สัญญาณ ‘ปรับ ครม.’ แรง ‘รทสช.’ ชิงขยับ – ‘บิ๊กป๊อด’ ยันแข็งแรง ‘เศรษฐา’ รอพ้นบ่วง ‘ศาล รธน.’

พลันเข้าสู่เดือนสิงหาคม ดูเหมือนว่าจะมีอีเวนต์สำคัญทางการเมืองให้จับตามองและเกาะติดเยอะมากเป็นพิเศษ เริ่มต้นจากเมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินคดียื่นยุบพรรคก้าวไกล

สัปดาห์ถัดต่อจากนี้ มีอีกหนึ่งคดีที่ต้องรอลุ้นผลแบบระทึก นั่นคือ คดีคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ “นายเศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ว่าจะสิ้นสุดลงหรือไม่ จากกรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งคดีนี้เป็นคำร้องของกลุ่มอดีตสมาชิกวุฒิสภา 40 คนที่เข้าชื่อยื่นศาลรัฐธรรมนูญถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ทิ้งทวนก่อนหมดวาระ

ขณะที่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม “นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพักโทษ จะได้รับอิสรภาพ ได้รับบริสุทธิ์ ฉะนั้น จึงต้องจับตาดูว่า “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี จะมีบทบาทการเมืองหลังพ้นโทษอย่างไร

อีกหนึ่งสัญญาณที่น่าจับตามอง นั่นคือ การเมืองหลังจากนี้จะเข้าสู่โหมดปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกหรือไม่ ท่ามกลางกระแสข่าวแพร่สะพัดออกมาหนาหูว่า หลังจบคดีถอดถอนนายกฯ ไปแล้ว ช่วงปลายเดือนสิงหาคมจนถึงต้นเดือนกันยายนนี้ มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการสลับปรับเปลี่ยนเก้าอี้รัฐมนตรีหมุนเวียนกลับมาอีกครั้ง

 

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ที่มีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นหัวหน้าพรรค ส่งหนังสือแสดงเจตจำนงถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อเสนอชื่อปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในโควต้าของพรรคที่ว่างอยู่ 1 ตำแหน่ง หลังจาก “นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ” ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังไป

โดยจะส่งชื่อนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะเลขาธิการพรรค เนื่องจากขณะนี้ไม่มีคดีความติดตัวแล้ว อีกทั้งช่วงการเลือกตั้งและงานสภา ได้โชว์ผลงานเป็นอย่างดีมาโดยตลอด

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตอบเรื่องนี้ว่าตอนนี้เดือนสิงหาคม มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบตุลาการเยอะไปหมด จริงๆ แล้วต้องให้เกียรติตรงนั้นก่อนดีกว่า

“ให้หลายเรื่องมันจบไปก่อนดีกว่ามั้ง แต่แน่นอนถ้าเกิดพรรคร่วมรัฐบาลเสนอมาเราก็ต้องพิจารณา แต่ว่าคงไม่ใช่เร็วๆ นี้ เพราะยังมีเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ ต้องให้เกียรติตรงนั้นก่อน” นายกฯ ระบุ

 

ส่วนปฏิกิริยาแกนนำพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ นั้น ต่างประสานเสียงยืนยันทำนองเดียวกันว่ายังไม่มีสัญญาณปรับ ครม.

โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตอบคำถามกรณีกระแสการปรับ ครม.ว่า ยังไม่มีการหารือกันในพรรคร่วม และยังไม่มีสัญญาณเรื่องการปรับ ครม. พรรคร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยกันคุยกัน ยังไม่คิดเรื่องนี้ คนที่ทำงานยังทำหน้าที่ได้ดี สามารถประสานประโยชน์กับพรรคร่วมรัฐบาลและประชาชนได้อยู่

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มองว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีแต่เพียงผู้เดียว แต่เบื้องต้นยังพอใจการทำงานทั้ง 4 กระทรวงของพรรคภูมิใจไทย ไม่อยากทำอะไรให้เป็นความหนักใจกับนายกฯ ซึ่งได้แจ้งกับนายกฯ แล้วว่าพรรค ภท.จะไม่ปรับรัฐมนตรี ทั้งคนและตำแหน่ง

อีกทั้งขณะนี้รัฐบาลมีเสถียรภาพสูงมากรัฐบาลหนึ่งในรอบ 30-40 ปี

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุเช่นกันว่า การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีจะปรับหรือไม่ปรับอยู่ที่ท่าน ฉะนั้น พรรคร่วมรัฐบาลได้คุยกันตลอดเวลา เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะมีการปรับในช่วงนี้ เอาตรงๆ จะเป็นการสร้างกระแส และคงเป็นเรื่องของพรรคที่โควต้ายังขาดอยู่

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ยืนยันว่า พรรคชาติไทยพัฒนายังไม่ได้รับสัญญาณจากนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี ซึ่งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อาจได้รับการส่งสัญญาณแล้วก็ได้ แต่เนื่องจากพรรคชาติไทยพัฒนามีเพียง 10 ที่นั่ง จึงยังไม่มีความเคลื่อนไหว และวันนี้ขอมุ่งมั่นทำงานเต็มที่

ส่วน “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันว่า ไม่ทราบกระแสข่าวดังกล่าว โดยทั้งหมดขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรี

พร้อมปฏิเสธถอดใจหลังมีกระแสข่าวสุขภาพร่างกายไม่ดี โดยโชว์ท่ายกแขน และยืนยันว่ายังแข็งแรง

 

ฟากรายชื่อรัฐมนตรีที่มีชื่อติดโผหลุดเก้าอี้รัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ตั้งแต่เข้ามาทำงานวันแรกเชื่อมั่นตัวเองมาตลอด และผลงานในรอบหนึ่งปีเป็นส่วนที่ทำให้เกิดความมั่นใจ ถ้าไม่มั่นใจจะทำงานไม่ได้

อีกทั้งก่อนหน้านี้ รมต.ปุ๋ง น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ตัดสินใจไขก๊อก ลาออกจากตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เหลือสถานะรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว ทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการส่งสัญญาณจะได้อยู่ในตำแหน่งยาวหรือไม่

อย่างไรก็ดี จากสัญญาณการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี แน่นอนว่านายกฯ เศรษฐา ไม่ได้ปิดประตูที่จะปรับ ครม. หากเรื่องทุกอย่างเคลียร์จบแล้ว และถึงช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับ ครม.

ส่วนการปรับ ครม.เที่ยวนี้ จะเป็นการปรับ ครม.แค่ชุดเล็ก เติมโควต้ารัฐมนตรีของพรรคที่ว่างอยู่ สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนแค่บางตำแหน่ง โดยเฉพาะเก้าอี้รัฐมนตรีสัดส่วนพรรคเพื่อไทย หรือทว่าจะปรับล็อตใหญ่ ตัดทิ้งรัฐมนตรีบางคนในบางพรรคออกไป เพื่อล้างกระดานตัดปัญหา

ยิ่งไปกว่านั้น ต้องจับตาดูด้วยว่า หลังคดีก้าวไกล จะเกิดเอฟเฟ็กต์ทางการเมือง ส่งผลให้ ส.ส.พรรคก้าวไกลย้ายขั้วเปลี่ยนมาร่วมงานกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่

ฉะนั้น หลังจากร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 วาระ 2-3 ผ่านที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเรียบร้อยแล้ว ภาพการปรับ ครม.คงเวียนกลับมาอีกรอบอย่างแน่นอน