ข้อบาดหมางจีนกับญี่ปุ่น

อุกฤษฏ์ ปัทมานันท์
(Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP)

ไม่ค่อยมีใครสนใจการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ 25 ที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว

แต่วันที่ 26 กรกฎาคม สื่อต่างประเทศรายงานการพูดคุยนอกรอบ Southeast Asia Bloc ASEANระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ (Wang Yi) กับ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น นาง Yoko Kamikawa

น่าสนใจทั้งสองประเทศมีประเด็นที่เป็นอุปสรรคหลายเรื่อง รวมทั้งการจับกุมคนญี่ปุ่นที่ไปทำงานในจีน การแบนการนำเข้าอาหารญี่ปุ่นเข้าจีน การควบคุมเซมิคอนดักเตอร์ญี่ปุ่นส่งออกไปจีน1

เราควรเรียนรู้เรื่องนี้

 

ภาพรวมความสัมพันธ์จีน-ญี่ปุ่น

ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนบ้านทั้งสองคือ จีนและญี่ปุ่น ไม่นานมานี้ถูกทดสอบหลายเรื่อง รวมทั้งการอ้างกรรมสิทธิ์ดินแดน ความตึงเครียดทางการค้า ปักกิ่งไม่พอใจโตเกียวที่ปล่อยน้ำที่บำบัดแล้วจากโรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองฟุกุชิมะ

แต่ไม่กี่เดือนมานี้ เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศ เคลื่อนไหวจัดการพูดคุยหารือครั้งแรกหลังจากไม่ได้พูดคุยกันมาหลายปี

ในแง่จีน รัฐมนตรีหวัง อี้ กล่าวว่า นโยบายจีนต่อญี่ปุ่นมีเสถียรภาพเสมอและต่อเนื่อง หวังว่าญี่ปุ่นจะสถาปนาทัศนะที่ถูกต้องต่อจีน และผลักดันนโยบายเชิงบวกและมีเหตุผลต่อจีน

การพูดคุยครั้งแรกในรอบ 8 เดือนนี้ นางโยโกะ กามิกาวา แย้งอย่างแข็งขัน ให้จีนยกเลิกจำกัดการนำเข้าอาหารญี่ปุ่น ช่วงปล่อยน้ำจากเมืองฟุกุชิมะ

ในประเด็นส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ระดับสูงของญี่ปุ่นไปจีน เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับทั้งสหรัฐอเมริกาและกลุ่มประเทศ G 7 ญี่ปุ่นหาทางออกห่างจากความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของจีนในบริเวณที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ โดยควบคุม จำกัดการเข้าถึงของจีนในเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของญี่ปุ่น

รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น นางโยโกะ กามิกาวา ชี้แจงต่อรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ว่า ข้อจำกัดการส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ไม่มีเป้าหมายประเทศใดประเทศหนึ่ง และญี่ปุ่นปรารถนาจะรักษาการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์กับจีนต่อไป

นับจากปี 2023 ญี่ปุนจำกัดอุปกรณ์ 23 ชนิด นับจากเครื่องมือ ใช้ฟิลม์ silicon wafer และ microscopic circuits ของ chip ที่สามารถใช้ทางการทหารได้ แต่ญี่ปุ่นเลือกคุมอุปกรณ์อย่างกว้างๆ ไม่มีเป้าหมายเฉพาะต่อประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นอ้างว่า “…เรารู้สึกไม่พอใจการทำอย่างนี้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นไม่สามารถแซงก์ชั่นประเทศ อย่างน้อยพวกเขาไม่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง…”2

รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น นางโยโกะ กามิกาวา ยังเรียกร้องให้จีนปล่อยตัวคนญี่ปุ่นที่ถูกจับในจีน ปี 2023 มีการจับกุมผู้บริหารบริษัทยา Astella Pharma ที่ทางการญี่ปุ่นอธิบายว่า มีผลกระทบต่อธุรกิจ ทำให้การลงทุนของญี่ปุ่นตกต่ำ และมีการขับไล่คนต่างด้าวญี่ปุ่นออกนอกประเทศ

นางโยโกะ กามิกาวา กล่าวว่า มีความสำคัญมากในการสร้างสภาพแวดล้อมที่คนญี่ปุ่นและบริษัทญี่ปุ่นสามารถดำเนินการในจีนด้วยจิตใจอันสงบ

 

ผู้ต้องสงสัยสายลับ

มีนาคม 2023 มีการจับกุมนักธุรกิจญี่ปุ่น ต้องสงสัย “สอดแนม”

สำนักข่าว Kyodo News ระบุว่า ผู้ถูกจับกุมเป็นลูกจ้างบริษัทผลิตยา Astellas Pharma แล้วให้รายละเอียดว่า คนที่ถูกจับกุมทำงานในจีนมานานกว่า 20 ปี และก่อนหน้านี้ เขายังเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในจีน

การจับกุมครั้งนี้ทำให้เกิดความสั่นกลัวต่อบริษัทต่างประเทศในจีน ในช่วงที่รัฐบาลจีนเพิ่งออกกฎหมายต่อต้านการสอดแนมฉบับใหม่ กฎหมายนี้กว้างขวางขึ้น แล้วทำให้หลายประเทศหวาดกลัว จนอาจเกิดผลเสียต่อกิจการธุรกิจทั่วไป

ด้านการจับกุม โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนชี้แจงว่า แต่ละกรณีจัดการตามกฎหมาย โดยสิทธิส่วนบุคคลและผลประโยชน์ได้รับความคุ้มครอง

การจับกุมนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นครั้งนี้สามารถทำให้เกิดความเย็นชาในความสัมพันธ์ญี่ปุ่นต่อจีน ซึ่งทั้งคู่เป็นทั้งคู่แข่งขันและเป็นพันธมิตรการค้าที่ใกล้ชิด โดยจีนเป็นแหล่งนำเข้าใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และจีนเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นด้วย

 

ผลกระทบและข้อสงสัย
การจับกุมนักธุรกิจญี่ปุ่น

ทูตสหรัฐอเมริกาประจำญี่ปุ่น Rahm Emanuel บอกว่า3 ตอนนี้นักธุรกิจญี่ปุ่นคิดแล้วคิดอีก “…เขาไม่สามารถบอกให้ประชาชนไปเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทของพวกเขาในจีนได้ เพราะพวกเขาหวาดกลัวความปลอดภัยต่อตัวเอง…”

ตอนแรกข่าวการจับกุมนักธุรกิจญี่ปุ่นในจีนก็นับว่าเป็นข่าวใหญ่และน่าตกใจมาก ความจริงแล้ว มีข้อมูลรายงานว่า มีคนญี่ปุ่นถูกจับในจีน 5 คน ตั้งแต่ปี 2015 รวมคนญี่ปุ่นถูกจับในจีนแล้ว 17 คน หลังจากทางการจีนออกกฎหมายต่อต้านการสอดแนบฉบับใหม่ แต่การจับกุมนาย Hiroshi Nishiyama ทำให้เกิดอาการทางประสาท บางส่วนเป็นเพราะอยู่ในช่วงเวลาการกวดขันด้านความมั่นคงแห่งชาติของจีน หรืออาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นผู้บริหารระดับสูงของบริษัทญี่ปุ่น น่าสนใจ Hiroshi Nishiyama พูดจีนแมนดารินได้อย่างคล่องแคล้ว และเขายังเป็นอดีตสมาชิกของหอการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นในจีนอีกด้วย ตัวเขาเองพูดอยู่บ่อยๆ เกี่ยวกับความเชื่อมโยงของเขากับบรรดาเจ้าหน้าที่จีน

มีความเห็นจากเจ้าหน้าที่ญี่ปุ่น 5 คนที่ขอสงวนนาม เพราะสถานะของนาย Nishiyama การจับกุมตัวเขามีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์

ตั้งแต่การจับกุมนาย Nishiyama มีคำถามมากมายจากนักธุรกิจ ถามถึงความปลอดภัยในการเดินทางไปจีน ในขณะที่บริษัทญี่ปุ่นในจีนบอกกับบรรดาลูกจ้างของบริษัท โลว์ โปรไพล์ (low profile) และไม่ต้องผลักดันการขายและกิจกรรมของบริษัทมากๆ

คล้ายๆ มีประเด็นความสามารถการทำธุรกิจบริษัทญี่ปุ่นในจีน แล้วยังมีคำถามเรื่องบทบาทอื่นๆ ของเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงของบริษัท ทั้งพูดภาษาจีนแมนดารินได้อย่างคล่องแคล้ว เขายังรู้จักและเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาล ทั้งยังมีบทบาทนโยบายการค้าและการลงทุนของญี่ปุ่น ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐญี่ปุ่น

น่าสนใจ นอกจากการแข่งขันทางการค้า ยังมีเจมส์ บอนด์ ชาวอาทิตย์อุทัยด้วยแฮะ

 


1“China says relations with Japan at ‘critical’ stage” Reuters, 26 July 2024.

2Tim Kelley, Karen Freifeld and Kentaro Sugiyama, “As Japan aligns with U.S. chip curbs on China” Reuters, 24 July 2023.

3Yukiko Toyoda, Kiyoshi Takenaka and Laurie Chen, “How an executive’s arrest struck a blow to Japan-China business” Reuter, 14 November 2023.