ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม - 5 กันยายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | โลกทรรศน์ |
ผู้เขียน | อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์ |
เผยแพร่ |
ระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง 1 มีความชุลมุนกันชนิดฝุ่นตลบในประเด็นพื้นฐานจากพรรคร่วมรัฐบาล
การชิงเสนอรายชื่อรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ของหัวหน้าพรรค พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับของเลขาธิการพรรค ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เป็นมากกว่าเรื่องของใหม่ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย
กล่าวคือ แสดงความแตกแยกชัดเจนของพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ แต่ด้วยจำนวนส.ส.สังกัดร้อยเอกมีมากถึง 30 คน มากกว่า ส.ส.สังกัดพลเอกหัวหน้าพรรค แม้ผมจะไม่ทราบผลของการเผชิญหน้าตอนเขียนบทความนี้ แต่นี่เป็นความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งส่งผลต่อรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง 1 แน่นอน
แม้ยังมีเรื่องคุณพ่อของนายกรัฐมนตรี เรื่องนายกรัฐมนตรีไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง ไม่เคยดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีประสบการณ์การบริหารงานภาครัฐ มีอายุน้อยเกินไปหรือเปล่า
เราควรดูภาพกว้าง แต่สิ่งสำคัญของการก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ภาพปฏิสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างแพทองธาร ชินวัตร และครอบครัวของเธอกับพลังการเมืองที่เข้มแข็ง กลุ่มพลังอนุรักษนิยม
เพราะนี่หมายถึงพื้นฐานด้านเสถียรภาพทางการเมืองของรัฐบาลใหม่เลยทีเดียว
เส้นทางการเมืองนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร
แพทองธาร ชินวัตร ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและไม่คาดคิดมาก่อน ซึ่งรวมถึงครอบครัวชินวัตรเข้ามามีบทบาททางการเมืองอีกด้วย แต่ไม่จำเป็นที่รัฐบาลใหม่ต้องมีเสถียรภาพ
ทำไม
แม้ว่านายกรัฐมนตรีแพทองธารทำตัวเป็นมิตรกับกลุ่มอนุรักษนิยม แต่เธอก็ถูกจับตาใกล้ชิดจากกลุ่มอนุรักษนิยม และนี่เป็นกุญแจสำคัญของเสถียรภาพและความอยู่รอดทางการเมืองของเธอ
แพทองธาร ชินวัตร ชนะได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีท่ามกลางสัญญาณที่ฉายไปที่พ่อของเธอทำ ดีล กับกลุ่มอนุรักษนิยมมาหมาดๆ เราจะเห็นได้ว่า ทักษิณ ชินวัตร และอดีตภรรยาของเขามีความ ลังเลที่จะให้ไฟเขียวทางการเมืองของลูกสาวตั้งแต่ต้น
ความลังเลเห็นได้ชัดในการเสนอครั้งแรกของทักษิณ ชินวัตร ที่เขาเองเลือก คุณชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรีในชั่วโมงที่นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน หลุดจากตำแหน่ง
กลุ่มอนุรักษนิยมกระโจนอย่างรวดเร็ว เรื่องในอดีตที่คุณชัยเกษม นิติสิริ เรียกร้องการปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อันเป็นประเด็นร้อนที่คว่ำพรรคก้าวไกล พรรคที่ชนะการเลือกตั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา
การแต่งตั้งคุณชัยเกษม นิติสิริ จะมีทั้งความแตกแยกและสัญญาณ ดีล หลังห้องระหว่างทักษิณ ชินวัตร กับตัวแทนกลุ่มอนุรักษนิยม แล้วจะทำให้พรรคเพื่อไทยร่วมกับกลุ่มทหารและพรรคนิยมอนุรักษนิยมไปด้วยกันไม่ง่ายเลย ในนาม เอกภาพแห่งชาติ ที่เสนอในปีที่แล้ว
ถ้าเป็นเช่นนั้น ตอนนี้ทักษิณ ชินวัตร ต้องระมัดระวังอย่างมาก ด้วยแพทองธารอาจถูกกดดัน ผลักเธอก้าวสู่อำนาจก่อนที่เธอจะพร้อมในเวลาสำคัญนี้
รอยปริแยก
แกนนำอนุรักษนิยมบางคนยืนยันทักษิณ ชินวัตร ทำให้แตกแยกในเรื่องการได้รับพระราชทานอภัยโทษ ที่อนุญาตให้ทักษิณ ชินวัตร กลับไทยจากการลี้ภัยทางการเมืองนาน 17 ปี โดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่คืนเดียว ที่นำทางโดยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน
ถ้า ดีล ล้มเหลว แพทองธารอาจต้องเผชิญแบบเดียวกับพ่อของเธอและอาของเธอ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ
การต่อต้านจากกลุ่มอนุรักษนิยม โดยเฉพาะถ้าแพทองธารจัดอันดับเรื่องนิรโทษกรรมทางการเมือง ที่สามารถนำอายิ่งลักษณ์ ชินวัตร กลับจากการลี้ภัยทางการเมือง แพทองธารอาจถูกตรวจสอบคำวิจารณ์ต่างๆ ของเธอเรื่องการปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ช่วงที่เธอหาเสียงให้กับพรรคเพื่อไทยในปีที่แล้ว ไม่ควรลืม เธออุ้มท้องแล้วสวมเสื้อแดงหาเสียง ชัดเจนอยู่แล้ว
มีสัญญาณใหม่ “บ่วงอนุรักษนิยม” กำลังมัดตระกูลชินวัตรอีกครั้ง ทักษิณ ชินวัตร เผชิญหน้ากับการฟ้องร้องคดีหมิ่น ที่ไม่ครอบคลุมการพระราชทานอภัยโทษก่อนหน้านั้น สืบเนื่องจากคำพูดของทักษิณ ชินวัตร ในสื่อต่างประเทศที่เกาหลีใต้ในปี 2016 ที่ได้รับการพิจารณาครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา แม้ว่าศาลจะนัดอีกครั้งในปีหน้าก็ตาม การพิจารณาครั้งแรกเป็นเพียงการนัดสืบพยานและหลักฐานของทั้งสองฝ่าย
ถ้าทักษิณ ชินวัตร ไม่กังวล จะใช้ทนายความถึง 7 คนหรือ เพราะนี่เป็นบ่วงอนุรักษนิยม ที่กำลังมัดครอบครัวชินวัตรอีกครั้งหนึ่ง
ทักษิณ ชินวัตร ก็ยังไม่พ้นบ่วงอนุรักษนิยมนี้ แล้วการเคลื่อนไหวใดๆ เรื่องยกเลิกการฟ้องร้องอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะทำได้ยาก แล้วยังเร่งให้เกิดความยุ่งยากทางการเมืองอีกด้วย
แนวโน้มอันยุ่งยาก
แน่นอนดูเหมือนว่าเรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีของรัฐบาลแพทองธารจะเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส มาตรฐานของศาลรัฐธรรมนูญในคดีคุณเศรษฐา ทวีสิน สร้างบรรทัดฐานใหม่
แต่เรื่องบ่วงอนุรักษนิยม ไม่ได้หลุดหายไป หลายฝ่ายเป็นห่วง คำตอบจากคำถามของผู้สื่อข่าวที่พุ่งตรงไปที่นายกรัฐมนตรี ตรงนี้อาจมีเรื่องความรอบรู้ ความเท่าทันประเด็นสำคัญ
แต่การย้อนกลับไปดูคำปราศรัยและบทสัมภาษณ์ของแพทองธารในช่วงการหาเสียง ต้องไม่ลืมว่า ช่วงการหาเสียง คนเขียนบทให้แพทองธารหาเสียงมองบริบทการเมืองไทยอีกแบบหนึ่ง ช่วงนั้น ปิดสวิตช์ 3 ป. ปิดสวิตช์ ส.ว. การรณรงค์ความเป็นธรรมทางการเมือง รวมถึงให้นักเคลื่อนไหวทางการเมืองกลุ่มต่างๆ ด้วยหวังว่าจะได้รับความนิยมและคะแนนจากการเลือกตั้งจากคนรุ่นใหม่
ดังนั้น ความแตกแยกพรรคร่วมรัฐบาลเรื่องรัฐมนตรี อาจสำคัญ แต่ผมคิดว่า การเลือกรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมและกระทรวงกลาโหมก็สำคัญ เพราะ 2 กระทรวงนี้เกี่ยวพันกับบ่วงอนุรักษนิยม อันไม่อาจมองข้ามได้เลย
ขอให้นายกรัฐมนตรีหญิงคนใหม่โชคดี
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022