กระแสแห่ง #คิดถึงลุงตู่ ได้นำไปสู่คำถามที่ว่าเมื่อดำรงตำแหน่งเป็น”องคมนตรี”แล้วจะสามารถหวนกลับมาดำรงตำแหน่งในทาง “การเมือง”ได้หรือไม่

ในความเชื่อมั่นอันดังก้องออกมาจากภายใน”บ้านจันทร์ส่อง หล้า”และพรรคเพื่อไทยก็มีคำถามกลับอย่างฉับพลันก่อนเป็น”นายกรัฐมนตรี” นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นอะไร

กรณีของ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ อาจเป็นเรื่องนานมาแล้วตั้งแต่ยุคหลังสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516

กระนั้น ก็ยังมีกรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อีกเล่า

คำถามก็เช่นเดียวกับกรณีของ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เมื่อ 50 กว่าปีก่อน นั่นก็คือ ก่อนเข้าดำรงตำแหน่งเป็น”นายกรัฐมนตรี” พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำรงตำแหน่งอะไร

คำตอบก็ไม่แตกต่างไปจากกรณีของ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นั่นก็คือ ก่อนเป็น”นายกรัฐมนตรี”หลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ดำรงตำแหน่งเป็น”องคมนตรี”

ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ และ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาเป็น”นายกรัฐมนตรี”

กรณีของ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นความต่อเนื่องจากสถาน การณ์เดือนตุลาคม 2516 อันทำให้ จอมพลถนอม กิตติขจร ต้อง พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เนื่องจากสถานการณ์มีจุดเริ่มจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทำให้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ มีความเหมาะสม

เหมาะสมที่จะเชื่อมกับ”นักวิชาการ” และกับ”นิสิตนักศึกษา”

ขณะที่ในกรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อย่าลืมเป็นอันขาดในรากฐานและความสัมพันธ์ทางการทหารและทางการเมือง ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์

หัวหน้าคณะคมช.ที่ทำรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 คือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งเป็น”ลูกน้อง”เดิมของ พล.อ.สุร ยุทธ์ จุลานนท์ ตั้งแต่รับราชการอยู่ในกองทัพบก

การเข้าดำรงตำแหน่ง”นายกรัฐมนตรี”ของ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ จึงเชื่อมประสานกับอำนาจที่ได้มาจาก”รัฐประหาร”

ข้ออ้างที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น”องคมนตรี” ไปแล้วคงไม่หวนกลับมามีตำแหน่งทาง”การเมือง”อีก

จึงทำให้คิดถึง”ตัวอย่าง”อันเคยเกิดขึ้นใน”ประวัติศาสตร์”

เป็นประวัติศาสตร์หลังสถานการณ์การเคลื่อนไหวใหญ่ใน เดือนตุลาคม 2516 เป็นประวัติศาสตร์หลังการรัฐประหารเมื่อ เดือนกันยายน 2549

สถานการณ์จำเป็นต้องให้ นายสัญญา ธรรมศักดิ์ เป็นนายก รัฐมนตรี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี