เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่ 12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
ทาง”หนาม”ทาง”เหนื่อย”
เป้าหมายที่จะระเบิดหีบเลือกตั้งปี 2570 เพื่อนำไปสู่การกุมเสียงส.ส.ให้ได้มากเกิน 250 เสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
ถือเป็นความมุ่งมั่น ของพรรคประชาชน(ใหม่) ที่มากด้วยความทะเยอทะยาน
ถามว่ามีโอกาสไหม ก็คงบอกว่ามี แต่ก็เป็นเรื่องยากถึงยากมาก
และคงเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส
ท้าทาย ทีมงานใหม่ ภายใต้การนำของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อย่างยิ่ง
เพราะจะทำได้ พรรคประชาชนต้อง มี”เอกภาพ”สูง
แม้ในเบื้องต้น ก็คงเบาใจในระดับหนึ่ง เพราะส.ส.ก้าวไกล ย้ายเข้าไปอยู่พรรคใหม่ ถึง100 %
ปัญหาที่เคยหนักใจ ว่าจะมี”งูเห่า”เลื้อยไปพรรคอื่น ก็ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คาดหมายไว้
แต่กระนั้น ภายใต้การนำของผู้บริหารชุดใหม่ ต้องเร่งสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น ให้กับส.ส.และสมาชิกพรรคโดยเร็ว
ซึ่งก็ต้องยอมรับว่านายณัฐพงษ์ หากเทียบกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นายชัยธวัช ตุลาธน ยังห่างชั้นกันอยู่ตามสมควร
คงต้องเร่งทำการบ้านอย่างหนักเพื่อสร้างการยอมรับ ในการที่จะชูธงนำพรรคให้รุดหน้าไป
และการ”รุดหน้า”ที่ว่า มิใช่เส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่เป็นเส้นทาง”หนาม”ที่พร้อมจะทิ่มแทงอยู่ตลอดรายทาง
พรรคประชาชนแม้จะไม่มีปัญหางูเห่าอย่างที่ว่า
แต่สิ่งที่มีการพูดกันก่อนหน้านี้คือ “หนอน” ในพรรค ก็สามารถบ่อนเซาะ ทำลาย ได้ร้ายแรงไม่แพ้งูเห่า
ยิ่งตอนนี้ อยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน ภูมิคุ้มกันยังมีไม่มาก
ขณะที่ ความเห็นต่าง ความไม่ลงรอย มีโอกาสเกิดขึ้นสูง
สูงเช่นเดียวกับการอาจถูกแทรกแซงหรือมีแรงกระแทกจากภายนอก จนทำให้เกิดความระส่ำระสายได้
ที่รู้กันทั่วไปตอนนี้ก็คือ ชะตากรรมของ 44 ส.ส.ก้าวไกล ที่กำลังต้องเผชิญกับการถูกกล่าวกระทำละเมิดจริยธรรม กรณียื่นแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเมื่อดูแนวโน้นการพิจารณาขององค์อิสระต่างๆแล้ว มีแนวโน้มที่จะ”หักโค่น”มาตั้งแต่อนาคตใหม่ ก้าวไกล และเมื่อมาเป็นพรรคประชาชน ทิศทางก็ไม่น่าแตกต่างกัน
ซึ่งนั่นก็อาจทำให้พรรคประชาชน “สะดุด” อีกครั้ง
และแน่นอน การสะดุดนั้น ย่อมทำให้ยุทธศาสตร์ที่จะใช้เลือกตั้งทุกระดับ ตั้งแต่การเลือกตั้งท้องถิ่นไปจนถึงการเลือกระดับชาติ ปูทางไปสู่หมุดหมายการเลือกตั้งปี 2570 ที่ต้องกุมเสียงข้างมาก”จัดตั้งรัฐบาล”ให้ได้ เป็นไปได้ยาก
และยิ่งจะยากมากขึ้น เพราะยุทธศาสตร์รวมถึงเป้าหมาย”พรรคเสียงข้างมาก”พรรคเดียว
ทำให้เพื่อนหรือพันธมิตรทางการเมืองหายไปด้วย
ซึ่งตอนนี้ ว่าไปแล้วพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชนในวันนี้ แทบจะไม่มีพันธมิตรหรือเพื่อน
เราได้เห็น ปรากฏการณ์”สามัคคีส่วนบน” ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับฝ่ายจารีตที่กระชับแน่นกันมากขึ้นทุกที
และการสามัคคีส่วนบนนั่น มิได้ทำให้พรรคประชาชนโดดเดี่ยวเท่านั้น
หากแต่เจือสม แนวทาง บ่อนเซาะ ทำลาย เพื่อไม่ให้พรรคประชาชนเติบโตด้วย
ทั้งนี้เพื่อสะกัดกั้นเป้าหมายอันทะเยอทะยานทางการเมือง
ซึ่งคงมิใช่เพียงการเป็นรัฐบาลพรรคเดียว หากแต่ย่อมนำไปสู่การสั่นสะเทือนระบอบและโครงสร้างเดิม อย่างถึงรากด้วย
ดังนั้น พรรคประชาชนจึงต้องถูกรุมต่อต้านอย่างรุนแรงและอาจจะหนักกว่าที่พรรคก้าวไกลเผชิญ
เส้นทางของพรรคประชาชน จึงต้องเหนื่อยสาหัส
จะผ่านไปได้คงต้องอาศัยศักยภาพ”กระบวนทัพใหม่”สูงอย่างยิ่ง
————