ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
เปิดราคาออกมาอย่างอื้ออึงของ “MG3” เก๋งพลังไฮบริด น้องเล็กที่สุดของค่าย
ด้วย 2 รุ่นย่อย
ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น D ราคา 559,900 บาท*
ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น X ราคา 599,900 บาท*
แต่นี่เป็นราคาพิเศษเฉพาะ 1,000 คันแรก ช่วงเปิดตัวเท่านั้น เมื่อหมดโปรจะปรับขึ้นอีกรุ่นละ 20,000 บาท
กระนั้นถือว่าทำราคาได้น่าสนใจมากๆ
เมื่อมีเก๋งใหม่ออกมา “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” จึงถือโอกาสนำรถคู่แข่งมาเทียบฟอร์มกัน
โดยเน้นที่ขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตรเหมือนกัน
ยกมา 2 รุ่นเด่นๆ ที่ถือว่าขายดิบขายดีระดับแถวหน้า
ทั้งฮอนด้า ซิตี้ (CITY) e:HEV
มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย
e:HEV SV ราคา 769,000 บาท และ e:HEV RS ราคา 839,000 บาท
และ “ยาริส ครอส” (YARIS CROSS) HEV
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย
HEV SMART 789,000 บาท, HEV PREMIUM 849,000 บาท และ HEV PREMIUM LUXURY 899,000 บาท
แม้ราคาอาจห่างกันอยู่สักหน่อย แต่ถือว่านำมาเป็นทางเลือกให้ผู้สนใจ
ภาพลักษณ์ภายนอก MG3 มาในทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตู
ไฟหน้า LED แบบใหม่ Hunter Eye Headlamp ดวงตานักล่า พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
กระจังหน้าแบบใหม่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น
ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ
รอบตัวถังเน้นความโค้งมน
ล้ออัลลอยมา 5 ก้าน ลายใหม่ ขนาด 16 นิ้ว
ส่วน CITY ใหม่ ที่ปรับโฉมไปไม่นาน
กระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED
มือจับประตูด้านนอกโครเมียม กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว
ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ
เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ
ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว
ขณะที่ YARIS CROSS กระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าและไฟท้าย Full LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ
พร้อม Follow-Me-Home
ไฟ Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า LED
ไฟ Welcome Lamp ที่กระจกมองข้าง
กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ
ซุ้มล้อสีดำเพิ่มความบึกบึนมากขึ้น ขณะที่ชายล่างประตู เพิ่มลูกเล่นดูไม่โล้นเกินไป
สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
ประตูท้ายระบบ Kick-Activated หรือเปิดโดยไม่ต้องใช้มือ
ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17-18 นิ้ว
ภายใน YARIS CROSS ใช้โทนสีเทาดำ ตกแต่งภายในด้วยวัสดุบุนุ่ม
วัสดุหุ้มเบาะนั่งพร้อมเทคโนโลยี QUOLE MODULE ช่วยลดการสะสมความร้อน
พวงมาลัยทรงสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น จอ MID แบบ Digital 7 นิ้ว
ตรงกลางเป็นหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 มีช่องปรับอากาศตอนหลัง
เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
ที่นั่งฝั่งผู้ขับขี่ให้มีดีไซน์แบบ “Driver-Oriented Cockpit”
MG3 ออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ
เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสีเปียโนแบล็ก
พวงมาลัยทรงแปลกตาไม่กลมดิกแต่ดูไฮเทคมากขึ้น พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น
หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว
หน้าจอกลางแบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
เชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย
เกียร์แบบแป้นทรงกลม หมุนไปมา
และ CITY ตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน หรือสีดำ Piano Black
วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ปรับระดับ 4 ทิศทาง
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
มีระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย
มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch
รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ลำโพง 8 ตำแหน่ง
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง
ขุมพลัง CITY แบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว
ระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)
แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน
แรงบิดมอเตอร์สูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20
MG3 ขุมพลัง HYBRID+ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า รองรับน้ำมัน E20
ทำงานผสานกับมอเตอร์ที่ใช้สร้างกระแสไฟได้สูงสุด 45 กิโลวัตต์
แบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 1.83 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง
รวมแรงม้าสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร
เกียร์ไฟฟ้า EDU 3
โหมดควบคุมการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Standard และโหมด Sport
ทั้งยังมีระบบ KERS เหมือนในรถไฟฟ้า ที่สามารถปรับการใช้งานได้ 3 ระดับ
การขับขี่แบ่งเป็น 8 โหมดการทำงานหลักๆ
ส่วน YARIS CROSS ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i
ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 580 โวลต์
แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน (Li-ion) แรงดันไฟฟ้า 177.6 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 4.3 แอมแปร์-ชั่วโมง
กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร
ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT
ประหยัดน้ำมัน 26.3 กิโลเมตร/ลิตร
ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่ MG3 มากับมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM
ครอบคลุมระบบความปลอดภัย ADAS เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ
พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)
กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition ฯลฯ
CITY อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ฯลฯ
และ YARIS CROSS มากับระบบ Toyota Safety Sense
อาทิ ระบบช่วยการทรงตัว พร้อมระบบ Speed Auto Lock
ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว
ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM & RCTA
กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor ฯลฯ
มีงบฯ ขนาดไหน หรือชอบรูปทรงแบบใด ลองพิจารณากันดูกับ 3 รถยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร •
ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022