ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | โฟกัสพระเครื่อง |
เผยแพร่ |
“พระครูธรรมสาทิศ” หรือ “หลวงพ่อแม้น ธัมมสโร” วัดใหญ่โพหัก ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง วัตถุมงคลมากด้วยประสบการณ์
เป็นพระเกจิที่มีวัตถุมงคลเป็นที่นิยมสูงเป็นอันดับต้นของอำเภอบางแพ ชื่อเสียงโด่งดังมาก
เกียรติคุณความแก่กล้าในวิทยาคมยังได้รับการกล่าวขานจนถึงปัจจุบัน พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ปลุกเสกไว้ล้วนเป็นที่ปรารถนา หลายรุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง โดยเฉพาะ “เหรียญรุ่นแรก”
จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2494 ลักษณะเป็นเหรียญทรงน้ำเต้า แบบมีหูในตัว สร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้บันทึกไว้
อย่างไรก็ตาม เหรียญรูปทรงน้ำเต้ารุ่น พ.ศ.2518 ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน
เหรียญสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2518 ในสมัยที่หลวงปู่บัว อินทโชติ เป็นเจ้าอาวาส ลักษณะเป็นแบบเดียวกับเหรียญรุ่นแรก แต่ทางวัดแกะแม่พิมพ์ใหม่ สร้างด้วยเนื้อทองแดงเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น จำนวนการสร้างไม่ได้มีการจดบันทึกไว้
ลักษณะเป็นเหรียญทรงน้ำเต้าแบบมีหูในตัว ด้านหน้า ตรงกลางเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อแม้นครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่ พาดผ้าสังฆาฏิ ด้านบนรูปหลวงพ่อมีอักขระยันต์ มะ อะ อุ มีข้อความภาษาไทย เขียนคำว่า “พระครูธรรมสาทิส (แม้น)”
ด้านหลัง มีอักขระยันต์พระเจ้าห้าพระองค์ ใต้ยันต์มีข้อความภาษาไทย เขียนคำว่า “วัดใหญ่โพหัก พ.ศ.๒๔๙๔” โดยตัวเลข ๒๔๙๔ ปลายหางจะงอ เป็นเอกลักษณ์
เหรียญรุ่นนี้ปลุกเสกเมื่อวันเสาร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2518 โดยมีพระเกจิอาจารย์เรืองนามเข้าพิธีปลุกเสก เช่น หลวงพ่อเงิน จันทสุวัณโณ วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อสาย สุกกปุณโณ วัดหนองสองห้อง, หลวงปู่โต๊ะ อินทสุวัณโณ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเกลี้ยง โสภิโต วัดเฉลิมอาสน์ เป็นต้น
แม้จะเป็นเหรียญตาย แต่มิใช่ว่าจะด้อยพุทธคุณ จัดเป็นเหรียญที่หายากอีกเหรียญเช่นเดียวกัน
อัตโนประวัติ เกิดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2434 เป็นชาวตำบลโพธิ์หักมาแต่กำเนิด เป็นบุตรของนายทอง และนางโมง ทิมบุตร
ในช่วงวัยเยาว์ ศึกษาเล่าเรียนหนังสือไทยและบาลีกับหลวงพ่อกล่อม วัดใหญ่โพหัก
เมื่อเติบใหญ่จนอายุ 21 ปี ในปี พ.ศ.2455 เข้าพิธีอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดใหญ่โพหัก โดยมีหลวงพ่อแดง วัดทำนบ ต.วัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการดำ วัดจินดาราม ต.ตลาดจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอธิการอ้น วัดใหญ่โพหัก เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา ธัมมสโร
จำพรรษาอยู่ที่วัดใหญ่โพธิ์หัก เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมจากพระอาจารย์หลายท่าน ทั้งในจังหวัดราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม เริ่มตั้งแต่หลวงพ่อกล่อม วัดโพหัก, หลวงพ่อแดง วัดทำนบ, หลวงพ่อแช่ม วัดดอนเซ่ง, หลวงพ่อดำ วัดจินดาราม, หลวงพ่อรุ่ง วัดดอนยายหอม เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม และหลวงพ่อสาย วัดหนองสองห้องด้วย
กระทั่งในปี พ.ศ.2460 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดใหญ่โพหักว่างลง คณะสงฆ์จึงแต่งตั้งให้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา ทำนุบำรุงวัดอย่างสุดความสามารถ บำเพ็ญประโยชน์ต่อพระศาสนา บูรณะวัดใหญ่โพหัก เดิมซึ่งชำรุดทรุดโทรมให้ดีขึ้น
สําหรับ “วัดใหญ่โพหัก” เป็นวัดเก่าแก่โบราณวัดหนึ่งของจังหวัดราชบุรี
ความเป็นมาจากปากคำบอกเล่าของชาวบ้านกล่าวกันไว้หลายทาง ทางหนึ่งเป็นเรื่องเล่าที่เกี่ยวพันถึงพญากง พญาพาน ว่าพญาพานได้ยกทัพเพื่อจะไปรบกับพญากงผู้เป็นบิดา ผ่านมาบริเวณบ้านโพหักนี้ เห็นว่ามีทำเลที่เหมาะสม จึงได้หยุดพักไพร่พล เหล่าไพร่พลที่มาในกองทัพได้เอาศาสตราวุธที่นำมาด้วยไปพิงไว้กับต้นโพธิ์ ทำให้ต้นโพธิ์หักลงอันเป็นอาเพศบอกเหตุว่า พญาพานจะกระทำปิตุฆาตฆ่าบิดาของตน ตำบลแห่งนี้จึงได้ชื่อว่า “ตำบลโพหัก”
ทางหนึ่งเล่าว่า ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พม่าได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา ได้มาหยุดพักพล ณ ตำบลนี้ ทหารพม่าได้เอาปืนใหญ่ที่นำมาด้วยไปวางพิงไว้กับต้นโพธิ์ ทำให้ต้นโพธิ์หักลงมา จึงได้เรียกกันเป็นที่หมายของการพบปะกันบริเวณแห่งนี้ว่า “ตำบลโพหัก”
อีกทางหนึ่งเล่าว่า เมื่อกรุงศรีอยุธยาแตก ราษฎรจากกรุงศรีอยุธยา พากันอพยพหนีภัยสงคราม โดยมีการใช้เกวียนบรรทุกทรัพย์สมบัติต่างๆ หนีการปล้นสะดมของทหารพม่ามาถึงตำบลหนึ่ง วัวที่ใช้เทียมเกวียนเกิดเมื่อยล้า ไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ ชาวบ้านจึงได้หยุดแล้วเอาทรัพย์สมบัติที่ขนมากองและแขวนไว้กับต้นโพธิ์ ทำให้ต้นโพธิ์หักลง จึงเรียกสถานที่ดังกล่าวว่า “บ้านโพหัก” และมีการสร้างวัดขึ้น
ภายในวัดมีมณฑปและพระพุทธรูปเก่าแก่ วัดตั้งเมื่อปี พ.ศ.2277 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ.2493
ในปี พ.ศ.2463 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลโพหัก ทั้งที่อายุพรรษายังน้อย
พ.ศ.2480 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูชั้นประทวน
พ.ศ.2492 ได้รับพระราชทานยศพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูธรรมสาทิศ
ดูแลพระสงฆ์และทำนุบำรุงวัดใหญ่โพธิ์หักเป็นอย่างดี ด้วยความที่เป็นพระที่มีเมตตาและมีวาจาสิทธิ์ จึงเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน ทั้งยังส่งเสริมการศึกษาสร้างโรงเรียนประถมศึกษาให้ชาวตำบลโพหัก
ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ว่ากันว่ามีชาวบ้านล้วนนำกุลบุตรให้ทำพิธีบวชให้เป็นจำนวนมาก
ด้วยความที่มีจิตใจดี ใครนิมนต์ให้ไปบวชให้ที่ไหน ก็จะขี่ม้าไปบวชให้ทุกที่ ไม่เคยปฏิเสธ อีกทั้งวิทยาคมทำให้ชาวบ้านได้รับรู้ ได้เห็นกัน ยิ่งทำให้เคารพยิ่งขึ้นไป
มีเรื่องเล่ากันว่า เมื่อครั้งที่มีการขุดคลองป่าหลวงไปถึงช่วงหนึ่งแล้วต้องหยุด เพราะขุดต่อไปไม่ได้ จึงบอกกับชาวบ้านว่าให้ทำพิธีขอขมา และเมื่อขุดต่อไป จึงได้พบโครงกระดูกคนโบราณมีความสูงถึง 8 ศอก เพราะเชื่อว่ากล่าวถึงสิ่งใดล้วนเป็นจริงดังว่า
ผู้คนจึงต่างเชื่อว่ามีวาจาสิทธิ์และล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
มรณภาพลง เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2498 สิริอายุ 65 ปี พรรษา 44 •
โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022