำอีก
ตอน “ทักษิณ” ยังทำธุรกิจอยู่ หนังสือก็ขายดีระดับหนึ่ง
แต่พอมาเป็น “นายกรัฐมนตรี” หนังสือยิ่งขายดี
ต้องยอมรับว่าตอนเป็นนายกฯ “ทักษิณ” คือ “ซูเปอร์สตาร์” ตัวจริง
ขนาดเอาปาฐกถามารวมเล่มก็ยังขายได้
“ทักษิณ” พูดถึงหนังสือเล่มไหน หนังสือเล่มนั้นก็ขายดี
การได้ศึกษาแนวคิดตั้งแต่ตอนเป็นนักธุรกิจ ทำให้ผมจับทางคุณทักษิณตอนเป็นนักการเมืองได้ดีกว่านักข่าวสายการเมืองโดยตรง
เพราะวิธีคิดทางการเมืองของเขาเคยใช้ในทางธุรกิจมาก่อน
อย่างที่ผมเคยบอกว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุกคนล้วนมี “ท่าไม้ตาย”
เคยประสบความสำเร็จอย่างไรก็จะเริ่มต้นด้วยวิธีนั้นก่อน
เคยคิดแบบไหนก็จะคิดแบบนั้น
ไม่ค่อยเปลี่ยน
เพราะมันเป็น “ความเคยชิน”
ผมอยากรู้ว่าผ่านไป 17 ปี วิสัยทัศน์ของคุณทักษิณยังคมเหมือนเดิมหรือเปล่า
ตั้งใจรอคอยเลยครับ
แต่พลาดตรงที่ไปรับปาก “มติชนทีวี” ว่าจะมาออกรายการซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่คุณทักษิณแสดงวิสัยทัศน์
เลยอดฟังสดๆ
ได้ดูทันช่วงนั่งสัมภาษณ์กับ 2 บก.
ผมย้อนมานั่งอ่านข่าวและดูคลิปสั้นๆ ในแต่ละช่วง คลิปเต็มยังดูไม่จบ
ผมเริ่มดูตั้งแต่ตอนที่เข้างาน นั่งโต๊ะ จนขึ้นเวที
ไม่รู้ว่ามีใครสังเกตไหมว่าคุณทักษิณตื่นเต้น
จังหวะที่คุณฉาย บุนนาค ขึ้นพูดบนเวทีก่อนจะถึงคิวคุณทักษิณ
กล้องจับไปที่คุณทักษิณที่นั่งอยู่
เขาหลับตา หายใจเข้าลึกๆ จนเห็นได้ชัด
เหมือนรวบรวมสมาธิ
เพราะรู้ว่าการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้คือ จุดเปลี่ยนสำคัญทางการเมือง
ทั้งของตัวเขาและรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่มีนายกรัฐมนตรีชื่อ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร
ลูกสาวสุดที่รักของเขา
ตอนที่ให้สัมภาษณ์ในรายการของ “มติชนทีวี” ผมบอกน้องๆ ว่านอกจากอยากรู้คุณทักษิณมีไอเดียอะไรบ้าง
สิ่งที่ผมสนใจก็คือ “การเล่าเรื่อง”
เขาจะ “เล่าเรื่อง” เก่งเหมือนในอดีตหรือเปล่า
ช่วงที่เป็นนักธุรกิจ คุณทักษิณเป็นนักการตลาดที่เก่งมาก
ศิลปะการเล่าเรื่องของเขาเมื่อนำมาใช้กับการเมืองจึงเป็น “ความแตกต่าง” ที่เห็นชัด
ในการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งนี้ นอกจากการอธิบายเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่เข้าใจง่าย
ด้วยการแบ่งเป็น 1-2-3
เข้าใจง่ายว่ามีเหตุผลอะไรในการทำเรื่องนี้
ยังเข้าใจได้ง่ายว่า “ดิจิทัลวอลเล็ต” ใหม่จะไม่เหมือนที่ประกาศไว้
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมถือเป็น “ศิลปะการเล่าเรื่อง” ที่เหนือชั้น
คือ การถมทะเลที่บางปู และบางขุนเทียนเพื่อป้องกันน้ำท่วม
เรื่องนี้เป็นไอเดียเก่าที่คุณทักษิณเคยคิดไว้นานแล้ว
แต่ยังไม่ได้ลงมือทำ
ตอนที่พูดเรื่องถมทะเลในช่วงนั้น หลายคนมองว่าเพ้อฝัน เพราะการถมทะเลยังเป็นเรื่องใหม่
แต่ใน พ.ศ.นี้เทคโนโลยีทันสมัยขึ้น การถมทะเลเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าเดิม
และมีตัวอย่างให้เห็นมากมาย
ใกล้ประเทศไทยที่สุด ก็คือ สิงคโปร์
ถมแล้ว ถมอีก
ครั้งก่อน สินค้า “ถมทะเล” ของ “ทักษิณ” จะมีองค์ประกอบอยู่ 2 เรื่อง
คือ สร้างเมืองใหม่
และป้องกันน้ำท่วม
แต่มาวันนี้ “ทักษิณ” คิดเพิ่มเพื่อให้สินค้าตัวนี้เซ็กซี่ ดูทันสมัยหรือน่าสนใจขึ้น
ด้วยการเติมเรื่อง “กรีน”
เมืองใหม่จากการถมทะเลจะเป็นเมืองที่ปลอดจากมลภาวะ ใช้แต่รถอีวี
พอผสมเรื่องนี้เข้าไป โครงการนี้ก็น่าสนใจขึ้นมาทันที
แต่จะทำได้เมื่อไร
…กี่โมง
เป็นเรื่องที่ต้องติดตามตอนต่อไป
อีกเรื่องหนึ่งที่ยังเหมือนเดิม
คือ การตอบโต้ทางการเมืองอย่างเผ็ดร้อน
คุณทักษิณเป็นคนที่คิดอย่างไร จะต้องทิ้งร่องรอยไว้ในการพูด
ไม่ได้พูดตรงๆ
แต่ฟังแล้วรู้ได้เลยว่าคิดอย่างไร
หรือต้องการสื่ออะไร
อย่างตอนที่พูดถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ถามว่าโกรธกันเรื่องอะไร
เขาก็เล่าเลยว่าโกรธกันเรื่องไม่ยอมช่วยให้เป็นประธาน ป.ป.ช.
ผมนึกถึงบทสัมภาษณ์ของอาจารย์เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ที่พูดถึง พล.อ.ประวิตร
เขาเล่าว่าตอนเป็นวุฒิสมาชิก พล.อ.ประวิตรมาสมัครเป็น ป.ป.ช.
“เจิมศักดิ์” เป็นคนสัมภาษณ์
เขาถาม “ลุงป้อม” ว่าถ้าได้เป็น ป.ป.ช. พล.อ.ประวิตรจะทำอะไรบ้าง
“ยังคิดไม่ออก แต่ถ้าเข้าไปก็ทำได้ก็แล้วกัน”
เป็นคำตอบที่ “เจิมศักดิ์” จำได้ถึงทุกวันนี้
ก่อนหน้านี้ “ทักษิณ” เคยให้สัมภาษณ์ที่อาคารชินวัตร 3 ถึง “ลุงป้อม” หลายเรื่อง
แต่มีประโยคหนึ่งที่หลายคนอาจฟังผ่านๆ คิดว่าไม่มีอะไร
นักข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร ติดต่อมาขอเคลียร์ใจเพื่อร่วมรัฐบาลแล้วหรือยัง
“ทักษิณ” ตอบว่า ยังไม่เคยได้ยินเสียง พล.อ.ประวิตรเลย
“ได้ยินแค่เสียงที่ลอดมาจากโทรศัพท์หัวหน้าพรรคอื่น”
เหมือนไม่มีอะไร
แต่ถ้าใครรู้ข่าวเรื่องคืนวันที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ “เศรษฐา ทวีสิน” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
มีข่าวว่า “ลุงป้อม” โทร.ไปหาหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลหลายคน
ชวนมาสนับสนุนให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรี
ประโยคที่บอกว่า “ได้ยินแค่เสียงที่ลอดมาจากโทรศัพท์หัวหน้าพรรคอื่น” คือ การส่งสัญญาณให้รู้ว่า “ความลับไม่มีในโลก”
คล้ายๆ กับตอนที่คุยกัน เขาได้ยินกับหู
หลังจากฟังการแสดงวิสัยทัศน์ของ “ทักษิณ”
ผมสรุปได้สั้นๆ ว่า ไม่ว่าโลกจะหมุนไปกี่รอบ
“ทักษิณ” ยังคงเหมือนเดิม
“ท่าไม้ตาย” ไม่เปลี่ยน
“คารม” เชือดเฉือนก็ไม่เปลี่ยน
เปลี่ยนแค่ตำแหน่ง
จาก “นายกรัฐมนตรี”
เป็น “พ่อนายกรัฐมนตรี” •
ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022