ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 สิงหาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศ |
เผยแพร่ |
เชื่อว่าหลายประเทศ รวมถึงไทย ก็เคยมีการพูดถึงการย้ายเมืองหลวง แต่ความคิดเหล่านั้นก็ไม่เกิดขึ้นจริง เพราะเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมากในทางปฏิบัติ พวกเขาจะย้ายย่านธุรกิจ ศูนย์กลางทางการเมือง ประชากรหลายล้านคนไปยังที่แห่งใหม่ที่ดีพอจะรองรับผู้คนเหล่านี้ได้ทั้งหมดได้อย่างไร
แต่อินโดนีเซีย เพื่อนบ้านอาเซียนของเราลงมือสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่นี้ขึ้นมาจริงๆ
แต่ความล่าช้าของโครงการทำให้เกิดข้อสงสัยว่า หรือโครงการเมกะโปรเจ็กต์นี้จะเป็นแค่ความฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง?
โครงการย้ายเมืองหลวงจากจาการ์ตาไปยังเมืองหลวงแห่งใหม่ที่ชื่อ นูซันตารา เป็นนโยบายเรือธงของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียที่ถูกปัดฝุ่นขึ้นมาเดินหน้าในปี 2019 หลังผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าพื้นดินของกรุงจาการ์ตากำลังทรุดตัว ประธานาธิบดีวิโดโดจึงต้องการเปลี่ยนพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ทางตะวันออกของเกาะบอร์เนียวให้เป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของอินโดนีเซีย
โครงการเมกะโปรเจ็กต์นี้มีมูลค่าราว 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ประธานาธิบดีวิโดโดพยายามเรียกความเชื่อมั่นในโครงการนี้ด้วยการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกที่ทำเนียบรัฐบาลแห่งใหม่ เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ทั้งที่อาคารส่วนใหญ่ในนูซันตารายังสร้างไม่เสร็จ
แผนการสร้างนูซันตาราแบ่งออกเป็น 5 ขั้นภายในปี 2045 แต่การก่อสร้างขั้นแรกอย่างการสร้างศูนย์กลางการบริหารของรัฐบาลของประธานาธิบดี รัฐมนตรี และข้าราชการคนสำคัญยังไม่แล้วเสร็จ ทำให้ประธานาธิบดีวิโดโดต้องเลื่อนการประกาศให้นูซันตาราเป็นเมืองหลวงของอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการในวันฉลองเอกราชเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมที่ผ่านมาออกไปก่อน
แถมต้องลดจำนวนผู้เข้าร่วมงานเฉลิมฉลองเอกราชที่นูซันตาราจาก 8,000 คนเหลือไม่ถึง 2,000 คน
เพราะนูซันตารายังไม่สามารถรองรับจำนวนแขกที่เข้าร่วมได้ทั้งหมด แม้คนงานก่อสร้างจะพยายามเร่งมือสร้างอาคารอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม
การสร้างนูซันตาราเจอกับความล่าช้าในการก่อสร้าง ปัญหาที่คนงานเผชิญคือสภาพอากาศที่ไม่เอื้อสำหรับการก่อสร้างจากฝนที่ตกลงมาตลอด ความล่าช้ายังทำให้ผู้นำและรองผู้นำฝ่ายบริหารของนูซันตารายื่นหนังสือลาออกในเดือนมิถุนายน ขณะที่การหาเงินทุนก็มีปัญหาเช่นกัน รัฐบาลอินโดนีเซียคาดว่าจะจ่ายเงินเพียง 20% ของงบประมาณก่อสร้างเมืองหลวงแห่งใหม่ และพึ่งพาการลงทุนจากภาคเอกชนเป็นหลัก
รัฐบาลต้องการเงินลงทุนจากเอกชน 100 ล้านล้านรูเปียห์ภายในสิ้นปี 2024 แต่จนถึงตอนนี้พวกเขาได้เงินลงทุนไปเพียง 56.2 ล้านล้านรูเปียห์ทั้งที่เหลือเวลาเพียง 4 เดือนก่อนจะเข้าสู่ปี 2025
ผู้เชี่ยวชาญมองว่าบริษัทต่างชาติลังเลที่จะเข้ามาลงทุนในนูซันตาราเพราะพวกเขาไม่อยากลงทุนในสิ่งที่ต้องแลกมาด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะต้องไม่ลืมว่าอินโดนีเซียต้องเปลี่ยนพื้นที่ป่าขนาดใหญ่ให้กลายเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ ซึ่งนักสิ่งแวดล้อมวิจารณ์ว่าเป็นการทำลายที่อยู่ของลิงอุรังอุตัง ลิงจมูกยาว และเสือลายเมฆ
นูซันตาราจะเป็นที่ทำงานแห่งใหม่ของข้าราชการกว่า 10,000 คนที่จะถูกย้ายไปในเดือนกันยายน แต่พวกเขากลับไม่อยากย้ายไปทำงานในเมืองหลวงแห่งใหม่ของอินโดนีเซีย แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่ย้ายเข้ามาในนูซันตารา เพราะสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังไม่พร้อมที่จะรองรับพวกเขา
ข้าราชการคนหนึ่งกล่าวโดยไม่เปิดเผยชื่อว่า รัฐบาลบอกว่านูซันตาราจะกลายเป็นเมืองหลวงของอินโดนีเซียอย่างแน่นอนในปี 2045 แต่ชีวิตของพวกเขาจะเป็นอย่างไรหากต้องย้ายไปอยู่ที่นั่นในปี 2024
วิโดโดและหัวหน้าโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานของนูซันตารากล่าวว่า การสร้างนูซันตารายังคงเป็นไปตามกำหนด และนี่เป็นโครงการระยะยาวนับสิบปีเพื่อชาวอินโดนีเซียรุ่นต่อไป
ดังนั้น จึงไม่สามารถตอบได้ว่านูซันตาราจะเป็นโครงการในฝันที่ไม่มีวันเป็นจริงหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับนายปราโบโว ซูเบียนโต ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของอินโดนีเซียที่จะรับไม้ต่อจากวิโดโด
ว่าจะผลักดันการก่อสร้างนูซันตาราอย่างต่อเนื่องจนตลอดรอดฝั่งหรือไม่
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022