ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 สิงหาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ |
ผู้เขียน | หนุ่มเมืองจันท์ |
เผยแพร่ |
ช่วงสัปดาห์ที่แล้วเกิด “อุบัติเหตุการเมือง” ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน
นั่นคือ ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้คุณเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ด้วยข้อหา “ผิดจริยธรรม” กรณีตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี
มีคนวิจารณ์กันเยอะมากว่าข้อหาเรื่อง “จริยธรรม” เป็น “นามธรรม” มาก
คล้ายกับคำว่า “คนดี” ที่ยากจะหานิยามที่เป็นรูปธรรมมาตัดสิน
แต่กลับนำมาใช้กับคนที่เป็น “นายกรัฐมนตรี”
และให้คน 9 คนตัดสินชี้ขาด
“หนึ่ง” รุ่นน้องที่คุ้นเคยกันมีไอเดียหนึ่งน่าสนใจมาก
เขาเสนอว่าข้อหา “จริยธรรม” นั้นอาจจะไม่สามารถคัดกรองคนที่เป็น “นายกรัฐมนตรี” ได้ดีพอ
ประเทศไทยควรมีมาตรฐานที่เข้มข้นและเป็นรูปธรรมมากกว่านี้
“จะใช้กติกาเรื่องอะไร” ผมถาม
“ศีล 5 ครับ” น้องตอบ
เขาเสนอว่ารัฐธรรมนูญควรบังคับให้ “นายกรัฐมนตรี” ทุกคนต้องถือ “ศีล 5”
ใครทำผิดศีล 5 เมื่อไร
ปลดจากตำแหน่งทันที
“ตบยุงปั๊บ หลุดจากตำแหน่งนายกฯ ทันที”
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจมาก เพราะจะไม่ได้ต้องเถียงกันเหมือนคำว่า “จริยธรรม”
แต่ถ้านำมาใช้เมื่อไร
คงต้องแก้รัฐธรรมนูญอีกข้อหนึ่ง
ให้ “พระสงฆ์” สมัคร ส.ส.ได้
ไม่เช่นนั้น เราคงหาคนเป็น “นายกรัฐมนตรี” ได้ยาก
…ประชดได้แสบมาก
ผมบอก “หนึ่ง” ว่าถ้าบังคับให้ ส.ส.ต้องถือศีล 5 เหมือนนายกฯ
รับรองว่า ส.ส.เกลี้ยงสภาแน่นอน
เพราะจะผิดศีลข้อ 4. มุสาวาทาเวรมณี….ตั้งแต่ลุกขึ้นอภิปราย
ทุกคนจะพูดเหมือนกัน
“ท่านประธานสภาที่เคารพ…”
ฟังปุ๊บ รู้ว่าโกหกแน่นอน
แบบนี้พ้นจากตำแหน่งทันที
ต้องยอมรับว่าคนส่วนใหญ่เชื่อว่าคุณเศรษฐาคงรอดจากคดีนี้
นักวิเคราะห์การเมืองแทบทุกคนฟันธงเหมือนกันหมด
ดังนั้น เมื่อผลการตัดสินออกมาตรงกันข้าม
“คนกลุ่มน้อย” ที่ “แทงสวน” ก็กลายเป็น “โหราจารย์ทางการเมือง” ขึ้นมาทันที
เรื่องนี้มี 2 คนที่ “แทงสวน” แบบชัดๆ
คนแรก คือ พี่วีระ ธีรภัทร
ผมไม่ได้ติดตามว่าที่ผ่านมาพี่วีระ ทำนายการเมืองแม่นแค่ไหน
แต่ครั้งนี้ “ฟันธง” ได้อย่างแม่นยำ
ส่วนคนที่สอง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์
คนนี้ชัดเจนว่ายืนอยู่ตรงข้ามคุณทักษิณ และพรรคเพื่อไทย
“ตู่” ออกจอบ่อย ทำให้คนจำได้ว่าที่ผ่านมาคุณจตุพรทำนายสถานการณ์การเมืองผิดพลาดมาหลายครั้ง
มาครั้งนี้เขา “แทงสวน” ถูก
เป็นคนส่วนน้อยที่ทำนายว่าคุณเศรษฐาจะหลุด
กลายเป็นหมอดูการเมืองที่แม่นยำไปทันที
มีคนเคยบอกว่าธรรมชาติของคนไทย มักเอาใจช่วย “หมอดู”
ถูกครั้งเดียว ถือว่า “แม่น”
ไม่สนใจว่าที่ผ่านมา “ทายผิด” ไปกี่ครั้ง
นอกจาก 2 ท่านนี้ ผมเป็นคนหนึ่งที่คนคิดว่า “รู้ล่วงหน้า” หรือ “แทงสวน”
เพราะก่อนหน้านั้น 1 วัน ผมโพสต์ข้อความลงในเพจ
เริ่มต้นด้วยการบอกว่า “การเมืองแปร่งๆ”
จากนั้นก็ไล่เป็นข้อๆ
1. พรุ่งนี้ 14 สิงหาคม ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดี “เศรษฐา ทวีสิน”
2. เมื่อวาน 12 สิงหาคม “ภูมิธรรม เวชยชัย” นัดประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล
ตอนเช้า “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และแกนนำหลายคนบอกว่าตอนเย็นจะมีการประชุมเรื่อง “กาสิโน”
3. “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่เข้าประชุม
ไล่ประเด็นไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ “กาสิโน” ที่พรรคภูมิใจไทยออกมาแถลงว่า “ไม่เห็นด้วย” ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องรีบ
มาถึงเรื่องการประชุม “วาระลับ” ที่ทุกสื่อลงข่าวโดยใช้คำว่า “วาระที่ประชุมเป็นการพิจารณาเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการขอพระราชทานอภัยโทษบางกรณี”
และตั้งคำถามว่าทำไมนายเศรษฐาต้องรีบประชุมวาระนี้ก่อนการตัดสินคดี 1 วัน
ก่อนสรุปว่า “การเมืองช่วง 2-3 วันก่อนศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดี ‘เศรษฐา’ วันพรุ่งนี้
มีการเร่งเกมหลายเรื่อง
…แปลกๆ”
นึกดูสิครับ มีคนเขียนข้อความแบบนี้ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินคดีคุณเศรษฐา 1 วัน
คนอ่านต้องคิดว่าคนนี้ต้องได้ “กลิ่น” อะไรบางอย่างแน่นอน
นึกถึงข้อเขียนของ “หมอดู” สิครับ
เขาจะไม่บอกอะไรตรงๆ
เขียนให้เห็นภาพรางๆ แล้วให้ไปคิดต่อ
คนที่อ่านข้อเขียนของผมวันนั้นก็คงคิดแบบเดียวกัน
“หมอดู” คนนี้แม่นมาก
คุณจอมขวัญ หลาวเพ็ชร์ ชวนผมไปออกรายการ “มีเรื่อง live” ในวันที่ 15 สิงหาคม หลังจากรู้ผลการตัดสินแล้ว
เรานัดกันล่วงหน้าประมาณ 2-3 สัปดาห์
เธอคงกะให้วิเคราะห์ว่าหลังจากคุณเศรษฐาพ้นคดีนี้ไปแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป
แต่นึกไม่ถึงว่าคดีจะพลิกผัน
“จอมขวัญ” คงอ่านที่ผมโพสต์ไป และคิดว่าผมจมูกดี วิเคราะห์แม่นยำ
เปิดรายการมา เธอเกริ่นก่อนเลยว่าขณะที่ทุกคนคาดการณ์ว่าคุณเศรษฐาจะได้ไปต่อ
“ขวัญอยู่ฝั่งนี้ แต่พี่ตุ้ม…”
เธอจะพูดต่อว่าผมอยู่อีกฝั่งหนึ่งที่คิดว่าคุณเศรษฐาไม่รอด
“ผมก็อยู่ฝั่งเดียวกับขวัญครับ” ผมรีบพูดก่อนเลย
เพราะผมก็คิดว่าคุณเศรษฐาจะรอด
ประมาณ 80 : 20
จากนั้นก็อธิบายว่าที่โพสต์ไปแค่รู้สึกว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นมันผิดปกติ แต่ไม่ได้คิดว่าคุณเศรษฐาจะโดน
ผมเลือกที่จะทุบทำลายสถานะความเป็น “หมอดูแม่นๆ” ของตัวเองด้วยตัวเอง
จริงๆ จะแอบอ้างอะไรก็ได้ที่จะเพิ่มความศักดิ์สิทธิ์
เพราะการวิเคราะห์ต่อหลังรู้ผลการตัดสิน เป็นเรื่องที่ง่ายมาก
อ้างโน่น อ้างนี่ ได้ง่ายมาก
แต่ผมไม่อยากผิดศีลข้อ 4 ครับ
กลัวผิด “จริยธรรม” 555
ที่สำคัญถ้าปล่อยให้คนคิดว่าศักดิ์สิทธิ์ เดี๋ยวจะมีคนมาขอหวย
มีคนเอาผ้า 7 สีมาผูกตัว
ที่กลัวที่สุดคือ เวลาไปหาใคร แทนที่จะเสิร์ฟน้ำชาร้อนๆ หรือน้ำเปล่า
เขาจะเอา “น้ำแดง” มาให้
เปิดฝา ใส่หลอดด้วย
…น่ากลัวมาก •
ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ | หนุ่มเมืองจันท์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022