ไปต่อแบบไม่เน้นปฏิรูป | สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

 

ไปต่อแบบไม่เน้นปฏิรูป

 

ภายใน 2 สัปดาห์ การเมืองสูญเสียอะไรไปบ้าง

สูญเสียพรรคก้าวไกล สูญเสียผู้นำฝ่ายค้าน สูญเสียแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคที่มีเสียงมากที่สุดในสภา

สูญเสียนายกรัฐมนตรี สูญเสียคณะรัฐมนตรี

รวมถึงสูญเสียโอกาสของประเทศ ในการแก้ปัญหาที่รุมเร้าอยู่ ไปเป็นเดือนหรืออีกหลายเดือน

การสูญเสียดังกล่าว มาจากองค์กรอิสระที่ยึดโยงกับประชาชนไม่มากนัก

“ซูเปอร์พาวเวอร์” ดังกล่าว แม้จะบอกว่ามีรัฐธรรมนูญ มีกฏหมาย รองรับ

มีเกียรติวุฒิ คุณวุฒิ ของ ผู้วินิจฉัยรองรับ

แต่กระนั้น สังคมโดยรวม ควรจะตั้งคำถามหรือไม่ว่า “สัดส่วน”แห่งอำนาจอันมากมหาศาลนั้น เหมาะสมหรือไม่

สมควรจะมีถ่วงหรือทำให้เกิดความสมดุล มากกว่านี้หรือไม่

สมควรมีการปฏิรูปการเมือง สมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือไม่

แน่นอน พรรคประชาชน ซึ่งเผชิญปัญหามาต่อเนื่อง มีจุดยืนแจ่มชัดที่อยากให้มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง

แต่ พรรคเพื่อไทย ที่เผชิญปัญหาเช่นกันนั้น ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนนัก

และ”อาจ”คงดำรงความไม่ชัดเจน และความคลุมเครือ นี้ไปเรื่อยๆก็ได้

ซึ่งก็พอเข้าใจ ได้ นั่นก็คือ พรรคเพื่อไทยที่นำโดย น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร ที่ก้าวขึ้นสู่หมายเลขหนึ่งในฝ่ายบริหาร คงต้องประคับประคองตัวไม่ให้เกิดความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มต้น

ยิ่ง เมื่อเป็นรัฐบาลผสมขั้ว ที่พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคมีทิศทางไปในทางอนุรักษ์นิยม

การผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเชิงก้าวหน้า ก็คงยาก

ขณะเดียวกัน ในทางการเมือง “พรรคประชาชน” ยังคงเป็นเป้าหมายที่จะต้องถูกควบคุมไม่ให้เติบโต หรืออาจถึงขนาดเป็นเป้าหมายที่ต้อง”ทำลาย”เสียด้วยซ้ำ

การขานรับ”ปฏิรูปการเมือง”ในเชิงก้าวหน้าแบบที่พรรคประชาชนโน้มน้าว จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้

รัฐบาลใหม่ ภายใต้การนำของน.ส.แพทองธาร จึงไม่น่าจะชูธงเรื่องปฏิรูปการเมืองขึ้นมานำ

คงจะเทน้ำหนักไปเรื่องปากเรื่องท้อง เรื่องเศรษฐกิจ มากกว่า

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพียงลำพังเรื่องแจกเงินดิจิทัล 1หมื่นบาท น.ส.แพทองธาร และรัฐบาลจะเอาอย่างไร จะเดินหน้าต่อหรือยอมถอย ก็เป็นเรื่องร้อนที่รออยู่

ยังไม่รวมถึงเรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ก็ยากที่จะหาจุดลงตัว

รัฐบาลใหม่ คงต้องง่วนอยู่กับการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

ส่วนเรื่อง ทางการเมือง คงเป็นเรื่อง ที่ถูกทำให้เป็นเรื่องรอง และไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน

แต่กระนั้น แม้ทิศทางของรัฐบาลจะเป็นเช่นนั้นก็ตามแต่ถึงที่สุดแล้ว การดำรงโครงสร้างทางการเมือง ภายใต้รัฐธรรมนูญ ปัจจุบัน ก็คือต้นตอแห่งปัญหา ที่ต้อง

เอาใจใส่

และต้องมีเจตจำนงอันแรงกล้า ที่”กล้า”จะแก้ไข

ซึ่งนี่จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ ท้าทาย การเป็นผู้นำของน.ส.แพทองธาร ว่าจะขับเคลื่อนอย่างไร

แต่ กระนั้นด้วยองค์ประกอบ ของ รัฐบาลผสม ประกอบกับ กลุ่มจารีต กลุ่มอนุรักษ์นิยม ที่ฝังลึกในแทบองค์กรและยังคงมีบทบาทในทุกๆความเคลื่อนไหวอย่างสูง

ดังนั้น แม้เราจะมองเห็น”ผลอันร้ายแรง”จากปัญหาโครงสร้างการเมืองอันบิดเบี้ยว

แต่ ก็ต้องทำใจ ที่รัฐบาลภายใต้ผู้นำใหม่ ที่ได้”ไปต่อ”

คงมีข้อจำกัด และไม่แตะต้องประเด็นปฏิรูปการเมือง เท่าใดนัก

———————