เผยแพร่ |
---|
เหมือนกับบทสรุปของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ว่า “มันเป็น ธรรมดาทุกรัฐบาลก็เป็นแบบนี้ เมื่อเข้าสู่ปีที่ 4”
จะเป็นความคมเฉียบเพื่อนำเข้าสู่ประโยค
“ขอให้รอดูกันต่อไป อย่าเพิ่งหมดกำลังใจกับผมและรัฐบาล คสช.พยายามเต็มที่”
แต่ก็เหมือนกับ”ข้อเสนอ”ก่อนหน้านี้
“ขอให้เลือกเอาแล้วกันว่า จะเอาแบบผม หรือ จะให้กลับมาที่เดิม”
เหมือนกับเป็นความแหลมคม และคมเฉียบ
แต่เมื่อนึกถึงสภาพความเป็นจริงนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือน
พฤษภาคม 2557 กระทั่งมาถึงทุกวันนี้
4 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต่างออกไป
ความต่างโดยพื้นฐานอย่างที่สุดก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาด้วยกระบวนการ “รัฐประหาร”
นั่นก็คือ มาพร้อมกับอำนาจของ”ปืน”
นั่นก็คือ ไม่ได้มาด้วยกระบวนการของ”การเลือกตั้ง”ในแบบเดียวกับรัฐบาลที่มี นายชวน หลีกภัย ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี
อย่างน้อย นายชวน หลีกภัย ก็ผ่านการเลือกจากประชาชน
อย่างน้อย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ผ่านการเลือกจากประชาชน
4 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงมาโดยไม่มีใครเลือก
ยิ่งกว่านั้น ยังเป็น 4 ปีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ยอมให้ประชาชนได้”เลือกตั้ง”ทั้งๆที่เคยพร่ำบอก
เราจะทำตาม”สัญญา” ขอ “เวลา”อีกไม่นาน
ประเด็น การยื้อ และการหน่วง การเลือกตั้งต่างหากที่ทำให้ประชาชนเริ่มเกิดความสงสัยต่อคสช.
ในที่สุดก็คือ ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เห็นได้จากไม่ปฏิบัติตาม”ปฏิญญา โตเกียว” เห็นได้จากไม่ปฏิบัติตาม”ปฎิญญา นิวยอร์ค” เห็นได้จากไม่ปฏิบัติตาม”ปฏิญญา ทำเนียบขาว”
ปัญหาจึงเริ่มต้นมาจาก 1 คสช. โดย 1 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา อยู่ในฐานะเป็นหัวหน้า
“ความน่าเชื่อถือ”ต่างหากที่กำลังเป็น”ประเด็น”
เป็นประเด็นอันต่างจากรัฐบาลซึ่งมาจาก”การเลือกตั้ง”