E-DUANG : ภาพ “เฉลิม” กับภาพ”ประวิตร” ในความ OUT ก็ยัง “ร้อนแรง”

ทำไม ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จึงเลือกที่จะออกมาพูดในวันที่ 24 กรกฎาคม ทั้งๆที่เรื่องของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มิได้รีบร้อนหรือต้องการคำตอบโดยเร็ว

คำถามนี้ไม่เพียงแต่จะดังมาจากภายในของรัฐบาล จากภายในของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น

หากคนจำนวนไม่น้อยก็ตั้งเป็นประเด็นด้วยความสงสัย

เป็นเรื่อง”บังเอิญ”หรือเปล่า เป็นความต่อเนื่องจากการที่ลูกชาย นายวัน อยู่บำรุง เข้าไปรับการสวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือเปล่า

ยิ่งมีการโยงภาพ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาวางเรียง อยู่เคียงกับภาพ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ยิ่งก่อให้เกิดคำถามและความสงสัยอย่างเพิ่มพูนต่อเนื่อง

เนื่องจากประเมินว่าไม่น่าจะเป็นผลดี ไม่น่าจะเป็นการสร้าง ภาพลักษณ์ที่ดีในทางการเมือง

ไม่ว่าจะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เพราะล้วนเป็นภาพของคนแก่ เงอะๆ งะๆ

หากมองเพียง”ปรากฏการณ์”ก็อาจจะ”ประเมิน”แบบนั้น

 

ลืมไปแล้วหรือว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เข้ามาสู่ยุทธจักรทางการเมืองพร้อมกับความเฟื่องฟูเป็นอย่างสูงของกระบวนการ“ลับ ลวง พราง”

ไม่ว่าจะในห้วงรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะในห้วงรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557

อย่าลืมเป็นอันขาดในสมญานามของ”เหลิม ดาวเทียม”

มองด้วยสายตาของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วน OUT ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำ รุง ล้วน OUT

กระนั้น การออกโรงของทั้งสองก็ดำเนินไปในลักษณะอันเป็น ตัวแทน คนหนึ่งเป็นตัวแทนแห่ง”บ้านป่ารอยต่อ” อีกคนหนึ่งเป็นตัวแทนแห่ง”บ้านบางบอน”

เพียงเท่านี้ก็ย่อมรู้อยู่เป็นอย่างดีว่าเป้าหมายแห่งการสื่อสารย่อมตรงไปยัง”บ้านจันทร์ส่องหล้า”เป็นหลัก

 

วินาทีนับแต่ นายวัน อยู่บำรุง เดินเข้าพรรคพลังประชารัฐ วินาทีนับแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมารับด้วยตนเอง

นั่นหมายถึงการให้เกียรติต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง

ไม่ว่าอะไรเคยเกิดขึ้นกับ นายวัน อยู่บำรุง หรือพาดพิงไปถึง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ย่อมสัมพันธ์กับการดำรงอยู่ของคนสำคัญแห่ง”บ้านจันทร์ส่องหล้า”อย่างไม่มีข้อสงสัย

ทั้งหมดนี้คือการสนทนาผ่าน”สื่อ”จากคนแก่จากนักการเมืองสายพันธุ์”เก่า”ด้วยภาษาและท่วงทำนองเดียวกัน