คอลัมน์ประจำ

เชลซีที่มีนักเตะล้นทีม เรื่องวุ่นๆ ของคนมีเงิน

ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 สิงหาคม 2567
คอลัมน์Technical Time-Out
เผยแพร่

เชลซีเปิดฤดูกาลใหม่แบบมีเรื่องวุ่นๆ ให้จัดการเต็มไปหมด โดยเฉพาะเรื่องของนักเตะที่ล้นทีมมาตั้งแต่ซีซั่นก่อน แถมยังมีการเสริมเพิ่มอีก 9 คน ถึงแม้จะมีการผ่องถ่ายออกไปแล้ว 7 คนก็ตาม แต่แข้งชั้นดีก็เดินชนกันในทีมอยู่ดี

เรื่องนี้ทำให้ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือคนใหม่ต้องมานั่งตอบคำถามทั้งตัวนักเตะและสื่อกันอย่างหนัก แมตช์เปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกที่แพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ไม่มีชื่อของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง หนึ่งในสตาร์ของทีม ทั้งตัวจริงและตัวสำรอง ทำเอาเอเย่นต์ของปีกวัย 29 ปี ต้องออกแถลงการณ์ถามถึงอนาคตของนักเตะในการดูแล ว่าสเตอร์ลิ่งยังจะมีส่วนร่วมกับทีมหรือไม่

คาร์นีย์ ชุกวูเอมเก้า, อักเซล ดิซาซี่ ที่เคยได้ลงสนามสม่ำเสมอในยุคของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ก็อยู่ในข่ายเดียวกับสเตอร์ลิ่ง

นักเตะทีมชุดใหญ่ของสิงห์บลูตามเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของสโมสรมีถึง 42 คน แต่มาเรสก้ายืนยันว่าเขาต้องการใช้งานนักเตะแค่ 30 คนเท่านั้น

ยิ่งการเลือกนักเตะลงสนามแต่ละแมตช์ทำได้แค่ 20 คน ยิ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ทุกคนมีความสุขกับโอกาสลงเล่นได้

 

คงต้องยอมรับว่าแนวทางการเสริมทีมของ ท็อดด์ โบลีห์ ประธานสโมสรคนปัจจุบัน ทำให้ผู้จัดการทีมทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ เพราะนับตั้งแต่ที่เขาเข้ามาครอบครองสโมสร ใช้เงินซื้อนักเตะไปแล้ว 1,500 ล้านปอนด์ (66,861 ล้านบาท)

ซึ่งอาจจะไม่ได้มาจากความต้องการของกุนซืออย่างเดียว แต่เป็นความชอบของคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีส่วนในการตัดสินใจเลือกนักเตะลงสนาม

อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อนักเตะของเชลซีนั้น เน้นไปที่นักเตะดาวรุ่ง อายุน้อย เริ่มมีชื่อเสียง หรือบางคนโด่งดังไปแล้ว อย่าง มอยเซส ไคเซโด้, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ที่ย้ายมาด้วยค่าตัวมหาศาล หรือดาวรุ่งที่เริ่มมีชื่อเสียง ก็เอามาเก็บไว้ก่อน อย่าง โรมีโอ ลาเวีย แต่ลูกกรอกคะนองหลายคนที่เติบโตจากอคาเดมีกลับไม่ได้อยู่กับทีมต่อ ทั้งๆ ที่มีดีเอ็นเอของสโมสรแบบเต็มๆ

คอเนอร์ กัลลาเกอร์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย, เมสัน เมาท์, รูเบน ลอฟตัส-ชีก ต่างต้องทยอยออกไปเล่นกับทีมอื่น เพื่อเปิดทางให้กับนักเตะใหม่ที่ท่านประธานชื่นชอบ เรื่องนี้ก็อาจจะทำให้เด็กๆ หลายคนที่จะเลือกมาอยู่กับเชลซี กลัวกับอนาคตที่แค่โตมากับสโมสรแต่ไม่ได้เล่นให้สโมสรก็เป็นได้

บางคนที่ย้ายมาด้วยอายุและประสบการณ์ที่ยังไม่พร้อมในการมาโลดแล่นพรีเมียร์ลีก ก็ถูกส่งลงสนามไปแบกรับความกดดันจนเล่นไม่คุ้มค่าตัว มิไคโล มูดริก ที่ย้ายจากชักห์ตาร์ โดเนตส์ มาด้วยค่าตัวมหาศาล ยังไม่สามารถสร้างผลงานที่เป็นชิ้นเป็นอันให้เชลซีได้มากนัก จนโดนความคาดหวังเล่นงานอย่างหนักไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ถ้าเรามองในแง่บวก การขนเอาดาวรุ่งฝีเท้าดีมาอยู่ในทีม แล้วให้การทำงานหนักและเวลาคัดสรรไปเรื่อยๆ ก็จะได้เห็นคนที่มีศักยภาพที่สุด ช่วยให้เชลซีแข็งแกร่งอย่างมากในอนาคต ส่วนคนที่ไม่ดีพอ ก็ต้องปล่อยออกไป นำเงินกลับเข้าคลัง

 

แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า พรีเมียร์ลีกมีกฎกำไรและความยั่งยืนอยู่ แม้ว่าโบลีห์และทีมบริหารของเชลซีจะมีแนวทางอย่างไรก็ตามที่จะทำให้สโมสรไม่ผิดกฎนั้น แต่เมื่อสะสมรายจ่ายทั้งค่าตัวและค่าเหนื่อยไปเรื่อยๆ ทีมสิงห์บลูจะรับมือกับเรื่องนี้ได้นานขนาดไหน

เจ้าของสโมสรก็เหมือนนักเตะ เมื่อถึงเวลาก็ต้องไป มีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันได้ วันที่โบลีห์และเพื่อนไม่สนุกกับตรงนี้แล้ว ภาระอันหนักอึ้งก็จะตกไปอยู่กับเจ้าของคนต่อไป ที่จะต้องมาปรับกระบวนท่ากันใหม่

แฟนบอลเองก็ต้องปรับอารมณ์กันใหม่ จากทีมที่เคยรุ่งเรืองในสนาม กลายเป็นทีมซื้อเก่ง ชนะในเรื่องเสริมทีม แต่กลับไม่มีแชมป์อะไรให้ได้ชื่นชมเลย

มีเงินมันก็ดี แต่ถ้าใช้ไม่ดี ก็มีผลเสียตามมา •

 

Technical Time-Out | จริงตนาการ

[email protected]