‘MG3 – CITY – YARIS CROSS’ เทียบฟอร์มเด่น ‘3 รถไฮบริด’ 1.5 ลิตร

สันติ จิรพรพนิต

เปิดราคาออกมาอย่างอื้ออึงของ “MG3” เก๋งพลังไฮบริด น้องเล็กที่สุดของค่าย

ด้วย 2 รุ่นย่อย

ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น D ราคา 559,900 บาท*

ALL NEW MG3 HYBRID+ รุ่น X ราคา 599,900 บาท*

แต่นี่เป็นราคาพิเศษเฉพาะ 1,000 คันแรก ช่วงเปิดตัวเท่านั้น เมื่อหมดโปรจะปรับขึ้นอีกรุ่นละ 20,000 บาท

กระนั้นถือว่าทำราคาได้น่าสนใจมากๆ

เมื่อมีเก๋งใหม่ออกมา “ยานยนต์ สุดสัปดาห์” จึงถือโอกาสนำรถคู่แข่งมาเทียบฟอร์มกัน

โดยเน้นที่ขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตรเหมือนกัน

ยกมา 2 รุ่นเด่นๆ ที่ถือว่าขายดิบขายดีระดับแถวหน้า

ทั้งฮอนด้า ซิตี้ (CITY) e:HEV

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

e:HEV SV ราคา 769,000 บาท และ e:HEV RS ราคา 839,000 บาท

และ “ยาริส ครอส” (YARIS CROSS) HEV

มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

HEV SMART 789,000 บาท, HEV PREMIUM 849,000 บาท และ HEV PREMIUM LUXURY 899,000 บาท

แม้ราคาอาจห่างกันอยู่สักหน่อย แต่ถือว่านำมาเป็นทางเลือกให้ผู้สนใจ

ภาพลักษณ์ภายนอก MG3 มาในทรงแฮทช์แบ็ก 5 ประตู

ไฟหน้า LED แบบใหม่ Hunter Eye Headlamp ดวงตานักล่า พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights)

กระจังหน้าแบบใหม่ดูโฉบเฉี่ยวขึ้น

ไฟท้ายได้รับแรงบันดาลใจจากปีกผีเสื้อ

รอบตัวถังเน้นความโค้งมน

ล้ออัลลอยมา 5 ก้าน ลายใหม่ ขนาด 16 นิ้ว

ส่วน CITY ใหม่ ที่ปรับโฉมไปไม่นาน

กระจังหน้าโครเมียม ไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED

มือจับประตูด้านนอกโครเมียม กระจกมองข้างปรับและพับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยวในตัว

ฝาครอบกระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ

เสาอากาศแบบครีบฉลามสีเดียวกับตัวรถ

ล้ออัลลอยแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว

ขณะที่ YARIS CROSS กระจังหน้าใหม่ ไฟหน้าและไฟท้าย Full LED ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ

พร้อม Follow-Me-Home

ไฟ Daytime Running Light ไฟตัดหมอกหน้า LED

ไฟ Welcome Lamp ที่กระจกมองข้าง

กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ ปรับและพับด้วยระบบไฟฟ้า รวมถึงพับเก็บอัตโนมัติเมื่อล็อกรถ

ซุ้มล้อสีดำเพิ่มความบึกบึนมากขึ้น ขณะที่ชายล่างประตู เพิ่มลูกเล่นดูไม่โล้นเกินไป

สปอยเลอร์หลังพร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

เสาอากาศแบบครีบฉลาม

ประตูท้ายระบบ Kick-Activated หรือเปิดโดยไม่ต้องใช้มือ

ล้ออัลลอยปัดเงาสีทูโทน ขนาด 17-18 นิ้ว

ภายใน YARIS CROSS ใช้โทนสีเทาดำ ตกแต่งภายในด้วยวัสดุบุนุ่ม

วัสดุหุ้มเบาะนั่งพร้อมเทคโนโลยี QUOLE MODULEŽ ช่วยลดการสะสมความร้อน

พวงมาลัยทรงสปอร์ตพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น จอ MID แบบ Digital 7 นิ้ว

ตรงกลางเป็นหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว เชื่อมต่อ Apple CarPlay & Android Auto แบบไร้สาย ลำโพง Pioneer 6 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกรองฝุ่น PM 2.5 มีช่องปรับอากาศตอนหลัง

เบรกมือไฟฟ้า EPB พร้อมระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ

ที่นั่งฝั่งผู้ขับขี่ให้มีดีไซน์แบบ “Driver-Oriented Cockpit”

MG3 ออกแบบคอนโซลที่เล่นระดับให้มีมิติ

เพิ่มความหรูหราด้วยภายในแบบทูโทนขาวสลับดำ ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสีเปียโนแบล็ก

พวงมาลัยทรงแปลกตาไม่กลมดิกแต่ดูไฮเทคมากขึ้น พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น

หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว

หน้าจอกลางแบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว

เชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย

เกียร์แบบแป้นทรงกลม หมุนไปมา

และ CITY ตกแต่งคอนโซลหน้าสีเงิน หรือสีดำ Piano Black

วัสดุหุ้มเบาะหนังแท้และหนังสังเคราะห์สีดำตกแต่งด้วยด้ายสีแดง

พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น ปรับระดับ 4 ทิศทาง

ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

มีระบบช่วยชะลอความเร็วรถที่พวงมาลัย

มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว

ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch

รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย ลำโพง 8 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง

 

 

ขุมพลัง CITY แบบฟูลไฮบริด e:HEV ผสานการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กับเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว

ระบบเกียร์อัตโนมัติ อัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT)

แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน

แรงบิดมอเตอร์สูงสุดที่ 253 นิวตัน-เมตร ที่ 0-3,000 รอบต่อนาที ประหยัดน้ำมันถึง 27.8 กิโลเมตร/ลิตร รองรับพลังงานทางเลือก E20

MG3 ขุมพลัง HYBRID+ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า รองรับน้ำมัน E20

ทำงานผสานกับมอเตอร์ที่ใช้สร้างกระแสไฟได้สูงสุด 45 กิโลวัตต์

แบตเตอรี่ Lithium-Ion ความจุ 1.83 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง

รวมแรงม้าสูงสุด 194 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร

เกียร์ไฟฟ้า EDU 3

โหมดควบคุมการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Eco โหมด Standard และโหมด Sport

ทั้งยังมีระบบ KERS เหมือนในรถไฟฟ้า ที่สามารถปรับการใช้งานได้ 3 ระดับ

การขับขี่แบ่งเป็น 8 โหมดการทำงานหลักๆ

ส่วน YARIS CROSS ขุมพลังเครื่องยนต์ไฮบริด 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว แบบ Dual VVT-i

ทำงานควบคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร แรงดันไฟฟ้าสูงสุด 580 โวลต์

แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน (Li-ion) แรงดันไฟฟ้า 177.6 โวลต์ ความจุไฟฟ้า 4.3 แอมแปร์-ชั่วโมง

กำลังรวมสูงสุด 111 แรงม้า แรงบิด 141 นิวตัน-เมตร

ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ E-CVT

ประหยัดน้ำมัน 26.3 กิโลเมตร/ลิตร

 

ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่ MG3 มากับมาตรฐาน ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM

ครอบคลุมระบบความปลอดภัย ADAS เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจำนวน 8 ระบบ

พร้อมระบบเบรกอัจฉริยะ (Intelligent Brake System)

กล้องรอบคัน 360 องศา แบบ High Definition ฯลฯ

CITY อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน ฯลฯ

และ YARIS CROSS มากับระบบ Toyota Safety Sense

อาทิ ระบบช่วยการทรงตัว พร้อมระบบ Speed Auto Lock

ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนตัว

ระบบป้องกันการเหยียบคันเร่งผิดวิธี

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง BSM & RCTA

กล้องมองภาพรอบคัน Panoramic View Monitor ฯลฯ

มีงบฯ ขนาดไหน หรือชอบรูปทรงแบบใด ลองพิจารณากันดูกับ 3 รถยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]