เผยแพร่ |
---|
สถานีคิดเลขที่12 | สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
คนรุ่นเดิม
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ แถลงจากห้องทำงานรูปไข่ ทำเนียบขาวเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ถึงการถอนตัวจากการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
ตอนหนึ่งกล่าวว่า
“เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรวมประเทศเป็นหนึ่งเดียว…ผมจึงเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการส่งต่อไม้ให้กับคนรุ่นใหม่ และนั่นคือวิธีที่ดีที่สุดในการรวมชาติของเรา”
เป็นคำพูดที่น่าสนใจ
น่าสนใจ กับความเชื่อมั่นของนายโจ ไบเดน ว่า”การส่งต่อไม้ให้กับคนรุ่นใหม่…คือวิธีที่ดีที่สุดในการรวมชาติของเรา”
นั่นคือการเมืองของอเมริกา ที่ต้องติดตามกันต่อไปว่า ผลการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไร
ตัดกลับมาที่การเมืองไทยของเรา
ดูจะสวนทางกันอยู่ไม่น้อย
อย่างเช่นการส่งต่อไม้ให้คนรุ่นใหม่
สำหรับการเมืองไทยแม้จะพูดถึงเรื่องคนรุ่นใหม่อยู่มาก
แต่ก็ส่งมอบ”ไม้”ให้น่าจะห่างไกลจากความเป็นจริงไม่น้อย
ในวันที่ 7 สิงหาคม นี้ พรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคของคนรุ่นใหม่ ว่ากันว่ามีโอกาสสูงอย่างยิ่งที่จะถูกยุบพรรค
โอกาสรับไม้ต่อจากคนรุ่นเดิมๆ ริบหรี่
ยิ่งไปกว่านั้น นอกจาก จะไม่ส่งไม้ต่อแล้ว “คนรุ่นเดิม”ยังแสดงตนอย่างคึกคัก ที่จะรักษาอำนาจและทำหน้าที่ต่อไป
ปรากฏการณ์ที่ “เขาใหญ่” ตัวละครเดิมๆเมื่อ 20-30 ปีก่อน กลับมารวมตัว-รวมขั้ว ทำกิจกรรมกินเลี้ยง ร้องเพลง ตีกอล์ฟ
ที่แม้ดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกับการเมืองใดๆเลย
แต่ ใครๆก็รู้ดีว่า นี่คือสัญลักษณ์ทางการเมือง อันชัดเจน
ชัดเจนถึงการจับขั้วกันอีกครั้ง ของ ฝ่ายการเมืองที่เคยมีบทบาทในอดีต
และปัจจุบันได้ตัดแต่ง”ดีเอ็นเอ”ใหม่ๆเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ตนเองเข้ามาเป็นเล่น”เกมแห่งอำนาจ”อีกครั้ง
อย่างเช่นที่เราได้ ปรากฏการณ์ “สภาสูงสีน้ำเงิน” ที่ทำให้ดุลการเมืองเปลี่ยนแปลงไป
จนพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และแกนนำนอกรัฐบาลต้องยอมแชร์อำนาจ เพื่อขับเคลื่อนทางการเมืองร่วมกัน
ขณะที่อีกฝั่งฟากหนึ่ง ผู้อาวุโส แห่ง”บ้านป่า”ก็ดูจะคึกคักขึ้น
คึกคัก จากการที่ได้ ผู้อาวุโสแห่งบ้านบางบอน ที่ยังเต็มเปี่ยมแห่งความเชื่อมั่นในจุดเด่นของตนเองในอดีต นั่นคือการเป็น”นักพูดดาวสภา” ที่ใครๆก็ต้องเกรงกลัว และเกรงใจ ส่งลูกชายที่แม้จะดูเหมือนเป็นคนรุ่นใหม่ แต่เส้นทางทางการเมืองที่ผ่านมาไม่ได้ใหม่เท่าไหร่นัก เข้ามาร่วมทัพ
ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่า”ลุงและอา” จะทำให้ “บ้านป่า”อยู่ในสมการแห่งอำนาจต่อไป
แม้ว่าทั้ง ลุงและอา จะถูกมองว่า มีปัญหา ทั้ง “สังขาร” และทั้ง การขับเคลื่อนการเมืองแบบเดิมๆที่”ตกยุคสมัย”ก็ตาม
แต่ก็คงไม่วางมือ หรือ ถอยออกจากการเมืองอย่างง่ายๆ
เช่นเดียวกับ “ลุง”อีกคนหนึ่งแม้ทั้งนิตินัย และพฤตินัย ไม่อาจยุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้อีกแล้ว
แต่พลันที่ กระแส “คิดถึงลุง”กลับมากระหึ่ม
กระหึ่ม ในภาวะที่ รัฐบาล ไม่อาจสร้างผลงานประทับใจประชาชนได้
ก็ทำให้ ฝ่ายจารีต ที่ตกอยู่ในภาวะ”ไร้คนนำ”กลับมาคึกคักและมีความหวัง กับ การเมืองแบบพิเศษ ขึ้นมาอีก
กล่าวโดยสรุปจากปรากฏการณ์ต่างๆข้างต้น แม้จะมากด้วยความคึกคัก
แต่เป็นความคึกคักของ”คนรุ่นเดิม”
ที่การ”ส่งต่อไม้ให้กับคนรุ่นใหม่”ไม่อยู่ในความคิด!
———————-