ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
ภาษิตสำนวนไทยข้างต้นเป็นการเปรียบเปรยกรณีการเกิดเรื่องข้าวของสูญหายว่า ของก็หายไปโดยไร้ร่องรอยวี่แววหรือจับมือใครดมไม่ได้แล้ว แต่เจ้าของยังต้องแบกน้ำหนักติดตัวไปอีกจากการสงสัยคนโน้น ระแวงคนนี้ต่อไป ถ้ายังวางเฉยเสียไม่ได้
The Teachers’ Lounge เป็นหนังที่เป็นตัวแทนของประเทศเยอรมนี ซึ่งเข้ารอบชิงออสการ์สาขาภาพยนตร์ต่างประเทศยอดเยี่ยมในการประกวดครั้งที่ 96 เมื่อต้นปีที่ผ่านไป
ผู้กำกับฯ และผู้ร่วมเขียนบท อิลเกอร์ ชาตัก เป็นคนสัญชาติเยอรมันเชื้อสายตุรกี ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หนังของเขาสะท้อนภาพสังคมหลากหลายชนชาติที่มาอยู่รวมกันในประเทศที่ครั้งหนึ่งเคยเดียดฉันท์ชนชาติอื่นที่ไม่ใช่สายเลือดอารยัน
บัดนี้เช่นเดียวกับประเทศตะวันตกทั่วทั้งยุโรป ประเทศเยอรมนีได้แปรโฉมหน้ากลายเป็นแหล่งที่มีผู้คนหลากเชื้อชาติอพยพเข้ามาอยู่และผสมผสานกลายเป็นชาวเยอรมัน พูดภาษาเยอรมัน ไม่ว่าจะเป็นชาวตุรกี ชาวมุสลิม ชาวโปแลนด์ และอื่นๆ
หนังวางเหตุการณ์ไว้ในโรงเรียนที่ไม่บ่งบอกหลักแหล่งแห่งที่ในเยอรมนี
คาร์ลา โนแวก (เลโอนี เบเนช) เพิ่งเข้ามาเป็นครูสอนนักเรียนเกรด 7 สอนวิชาคณิตศาสตร์และพลศึกษา คาร์ลา…หรือครูโนแวก…ยังอ่อนวัยและอ่อนประสบการณ์ เพิ่งเริ่มอาชีพการสอนใหม่ๆ จึงยังยึดมั่นในอุดมการณ์และคุณธรรม และพยายามทำสิ่งที่คิดว่าถูกต้องและยุติธรรม
เมื่อเกิดเหตุเงินหายในโรงเรียนหลายครั้ง โรงเรียนจึงตั้งคณะสอบสวนหาตัวคนผิด และเรียกหัวหน้าชั้นมาให้เบาะแส แม้คาร์ลาจะไม่เห็นด้วยกับวิธีการ และเห็นว่าเป็นการคุกคามเด็กนักเรียน แต่เธอก็ต้องยอมคล้อยตามไปกับเพื่อนร่วมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า
นักเรียนในชั้นของเธอถูกค้นตัวค้นกระเป๋าสตางค์ ซึ่งปรากฏว่าเด็กชายที่ชื่ออาลีมีเงินในกระเป๋ามากผิดสังเกต
อาลีมีพ่อแม่ที่อพยพมาจากตุรกี พ่อแม่จึงไม่พอใจอย่างมากและถือเป็นการเหยียดเชื้อชาติหรือเลือกที่รักมักที่ชัง บอกว่าให้เงินลูกมาเพื่อซื้อวิดีโอเกม
การลักขโมยยังเกิดขึ้นต่อเนื่องอยู่อีก คาร์ลาจึงตัดสินใจลงมือหาหลักฐานข้อพิสูจน์ด้วยตัวเอง
เธอแอบเปิดกล้องแล็ปท็อปซึ่งวางไว้ในห้องพักครู ระหว่างออกไปสอนชั้นเรียนพละ และทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ในกระเป๋าด้วย
เมื่อกลับมาพบว่าเงินหายไป จึงเปิดดูวิดีโอที่แอบอัดไว้ ก็พบว่ามีคนมายุ่งกับของของเธอจริงๆ กล้องมองไม่เห็นตัวคน ได้เห็นแต่หลักฐานรายล้อมที่บอกตัวคนกระทำจากเสื้อที่สวมอยู่
ฟรีเดอริเก คุห์น (เอวา เลอบาว) เลขานุการโรงเรียน โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงและปฏิเสธ ซึ่งทำให้คาร์ลาต้องเอาหลักฐานในมือไปแจ้งให้อาจารย์ใหญ่ทราบ ซึ่งคุห์นก็ยังไม่ยอมรับ และผลุนผลันออกไปเมื่อถูกพักงานชั่วคราว จูงมือออสการ์ (เลโอนาร์ด สเต็ตนิช) ลูกชาย ซึ่งเป็นนักเรียนหัวดีในชั้นเรียนคณิตศาสตร์ของคาร์ลาไปด้วย
อาจารย์ใหญ่บอกคาร์ลาว่าถ้าเรื่องนี้ไปถึงตำรวจ คาร์ลาก็จะพลอยมีความผิดไปด้วย เนื่องจากการแอบถ่ายวิดีโอในห้องพักครูนั้นเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัว และครูหลายคนต่างก็ไม่พอใจกับการกระทำแบบสอดแนมของคาร์ลาโดยไม่แจ้งให้ใครทราบล่วงหน้า (ก็เวลาอยากจับขโมยน่ะ จะบอกให้ใครที่อาจเป็นขโมยรู้ล่วงหน้าได้ยังไงล่ะ)
ออสการ์โกรธแค้นแทนแม่ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นคนบริสุทธิ์ จึงปลุกปั่นเพื่อนๆ ให้ประท้วงคาร์ลา โดยแสดงการดื้อแพ่งไม่ยอมให้ความร่วมมือหรือทำตามคำสั่งของครูในชั้นเรียน
แถมในการประชุมครูกับผู้ปกครอง คาร์ลาก็ยังต้องรับข้อกล่าวหาและอารมณ์อันร้อนแรงของผู้ปกครองหลายคน รวมทั้งคำประณามอย่างสาดเสียเทเสียของฟรีเดริเก คุห์น
สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงจากการที่คาร์ลาสัมภาษณ์แก่ตัวแทนนักเรียนที่ทำวารสารของโรงเรียน คำตอบของคาร์ลาถูกบิดเบือนและนำไปใช้ในบริบทอื่น ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง
ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่น่าจะถูกต้องของคณะครูและอาจารย์ใหญ่ที่สั่งแบนวารสารฉบับนั้น…เรื่องราวน่าจะนำไปสู่การลิดรอนเสรีภาพในการแสดงออกอีกประเด็นกระมัง
และนำไปสู่การที่คาร์ลาผู้อึดอัดและเครียดจนเกิดอาการตื่นตระหนกโดยฉับพลัน ต้องหลบไปหายใจในห้องน้ำ และนำชั้นเรียนทั้งชั้นให้กรีดร้องสุดเสียงเพื่อระบายอารมณ์
เธอเกิดความระแวงไปหมด จนมองเห็นคนทั้งโรงเรียนใส่เสื้อสีขาวลายดอกแบบที่โผล่ให้เห็นในเทปวิดีโอ
ออสการ์ นักเรียนคนเก่งที่สุดในชั้นคณิตศาสตร์ ก็กลายเป็นปฏิปักษ์กับครู และแสดงอาการท้าทายดื้อแพ่งจนถึงที่สุด
หนังเดินเรื่องจากมุมมองของคาร์ลาโดยตลอด จะก็มีเฉพาะฉากสุดท้ายเท่านั้นที่ออกนอกกรอบที่วางไว้ไป ซึ่งเป็นการขมวดเรื่องด้วยภาพและคำประกาศจุดยืนที่เด่นชัดและทิ้งค้างประทับไว้ในใจคนดู
ประเด็นของหนังไม่ได้อยู่ที่ใครเป็นขโมยและคนที่ถูกกล่าวหากระทำผิดจริงหรือไม่ ดังนั้น หนังจึงทิ้งไว้ให้เราคาดเดากันไปเอง ทว่า ก็ออกจะมีเงื่อนงำชี้ให้เห็นพอที่เราจะสรุปได้
ไม่ว่าจะเป็นสมการทางคณิตศาสตร์ซึ่งออสการ์พิสูจน์และแจกแจงค่าตัวเลขโดยการเขียนบนกระดานต่อหน้าชั้นเรียน (0.999 = 1.0) โดยบอกว่าความแตกต่างของ .001 ในที่นี้จริงๆ แล้วไม่มีความสำคัญเลย
นอกจากครูคณิตศาสตร์แล้ว เพื่อนทั้งชั้นไม่มีใครเข้าใจตรรกะนี้
คาร์ลาเคยมอบลูกบาศก์รูบิก (Rubik cube) ซึ่งมีหกด้านหกสี และต้องเล่นโดยการบิดจัตุรัสเล็กๆ ให้มีสีตรงกันหมดในแต่ละด้าน พวกเก่งเลขเก่งคณิตจะแก้ปัญหาได้ดีด้วยอัลกอริธึ่ม (algorithm) ทีละขั้นๆ
ออสการ์แกะโจทย์นี้สำเร็จได้ในที่สุด
แม้จะยืนหยัดดื้อแพ่งจนถึงที่สุด แต่ออสการ์ก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์จากแม่ ส่วนแม่ก็ไม่ยอมมารับลูกกลับบ้านเช่นกัน
ทั้งหลายทั้งปวงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่โรงเรียนกำลังจัดทัศนศึกษาให้นักเรียนในชั้น และต้องเก็บค่าใช้จ่ายจากผู้ปกครอง
เป็นหนังที่สร้างเรื่องได้ฉลาดและชวนคิด ในเรื่องความจริง-การโกหก ความดี-ความชั่ว การทำตามกฎอย่างเคร่งครัด-การโอนอ่อนด้วยความเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ฯลฯ
และบรรยากาศอันไม่ไว้วางใจต่อกันและกัน ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ผู้ปกครองต่อครู นักเรียนต่อครู การละเมิดสิทธิ์ ซึ่งสมัยก่อนประเด็นเหล่านี้อาจจะแทบไม่เคยเป็นประเด็นที่ต้องคำนึงถึงเลย
น่าเสียดายที่สถาบันครูก็ถูกเซาะกร่อน ไม่ได้รับความยำเกรงและเคารพเหมือนแต่เดิมอีกแล้ว ในเมื่อนักเรียนไม่เชื่อใจ ไม่เคารพเชื่อฟัง ระบบการศึกษาอบรมบ่มนิสัยก็คงเป็นไปได้ยากเสียแล้ว
นี่เป็นหนังที่ดีมากที่สุดเรื่องหนึ่งค่ะ •
THE TEACHERS’ LOUNGE
กำกับการแสดง
Ilker Catak
นำแสดง
Leonie Benesch
Rafael Stachowick
Eva Lobau
Leonard Stettnisch
ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022