คนโดนสิงห์ : นับถอยหลัง

คอลัมน์ Technical Time-Out

ต่อให้ไม่มี “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ที่แบมือขอเงินซื้อนักเตะจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่ยั้งกว่า 400 ล้านปอนด์ มาเปรียบเทียบการผลาญเงินเกือบ 300 ล้านปอนด์ของ “โจเซ่ มูรินโญ่” กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่ใช่ข้ออ้างที่ “เดอะ สเปเชียล วัน” เคยตีโพยตีพายไม่ถึงเดือนที่ผ่านมาว่า ตัวเองจะไม่มีความผิดถ้า “ปีศาจแดง” จะคว้าลมแทนความสำเร็จในฤดูกาลนี้

เพียงเพราะทีมเพื่อนบ้านผู้น่ารำคาญอย่าง “เรือใบสีฟ้า” ถลุงเงินมากกว่า!

เนื่องจากการใช้ตังค์แค่ปีที่ 2 แต่มากถึงระดับ 286 ล้านปอนด์ มันต้องคืนกลับมาด้วย “แชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” หรือ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” สถานเดียว

ส่วนไอ้ถ้วยน้ำจิ้มประเภท “เอฟเอคัพ” และ “ลีกคัพ” เมืองผู้ดี อย่าพูดให้อายชาวบ้านเค้า

เอาเป็นว่าลองมองในมุมกลับ สมมติว่ามูรินโญ่เป็นเจ้าของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด แล้วมีผู้จัดการทีมมากโปรไฟล์มาสัมภาษณ์งานด้วยเป้าหมายลงทุน “300 ล้านปอนด์”

เพื่อแลกกับถ้วยลีกคัพ หรือถ้วยยุโรปใบรอง ยูฟ่า ยูโรป้าลีก เป็นมูรินโญ่จะกล้ามอบตำแหน่งผู้จัดการทีมให้ไปปู้ยี่ปู้ยำหรือไม่?

หรือหากให้ทำงานไปแล้ว ผลลัพธ์ที่ออกมาได้แค่นั้น จะปล่อยให้ผู้จัดการทีมคนนั้นนั่งหน้าสลอนต่อไปอีกไหม?

เอาเป็นว่า “ถ้าโลกไม่สวย คำตอบคงคิดกันออกไม่ยาก”

 

…กลับมาสู่โลกปัจจุบันอีกครั้ง แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดอังกฤษมากสุด 20 สมัย ได้แชมป์ครั้งสุดท้ายในฤดูกาลที่ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” ตำนานโค้ชวางมือซีซั่น 2012-2013 และกำลังจะรอการกลับมาของถ้วยใบนี้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน หลังมีคะแนนเป็นรองแมนฯ ซิตี้ จ่าฝูงในฤดูกาลนี้ถึง 12 แต้มจากการแข่ง 24 นัดเท่ากัน และเหลือโปรแกรมให้ลุ้นอีก 14 นัด

ส่วนอีก 3 รายการตกรอบ 5 (รอบ 3 ที่ลงเล่น) ลีกคัพด้วยน้ำมือทีมรองบ่อน “บริสตอล ซิตี้” ทั้งที่เป็นแชมป์เก่า ขณะที่เอฟเอคัพ กำลังจะเตะรอบ 4 (รอบ 2 ที่ลงเล่น) กับทีมต่ำชั้นบานเบอะ เยโอวิล ทาวน์ วันที่ 26 มกราคม และถ้วยใหญ่แชมเปี้ยนส์ลีก รอเล่นรอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายกับเซบีญ่า 2 นัดเหย้า-เยือน เดือนหน้าเป็นต้นไป

ประเมินการกรณีตัดศึกเอฟเอคัพออกไป เหลือถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้มูรินโญ่ และแมนฯ ยูไนเต็ด ใบเดียว จึงไม่แปลกที่กุนซือวัยใกล้ครบ 55 ปีเต็มในเกมเยือนเยโอวิล จะลองทิ้งไพ่ใบสุดท้ายซื้อ “อเล็กซิส ซานเชซ” จากอาร์เซนอล ตัดหน้าแมนฯ ซิตี้ ในตลาดซื้อขายรอบ 2 เดือนมกราคม เพราะไม่ว่าการมาโอลด์แทรฟฟอร์ดของแนวรุกทีมชาติชิลีอายุ 29 ปีรายนี้ จะประสบความสำเร็จได้แค่ไหน

อย่างน้อยก็เป็นประโยชน์กับทีมปีศาจแดง 2 ข้อ

1. ตัดกำลังแมนฯ ซิตี้ ไม่ให้ “เก่ง” มากไปกว่านี้

และ 2. แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาส “ดีขึ้น” หากมีอเล็กซิส

ทว่า เหมือนที่บอกไว้ “ไพ่” ใบนี้ของมูรินโญ่ต้องแลกมาด้วยเงินไม่ต่ำกว่า “200 ล้านปอนด์” แบ่งเป็นค่าเหนื่อย, ค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ และโบนัสรวมกันเกือบ “600,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์” (ค่าเหนื่อย 350,000 ปอนด์, ค่าลิขสิทธิ์ภาพลักษณ์ 100,000 ปอนด์ และโบนัส 144,000 ปอนด์) เป็นเวลา 4 ปีครึ่ง รวมแล้ว 140 ล้านปอนด์

ตามด้วยค่าตัวที่ต้องจ่ายให้อาร์เซนอลในการย้ายทีม 20 ล้านปอนด์ และอีก 15 ล้านปอนด์กับเฟร์นานโด เฟลิเซวิช เอเย่นต์นักเตะคู่ใจที่ว่ากันว่า ถ้าไม่มีเฟลิเซวิชก็คงไม่มีนักบอลซึ่งเคยเล่นให้ทั้งบาร์เซโลนา, อาร์เซนอล, อูดิเนเซ่ และริเวอร์เพลต ที่ชื่ออเล็กซิส ซานเชซ แน่นอน

นี่ยังไม่รวมค่าตัวระดับหลักหลายสิบล้านปอนด์ของเฮนริก มาคิตาร์ยาน ที่เป็นตัวแถมให้ทีม “ปืนใหญ่” ยอมขายอเล็กซิสให้

แทนที่ปลายทางจะเป็นเอติฮัด สเตเดี้ยม

 

ถึงได้บอกว่า มูรินโญ่แทบจะเทหมดหน้าตัก หลังปีแรกทุ่มเงิน 146 ล้านปอนด์ซื้อ “ปอล ป๊อกบา” กลับมาจากยูเวนตุสเป็นสถิติโลก 89 ล้านปอนด์, “เอริก ไบญี่” 30 ล้านปอนด์ และ “มาคิตาร์ยาน” 27 ล้านปอนด์ ส่วนปีนี้ก็ซื้อ “โรเมลู ลูกากู” ด้วยราคาแพงระยิบ 75 ล้านปอนด์, “เนมานย่า มาติช” 35 ล้านปอนด์ และ “วิกตอร์ ลินเดอเลิฟ” 30 ล้านปอนด์

เมื่อบวกอเล็กซิสช่วงกลางฤดูกาลเข้าไปอีก แล้วยังไม่ได้แชมป์รายการใหญ่ในซีซั่นนี้

ฤดูกาลหน้าคือฤดูกาลตัดสินของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย

เนื่องจากแมนฯ ยูไนเต็ด คงไม่ปล่อยให้คนที่สูบเงินเป็นว่าเล่นเดินเพ่นพ่านโดยไร้ความสำเร็จแน่

สำหรับข่าวไอ้เรื่องต่อสัญญาคุมทีมฉบับใหม่ มันก็แค่สัญญาที่เป็นลายลักษณ์อักษรเล่มเดียว

ไม่อย่างนั้น “โรมัน อับราโมวิช” จะกล้าฉีกสัญญาเฉดหัวมูรินโญ่ออกมาจากเชลซีถึง 2 ครั้ง 2 คราได้ยังไง

เช่นเดียวกับ “รีล มาดริด” ก็ทำมาแล้วเหมือนกัน

มูรินโญ่จะอยู่หรือไปก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ เริ่มนับถอยหลังกันได้เลย