ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 สิงหาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | อาชญากรรม |
เผยแพร่ |
อาชญากรรม | อาชญา ข่าวสด
รับน้อง ‘เด็กช่าง’ บานหนัก!
ไล่ออก 4 รุ่นพี่นักเรียนนักเลง
รุมตื้บปี 1 กับพ่อ-คามหา’ลัย
ตร.แจ้งข้อหา-หมดอนาคต
สิ่งที่ตามมาแทบทุกครั้งหลังเปิดภาคเรียนใหม่ หนีไม่พ้นปัญหาความรุนแรงในการรับน้องของรุ่นพี่ตามสถาบันต่างๆ โดยเฉพาะกับเด็กช่าง
ทั้งความรุนแรงที่รุ่นพี่กระทำต่อรุ่นน้อง
ทั้งค่านิยมผิดๆ ที่ปลูกฝังความเกลียดชังสถาบันอื่นๆ
มีส่วนทำให้ปัญหานักเรียน-นักเลงไล่ตีไล่ฆ่ากันไม่มีวันหมดไปจากสังคมไทย

รุมตื้บพ่อ-ลูกคามหา’ลัย
เย็นวันที่ 15 สิงหาคม ร.ต.อ.หญิง ปภัทสนี สุดจิตจูล พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งจากนายสมชาย (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี และ น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี พ่อแม่ นายต้น (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ (มทร.สุวรรณภูมิ) วิทยาเขตนนทบุรี ภายหลังนายสมชายและลูกชายถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ โดยลูกชายมีอาการสาหัส ต้องรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู รพ.ชลประทาน
นายสมชายเล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกตัดสินใจไปบอกกับรุ่นพี่เพื่อขอย้ายที่เรียนใหม่ แต่ถูกรุ่นพี่ปฏิเสธและบังคับให้ต้องมารับน้องที่มหาวิทยาลัยทุกวัน
รุ่นพี่อ้างว่าระบบนี้เข้าแล้วออกไม่ได้ ถ้าลูกตนไม่ยอมมาให้รุ่นพี่รับ จะตามไปหาถึงที่บ้านตามที่อยู่ในบัตรประชาชนที่ถูกยึดไว้ โดยมีการตามไปถ่ายบ้านพักมาข่มขู่ให้กลัวอีกด้วย
ทำให้ลูกต้องทนถูกรุ่นพี่รับน้องด้วยการเผาขนรักแร้ เผาขนที่อวัยวะเพศ ถอนขนคิ้วตาทีละเส้น ยังไม่รวมการฝึกโหดๆ แบบยุทธวิธีทหารอีกหลายรูปแบบ จนลูกชายทนไม่ไหว
ล่าสุด ได้ไปที่มหาวิทยาลัย เพื่อทำเรื่องย้ายที่เรียนใหม่ ปรากฏว่าหลังจากตน ภรรยา ลูก ลงมาจากอาคารเรียน ขณะกำลังเดินไปอีกอาคารเพื่อยื่นเอกสารลาออกพร้อมกับอาจารย์ 2 คนที่เดินตามมา มีกลุ่มรุ่นพี่ประมาณ 10 คน ตรงเข้ามารุมทำร้ายลูกและตนต่อหน้าอาจารย์
แม้ภรรยาตนจะพยายามช่วยห้าม แต่ไม่เป็นผล ทั้งตนและลูกยังคงถูกรุมกระทืบอยู่กับพื้น จนภรรยาต้องเข้าไปประคองลูกแล้วเอาตัวกันไว้ พร้อมกราบรุ่นพี่ให้หยุดทำร้าย ก่อนที่ตนกับลูกจะถูกส่งตัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในสภาพสะบักสะบอม
หลังเรื่องราวของรุ่นพี่โหดกลุ่มนี้ถูกเผยแพร่ออกไปตามสื่อต่างๆ น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เดินทางมายังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ เพื่อรับฟังรายงานสรุปจากทางคณบดีมหาวิทยาลัย เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.สุชาดากล่าวว่า น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. สั่งให้ตนและรองปลัด มาตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งหาแนวทางการแก้ไข และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำ ทางมหาวิทยาลัยยืนยันว่าไม่มีการอนุญาตให้รับน้องในเขตมหาวิทยาลัย และมีบทลงโทษถ้ามีการฝ่าฝืน คือไล่ออก จึงจะใช้ระยะเวลาประมาณสองถึงสามวันในการตรวจสอบว่ามีการรับน้องจริงหรือไม่ พร้อมหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำหรือพฤติกรรมเลียนแบบในเรื่องการใช้ความรุนแรง
ด้าน พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี กล่าวว่า วันนี้จะสอบปากคำเพิ่มเติม และขอใบแพทย์มาประกอบคดี ส่วนหมายจับจะเร่งรัดให้พนักงานสอบสวนดำเนินการต่อไป ส่วนเรื่องความปลอดภัยทางตำรวจมีการทำเอ็มโอยูกับทางมหาวิทยาลัย และมีจุดตรวจอยู่แล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยของผู้บาดเจ็บซึ่งรักษาตัวอยู่นอกเขต สภ.เมืองนนทบุรี จึงได้แจ้งประสานไปยังตำรวจพื้นที่ให้ทราบเพื่อดูแลความปลอดภัย ส่วนผู้ก่อเหตุมีหลายคน
ความกร่างของรุ่นพี่ชุดนี้ยังไม่หมด เพราะพอรู้ว่าถูกแจ้งความจับ ก็ยังตามสืบจากรุ่นน้องว่าผู้เสียหายรักษาตัวอยู่ที่ไหน เหมือนกับจะตามไปทำร้ายซ้ำอีก จนสองพ่อลูกถึงกับผวาต้องย้ายโรงพยาบาลหนี รวมทั้งขอความช่วยเหลือจาก ‘กัน จอมพลัง’ อีกทางหนึ่ง
ขณะที่หนึ่งในรุ่นพี่ที่ก่อเหตุเปิดเผยว่า ทนไม่ไหวจริงๆ ถ้าไม่ยุ่งกับพวกตน ก็ไม่ยุ่งอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุทั้งหมดมาจากที่ฝ่ายพ่อรุ่นน้องท้าทายว่า จะมาตัดเศียรพระวิษณุ องค์พ่อที่พวกตนนับถือ ทั้งนี้ หลังคลิปเผยแพร่มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์นักศึกษาคนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก

ไล่ออก-แจ้งข้อหา 4 รุ่นพี่
ต่อมาวันที่ 17 สิงหาคม นายต้น (นามสมมุติ) นักศึกษารุ่นน้อง ชั้นปีที่ 1 พร้อมด้วยนายสมชายผู้เป็นพ่อและ น.ส.นิด ผู้เป็นแม่ เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี และ สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อระบุตัวกลุ่มรุ่นพี่ที่รุมทำร้ายในมหาวิทยาลัยและพาไปรับน้องด้วยวิธีการป่าเถื่อน
นายต้นเปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ที่ผ่านมาได้ยินถึงความโหดร้ายเกี่ยวกับพฤติกรรมการรับร้องของรุ่นพี่กลุ่มนี้ว่า นอกจากจะบังคับให้นั่งเอามือไพล่หลังแล้วเตะอก หรือให้ฝึกโก้งโค้งเอาหัวปักพื้นแล้ว ยังมีการนำกระป๋องสีสเปรย์มาใช้พ่นผ่านไฟแช็กลนที่อวัยวะเพศอีกด้วย โดยไม่สนใจว่ารุ่นน้องที่ถูกนำตัวมารับน้องจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ทั้งหมดจะถูกเบิร์นไฟเผาขนเพชรและอวัยวะเหมือนกันหมด ซึ่งนักศึกษาหญิงรายนี้ได้จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไปแล้ว
ขณะที่ กัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) นนทบุรี นำตัวนายต้น ผู้เสียหาย เดินทางไปดูจุดที่มีการนำรุ่นน้องไปรับน้องอย่างป่าเถื่อน บริเวณป่ากระถินเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งจากการสำรวจในบริเวณดังกล่าวพบว่าด้านในเป็นพื้นที่โล่งลานปูน มีการนำตาข่ายกันแดดสีฟ้ากั้นล้อมรอบ และยังพบกระป๋องสีสเปรย์ ขวดเหล้าขาวพร้อมกับมีดอีก 3 เล่มซุกอยู่ในป่า
ต่อมา น.ส.สุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการ รมว.อว. แถลงว่า ทางมหาวิทยาลัยได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วพบว่า ผู้ที่ก่อเหตุเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยจริงทั้งหมดประมาณ 8 ราย มหาวิทยาลัยสั่งลงโทษด้วยการให้ออกแล้ว 4 ราย ส่วนที่เหลืออีก 4 ราย เป็นผู้อยู่ร่วมในเหตุการณ์ ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่ปรากฏว่าเข้าไปทำร้ายนักศึกษาและผู้ปกครอง
มหาวิทยาลัยจะสอบสวนเพื่อขยายผลในเรื่องการทำกิจกรรมนอกมหาวิทยาลัย ถ้าพบว่ามีส่วนร่วมจะลงโทษทางวินัยหรือไล่ออกทันที รวมทั้งมีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ส่วนประเด็นที่นักศึกษาผู้ถูกกระทำไม่อยากจะเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดิม อว.พร้อมประสานจัดหามหาวิทยาลัยแห่งใหม่ให้
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นใน มทร.สุวรรณภูมิ หากตรวจพบว่าผู้บริหารบกพร่องและปล่อยปละละเลยให้จัดกิจกรรมลักษณะนี้จะดำเนินการลงโทษต่อไป
เลขานุการ รมว.อว. กล่าวอีกว่า ทาง กัน จอมพลัง ได้หารือกับ อว.เนื่องจากมีข้อมูลเชิงลึกของกลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมรับน้องไม่สร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่รุ่นพี่ที่กำลังศึกษาอยู่ แต่เป็นรุ่นพี่ที่ถูกให้ออกจากมหาวิทยาลัยไปแล้วด้วย โดยการจัดกิจกรรมรับน้องดังกล่าวมีนักศึกษาร่วมกิจกรรมประมาณ 50 คน
ซึ่งขณะนี้มหาวิทยาลัยกำลังตรวจสอบอยู่ว่ามีบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ มีผู้ที่ได้รับผลกระทบกี่ราย
นอกจากนี้ อว.ยังได้รับทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า มีระบบการบ่มเพาะความเชื่อแบบผิดๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรม ดังนั้น อว.ได้สั่งการให้มหาวิทยาลัยตรวจสอบเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
ด้านนายสัญญา คำจริง รองอธิการบดี มทร.สุวรรณภูมิ วิทยาเขตนนทบุรี กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ และตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นโดยทันทีให้ความร่วมมือกับทาง อว.และเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่
ยอมรับว่ายังมีนักศึกษาส่วนน้อยที่มีความคิดแบบเดิมๆ อยู่ ยืนยันว่าไม่สนับสนุนกิจกรรมรับน้องที่ไม่สร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยจะมีการตรวจสอบบุคลากรภายใน หากพบว่ามีผู้รู้เห็นเป็นใจกับการจัดกิจกรรมจะลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงแน่นอน
ต่อมาวันที่ 20 สิงหาคม กลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ทั้ง 4 คน ประกอบด้วยนายภูชิต หรือโอม พูนศักดิ์สร้อย อายุ 23 ปี นายสิทธิพงศ์ หรือเพชร วาจาสัตย์ อายุ 22 ปี นายมงคล หรือบอล ตั้งตระกูลพรรณ อายุ 21 ปี และนายรัตนสรร หรือซอ สวัสดิ์วงษ์สกุล อายุ 19 ปี เข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี และ พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา รอง ผกก.สอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บก่อนจะปล่อยตัวชั่วคราว
ขณะเดียวกันตัวแทนมหาวิทยาลัยเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มนักศึกษาที่ร่วมกันก่อเหตุด้วย เนื่องจากทำให้ทรัพย์สินบางส่วนของทางมหาวิทยาลัยได้รับความเสียหาย
เหตุการณ์นี้คงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย หากยังมีการบ่มเพาะความเชื่อผิดๆ จากบรรดารุ่นพี่ โดยเฉพาะพวกที่เรียนไม่จบหรือถูกไล่ออกไปแล้ว แต่ยังวนเวียนคอยครอบงำรุ่นน้องให้ต้องคอยทำตามอยู่เช่นนี้



สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022