ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 2 - 8 สิงหาคม 2567 |
---|---|
เผยแพร่ |
บทความในประเทศ
สมาชิกพรรคดัน ‘ลุงป้อม’ ทำต่อ
ลุ้นนายกฯ-พปชร.ระส่ำ
‘ธรรมนัส’ ฮึ่มต้องหยุด
วัดใจ ‘ประวิตร’ หย่าศึก
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายใต้การนำทัพของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แม้จะไม่ได้เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล แต่ต้องยอมรับว่าภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2566 “พปชร.” เป็นอีกหนึ่งพรรคที่มีบทบาทสำคัญทางการเมืองสูงพอสมควร และถูกจับตาการเคลื่อนไหวเพราะมีพฤติกรรมแปลกๆ
โดยวงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลครั้งล่าสุด พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยง หัวเรือใหญ่ 2 พี่น้อง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. และน้องชาย “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค พปชร. ไม่ได้มาร่วมวงดินเนอร์ด้วย
แต่ทว่า บรรยากาศงานเลี้ยงก็ไม่ได้กร่อยหรือเงียบเหงานักเพราะมีบรรดาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลช่วยกันสร้างภาพเป็นหนึ่งเดียวโดยเข้าร่วมงานกันอย่างคึกคักและพร้อมเพรียง บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความชื่นมื่น แสดงพลังถึงความเป็นเอกภาพและความสัมพันธ์ที่เป็นปึกแผ่น
สยบข่าวเกิดรอยร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลลงได้ตามสมควร
อย่างไรก็ตาม บทบาทของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กลับถูกจับตามองเพิ่มมากขึ้นอีก เมื่อ “นายวัน อยู่บำรุง” อดีต ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย (พท.) บุตรชายของ “ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ตัดสินใจสวมเสื้อสมัคร เข้าเป็นสมาชิกพรรคคนใหม่ของพรรค พปชร.
ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านี้ ชื่อของ “นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช” สมาชิกพรรค พปชร. และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดูเหมือนว่าจะมีบทบาทและกลายเป็นตัวละครสำคัญของพรรค พปชร.มากขึ้น แม้นายสามารถนั้น ไม่ได้มีสถานะเป็นกรรมการบริหารพรรค หรือ ส.ส.แต่อย่างใด เป็นแค่เพียงสมาชิกพรรคคนหนึ่งเท่านั้น
แต่นายสามารถแสดงท่าทีและเคลื่อนไหวประเด็นต่างๆ อย่างเร่าร้อน ยกตัวอย่างเช่น การออกมาระบุว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมอบหมายนายวัน อยู่บำรุง สมาชิกพรรค พปชร.คนใหม่ นั่งแท่นคุมพื้นที่ กทม.แทนนายสกลธี ภัททิยกุล สมาชิกพรรค ที่ลาออกไป
การประกาศว่าพรรค พปชร.จะมีการเปิดตัวอดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย และคนรุ่นใหม่ เข้ามาร่วมงานกับพรรค
การปล่อยเพลง “ลุงตู่เริ่ม ลุงป้อมขอทำต่อ” เข็นออกมาเรียกกระแส ให้บิ๊กป้อมมีสิทธิลุ้นนายกฯ ด้วยอีกคนหนึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองขึ้น หลังก่อนหน้านี้โลกโซเชียลแชร์เพลง “คิดถึงลุงตู่” เป็นไวรัลจนดังกระหึ่ม
จนทำให้ถูกตั้งข้อสังเกตว่านายสามารถต้องการเกาะกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่
ยิ่งไปกว่านั้น นายสามารถยังมีความเคลื่อนไหวลักษณะเชิงต่อว่าและตำหนิการทำงานของรัฐบาลอีกด้วย
การออกมาเคลื่อนไหวแบบนี้ โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน แบบดุเดือด ทำให้ ส.ส.พปชร. โดยเฉพาะปีกเลขาธิการพรรคมองว่า เมื่อพรรค พปชร.เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล แล้วนายสามารถมาทำเช่นนี้ ย่อมถูกตั้งคำถามถึงความไม่เหมาะสม อีกทั้งกรรมการบริหารพรรค พปชร.ก็ไม่รู้เรื่องด้วย
เหตุนี้เอง จึงเป็นชนวนทำให้ ส.ส.ของพรรค พปชร.ไม่พอใจ ทำให้บรรยากาศในกลุ่มไลน์ ส.ส.ของพรรคที่มีสมาชิกอยู่ประมาณ 40 คน วิพากษ์วิจารณ์กันดุเดือด
โดย ส.ส.ส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกัน คือไม่เห็นด้วยกับท่าทีของนายสามารถ กังวลว่าพรรคจะเละ จะมาสร้างความปั่นป่วน ความวุ่นวายเต็มพรรคไปหมด และไม่เคยถามความเห็น ส.ส.ด้วย
นอกจากนี้ ส.ส.บางคนแสดงความคิดเห็นไม่พอใจต่อเพลงที่นายสามารถนำมาเผยแพร่ในส่วนของนโยบายบัตรประชารัฐ ที่เป็นนโยบายหลักของพรรค แต่กลับถูกทำให้ประชาชนเข้าใจว่าผิดว่าเป็นนโยบายที่เดินตามพรรคการเมืองอื่นด้วย
โดยเรื่องนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค พปชร. ออกมาระบุพรรคเราเป็นสถาบันการเมือง จะทำอะไรต้องผ่าน กก.บห.พรรค มิเช่นนั้นคงอยู่ด้วยกันไม่ได้
ร.อ.ธรรมนัสระบุว่า ถ้านายสามารถยังไม่จบ ไม่หยุด จะใช้มติ กก.บห.พรรค ขับไล่ออกไป ซึ่งเคยขับไล่ออกไปแล้วรอบหนึ่ง
“พรรคและ กก.บห.พรรคทุกคนไม่มีความแตกแยก และ ส.ส. 40 คนก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน มีแต่คนภายนอกที่เข้ามาแส่” ร.อ.ธรรมนัสระบุ
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงไลน์สนทนาของกลุ่ม ส.ส.พปชร.ตำหนิ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช สมาชิกพรรค ที่แสดงความเห็นขัดแย้งการทำงานของรัฐบาลและทำพรรคปั่นป่วนว่า ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส.พรรค ได้หารือกันอย่างไม่เป็นทางการ เห็นว่าการให้สัมภาษณ์ของนายสามารถ ทำให้เกิดความกังวลใจในบทบาทของพรรค จึงหารือเพื่อกำหนดแนวทางให้ยุติการกระทำที่จะทำให้เกิดความเสียหายต่อพรรค และอยากให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ได้รับทราบเพื่อหาแนวทางและมาตรการแก้ปัญหานี้ต่อไป
“พรรค พปชร.ยืนยันว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำส่วนตัว ไม่ใช่มติพรรค พปชร.เป็นหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล โดยมารยาททางการเมืองจะต้องเดินหน้าสนับสนุนรัฐบาลในทุกเรื่องที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ผ่านมามีการพยายามทำให้เข้าใจผิดแล้ว ทำให้เกิดผลกระทบกับพรรคเป็นอย่างมาก”
พล.ต.ท.ปิยะระบุ
ฟาก “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยืนยันว่า ไม่ได้ทำอะไรให้พรรคเสียหาย สิ่งที่ทำไม่ว่าจะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ทำในนามส่วนตัว ตามเสรีภาพบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ไม่เคยใส่เสื้อพรรค พปชร.ไปด่านายกรัฐมนตรี แค่ออกมาพูดแทนประชาชนที่กำลังเดือดร้อนเรื่องปากท้อง
“นายเศรษฐาไม่เคยฟ้องผมแม้แต่คดีเดียว ไม่เคยมี ส.ส.หรือสมาชิกพรรคเพื่อไทยออกมาโต้ตอบผมแม้แต่คนเดียว กลับกันพรรค พปชร.เดือดร้อนแทนนายกรัฐมนตรี ผมงงว่าพรรคเป็นพรรคลูกไล่ หรือพรรคร่วมรัฐบาล”
นายสามารถยังได้ยกตัวอย่างของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่สมาชิกพรรคสามารถด่าหัวหน้าพรรค แต่เมื่อกรรมการบริหารพรรคเปิดข้อบังคับ เพื่อหาวิธีขับสมาชิกพรรคคนนั้นออกจากพรรค จนทุกวันนี้ก็ยังหาไม่ได้ แถมสมาชิกพรรคคนนั้นยังขู่ว่าขับเลยจะได้ฟ้องศาล จึงสงสัยว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองใช้คนละฉบับหรือไม่
อย่างไรก็ตาม นายสามารถยังได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กของตัวเองด้วยโดยระบุว่า “ลุงป้อมโทรมาให้กำลังใจ และอดทน พร้อมบอกว่า ‘ไม่มีใครปลดได้ ไม่ต้องห่วง'”
ฉะนั้น หลังจากนี้ คงต้องจับตาดูว่าผู้นำพรรค พปชร. โดยเฉพาะ “บิ๊กป้อม” จะตัดสินใจหย่าศึกนี้อย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งภายในพรรค และทุกปัญหาจบลงด้วยดี ยิ่งตอนนี้เข้าสู่เดือนสิงหาคม ซึ่งมีคดีใหญ่ทางการเมืองถึง 3 คดี ให้รอลุ้นอีกด้วย
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022