The Boy and The Heron ตอนที่ 2 | เราจะมีชีวิตต่อไปได้อย่างไร

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

เก็นซะบุโร โยชิโนะ เขียนนวนิยายเรื่อง How do you live? ตีพิมพ์เมื่อปี 1937 สี่ปีก่อนที่ญี่ปุ่นจะเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง

ส่วนฮายาโอะ มิยาซากิ ผู้สร้างหนังการ์ตูนจิบลิเรื่องนี้เกิดเมื่อปี 1941 คือปีแรกที่ญี่ปุ่นเข้าร่วมสงคราม การโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์เกิดขึ้นตอนปลายปี 1941

หนังสือของเก็นซะบุโร โยชิโนะ มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของเด็กชายคนหนึ่งกับลุงของเขา ว่ากันว่าหนังสือมีแนวคิดไม่เห็นด้วยกับสงครามที่เกิดขึ้น

มิยาซากินำแค่ชื่อเรื่องมาใช้ แต่ใช้ชื่อในภาษาอังกฤษสำหรับการฉายนานาชาติว่า The Boy and The Heron เด็กชายกับนกกระสา

เมื่อดูหนังทั้งเรื่องรอบที่สอง (ใครๆ ก็ว่าควรดูมากกว่าหนึ่งรอบ) จึงรู้สึกได้ว่าชื่อหนังสือ How do you live? เป็นคำถามที่ถามเด็กชายมาฮิโตะตัวเอกของเรื่องโดยตรง เธอจะอยู่ต่อไปอย่างไรเมื่อรับรู้ว่าแม่ตายในกองเพลิงเพราะสงคราม พ่อมีส่วนในการผลิตอะไหล่ยุทโธปกรณ์ และแต่งงานกับน้องสาวของแม่ในเวลาปีเดียว น้องสาวของแม่หน้าตาเหมือนแม่มาก อีกทั้งกำลังตั้งครรภ์ด้วยกันอีกด้วย แม่ใหม่ใจดีนัทสึโกะถึงกับจับมือของเขาไปลูบท้องของเธอบนรถลากและพูดว่า “ฉันจะเป็นแม่ของเธอและเธอกำลังจะมีน้องชายหรือน้องสาว”

ประหนึ่งมีคำถามค้างกลางอากาศ “แล้วเธอจะใช้ชีวิตอย่างไร”

พ่อของมิยาซากิเป็นผู้จัดการผลิตหางเสือของเครื่องบินรบญี่ปุ่น มิยาซากิไม่รู้สึกใกล้ชิดกับพ่อและพ่อมิใช่แบบอย่างที่ดีนักในสายตาของเขา เขาใกล้ชิดกับแม่มากกว่า แม่ของเขาป่วยด้วยวัณโรคไขสันหลังระหว่างปี 1947-1955 ต้องอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานาน และถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 72 ปี จะว่าไปก็ไม่ใกล้เคียงกับความตายของแม่ของมาฮิโตะเท่าไรนัก ตอนที่แม่ของมิยาซากิถึงแก่กรรมในปี 1983 ตอนนั้นฮายาโอะ มิยาซากิ อายุ 42 ปีแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว

แต่ใครจะไปรู้ว่าเด็กชายในร่างชายวัยกลางคนที่ใกล้ชิดกับแม่จะรู้สึกอย่างไร เขาจะพูดอะไรออกมาได้

“คนเราจะพูดสิ่งที่พูดไม่ได้ออกมาได้อย่างไร”

คำตอบคือการพูดออกมาในความฝัน ความฝันเป็นดินแดนที่ไม่มีตรรกะ เป็นเสมือน อลิศในแดนมหัศจรรย์ ที่อุดมด้วยฝันร้าย นี่คือวิธีพูดสิ่งที่พูดไม่ได้ของคนทั่วไป

รวมทั้งชิฮิโระใน Spirited Away ปี 2001 และมาฮิโตะใน The Boy and The Heron ปี 2023 นี้

เป็นที่ทราบกันว่ามิยาซากิเลือกที่จะไม่โปรโมตหนังเลย ไม่บอกว่าเป็นหนังเกี่ยวกับอะไรและไม่มีหนังตัวอย่างให้ดู เลื่องลือว่านี่จะเป็นเรื่องสุดท้ายในชีวิตของเขา นั่นเท่ากับรอบปฐมทัศน์เป็นการฝันด้วยกันทั้งผู้สร้างและผู้ชมแต่ละคน ผู้ชมแต่ละคนมีปมของตนเองจึงมีความฝันของตนเอง

แน่นอนว่าหลังจากหนังฉายและสาธารณชนเริ่มรู้บ้างแล้วว่าหนังเรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร ความฝันของผู้ชมแต่ละคนจะไม่เป็นอิสระเท่ากลุ่มที่ดูรอบปฐมทัศน์

ผมมิได้ดูรอบปฐมทัศน์แต่ไม่อ่านอะไรมาก่อนเลยได้นานพอจนกระทั่งแผ่นบลูเรย์มาถึงมือแล้วเปิดดูโดยไม่ทราบอะไรล่วงหน้าแม้แต่นิดเดียว

จึงฝันตามได้สบายมาก

ในการดูรอบแรกสัมผัสได้ว่าเรื่องผิดปกติตั้งแต่พ่อลูกเดินทางออกจากโตเกียวมาถึงสถานี Suginami มีป้ายติดให้เห็นชัดเจนในหนัง

ฮายาโอะจบประถมสี่จากโรงเรียนโอมิยะที่นี่จริงๆ หนังการ์ตูนเรื่องนี้เป็นหนังส่วนตัวของเขาจริงตามที่ร่ำลือ เมื่อแม่ใหม่นัทสึกิพามาฮิโตะขึ้นรถลากไปบ้าน นกกระเรียนเทาเริ่มปรากฏตัวไปมา 2-3 ครั้ง ครั้งหนึ่งมันถึงกับบินระดับต่ำเรี่ยระเบียงบ้านเข้าหามาฮิโตะแล้วร่อนออกไปยืนในหนองน้ำ ตอนที่มาฮิโตะตื่นนอนก็ออกเดินตามมันไปจนถึงหอคอยเก่าๆ ที่มีหญ้ารกชัฏขึ้นปกคลุมตั้งบนเชิงเขา

กระเรียนตัวนั้นยืนที่ยอดหอคอย แล้วใช้วิธีก้มหัว จากนั้นก็เลื้อยและมุดเข้าช่องลมหน้าต่อหน้าต่อตา มิใช่ผีก็ไม่ใช่แล้ว

เมื่อดูครั้งที่สองตั้งแต่ต้นจนจบจึงรู้สึกได้ว่ามิยาซากิอาจจะหลอกเราตั้งแต่ฉากที่มาฮิโตะตื่นนอนหลังจากงีบหลับไปเมื่อนัทสึกิพามาส่งที่ห้อง เขาฝันร้ายเห็นแม่อำลาเขาในกองเพลิงทั้งที่เขาพยายามเหนี่ยวรั้งไว้

เรื่องแม่ตาย พ่อมีใหม่ เขาจะมีน้อง เหล่านี้ล้วนกระชั้นเกินกว่าเด็กชายจะยอมรับได้ เขายังต้องการแม่จึงตื่นมาพร้อมน้ำตา หรือว่าที่จริงเขามิได้ตื่น นับจากนาทีนี้ไปจนจบเรื่องซึ่งเป็นฉากที่มาฮิโตะเก็บกระเป๋าจะออกจากห้องเพื่อย้ายบ้านอีกครั้งหนึ่ง ทั้งหมดนั้นคือความฝันล้วนๆ

เมื่อเป็นความฝันเสียแล้วอะไรก็เกิดขึ้นได้นับจากนั้น

กระเรียนเทาเผยโฉมเป็นชายแก่หัวล้านหน้าย่นที่ย่นทั้งตัว เขาท้าทายกึ่งเชิญชวนให้มาฮิโตะตามเขาเข้าไปในปราสาทร้างเพื่อตามหาแม่ แม่อยู่ในนั้น จะเชื่อหรือไม่เชื่อ แม่อยู่ในนั้น ระหว่างที่มาฮิโตะกำลังลังเลนั้นเองเขาเห็นแม่ใหม่นัทสึกิเดินหายไปในป่า และเชื่อได้ว่าหล่อนหายไปในปราสาทนั้นเช่นกัน

ข้างในปราสาทมาฮิโตะจะพบนัทสึกิใจร้ายซึ่งอธิบายได้ “ไม่ใช่เธอคนเดียวที่เสียใจเป็น ชั้นก็เสียพี่สาวไปเหมือนกัน” ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะได้พบ ฮิมิ เด็กสาวที่สามารถบังคับไฟได้แต่เธอจะต้องตายในกองไฟในอนาคต

ฮิมิคือแม่ของมาฮิโตะในวัยเด็กนั่นเอง สมัยแม่เป็นเด็กเคยเข้ามาเล่นในปราสาทลึกลับนี้จริงๆ มาฮิโตะได้โอกาสสร้างสัมพันธ์กับแม่อีกครั้งหนึ่งและพยายามชวนฮิมิกลับโลกแห่งความเป็นจริงแต่เธอปฏิเสธ

นี่คือโมเมนต์ที่มาฮิโตะต้องยอมรับให้ได้ “แม่ตายแล้ว”

หนังเข้าโหมดแฟนตาซีเมื่อมีตัวละครอื่นมากหน้าหลายตาเรียงรายเข้ามาจนจับต้นชนปลายไม่ถูก

เหตุที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเพราะเราพยายามหาเหตุผลนั่นเอง แต่ลืมไปว่าในความฝันไม่มีเหตุผลจึงอย่าพยายามสงสัยอะไรมากปล่อยใจฝันไปกับเรื่องจะง่ายกว่ามาก

เรื่องมีอยู่ว่า ลุงทวดผู้สร้างดินแดนเสมือนในปราสาทแห่งนี้ใกล้สิ้นอายุขัยแล้ว ตัวดินแดนที่เขาสร้างขึ้นเพื่อหลีกหนีความจริงของชีวิตก็ง่อนแง่นเสียเต็มประดาเห็นได้จากความโงนเงนไม่เสถียรของบล๊อกที่เขาพยายามเรียงมันให้ไม่ล้ม

ผีน้อยวะระวะระถูกฝูงเพลิแกนไล่กินอย่างโหดร้ายกลางหาวขณะล่องลอยจะไปเกิดใหม่

ครั้นมาฮิโตะพบว่าพวกมันกินเพราะอดอยากและหิวโหยก็อดสงสารไม่ได้ ที่แท้ดินแดนเสมือนนี้ไม่มีอาหารอุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้ ยังมีฝูงนกแก้วทหารที่เกรียงไกรพยายามใช้ลูกในท้องของนัทสึกิเป็นเครื่องมือที่จะยึดอำนาจจากลุงทวดและครอบครองโลกใหม่

ที่แท้ที่ไหนก็มีโลภะ โทสะ โมหะเหมือนๆ กันทั้งสิ้น

เมื่อลุงทวดเสนอให้มาฮิโตะสืบต่อเขาจึงชี้แผลเป็นที่ศีรษะที่เขาใช้ก้อนหินทุบแตกเมื่อตอนต้นเรื่องแล้วปฏิเสธ ตอนนี้เขารู้แล้วความทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และความเที่ยงของสรรพสิ่งไม่มีจริง บัดนี้ถึงเวลาที่เขาต้องอำลาแม่ในร่างฮิมิ และยอมรับแม่นัทสึโกะเสียที ฝูงกองทัพนกแก้วบ้าเลือดไล่ตามมาฮิโตะและกระเรียนหน้าย่นอย่างกระชั้นชิดจนกระทั่งเมื่อเขาหลุดออกมาได้ นกแก้วยักษ์นั้นที่แท้คือนก Parakeet ตัวน้อยๆ น่ารักบินเต็มไปหมด

หรือว่าเขาตื่นจากฝันเสียที

หากช่างสังเกตเราจะพบหลายสิ่งอย่างจากหนังในอดีตหลายเรื่อง Princess Mononoke, Howl’s Moving Castle, Laputa Castle in the Sky, Totoro, Spirited Away

ยังเหลืออีกคำถาม คุณป้าแคระทั้งเจ็ดในโลกภายนอกกับคุณป้าขาลุยคนสวยในความฝัน กับตัวละครเล็กๆ น้อยๆ อีกบางส่วนเกี่ยวพันกันอย่างไร คงได้นั่งดูรอบที่สาม

และถ้าดูพากย์อังกฤษจะได้ยินเสียงมาร์ก ฮามิล ในบทลุงทวด กับโรเบิร์ต แพททิสัน ในบทเจ้านกกระเรียนตัวแสบซึ่งลือกันว่าพากย์ได้ดีมากทั้งสองคน •

 

การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์