ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | Cool Tech |
ผู้เขียน | จิตต์สุภา ฉิน |
เผยแพร่ |
Cool Tech | จิตต์สุภา ฉิน
Instagram : @sueching
Facebook.com/JitsupaChin
หุ่นยนต์พับผ้าจะมากี่โมง
งาน Consumer Electronic Show ที่ลาสเวกัส ในปี 2016 เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น ‘หุ่นยนต์พับผ้า’ เครื่องแรกของโลก
Laundroid เป็นหุ่นยนต์ลอนดรี้แบบครบวงจรจากฝีมือการพัฒนาร่วมกันระหว่างบริษัท Daiwa House, Panasonic และ Seven Dreamers ของญี่ปุ่น ตัวเครื่องมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับตู้เสื้อผ้า เป็นหุ่นยนต์ที่ผู้พัฒนาบอกว่าสามารถจัดการงานบ้านที่เกี่ยวกับเสื้อผ้าได้แบบครบวงจร คือทั้งซักผ้า อบผ้า รีดผ้า และพับผ้าได้ในตัว
นวัตกรรมอย่าง Laundroid มาพร้อมคอนเซ็ปต์ที่ตรงใจฉันและคนส่วนใหญ่ทั่วโลกที่รู้สึกว่าการซัก อบ รีด และพับผ้าเป็นงานบ้านที่กินเวลาเยอะและยากที่จะทำให้เนี้ยบ
ดังนั้น หากเราจะมีอุปกรณ์ตัวช่วยสักอย่างที่เราสามารถเทกองเสื้อผ้าสกปรกลงไปทางหนึ่งแล้วออกมาเป็นเสื้อผ้าแสนสะอาดที่ถูกพับเอาไว้อย่างเรียบร้อยอีกทางหนึ่งก็คงจะเหมือนฝันที่กลายเป็นจริงแน่แท้
ผ่านมาเกือบ 10 ปีแล้ว นอกจากเราจะไม่ได้เห็น Laundroid ประจำการอยู่ตามครัวเรือนต่างๆ เพราะบริษัทผู้ผลิตยื่นล้มละลายไปแล้วตั้งแต่ปี 2019 เราก็ยังไม่ได้เห็นวี่แววของหุ่นยนต์ที่จะมาซักผ้า รีดผ้า และพับผ้าแทนเราได้เลย
จริงอยู่ที่เครื่องซักผ้า อบผ้า ทุกวันนี้เก่งขึ้นมาก รุ่นใหม่ๆ มาพร้อมเทคโนโลยี AI ที่จะช่วยคำนวณให้ว่าการซักผ้าแต่ละครั้งควรจะใช้ระดับน้ำ อุณหภูมิน้ำ ระยะเวลา หรือใช้น้ำยาซักผ้าแค่ไหนจึงจะเหมาะสมสำหรับผ้าถังนั้นๆ มากที่สุด
แต่มนุษย์อย่างเราก็ยังต้องเป็นคนทำงานที่เหลือทั้งหมดเองอยู่ดี ตั้งแต่การใส่ผ้าเข้าไป หยิบผ้าออกมา ไปจนถึงกระบวนการรีด พับ และจัดเก็บ
เมื่อไม่นานมานี้ มีโพสต์หนึ่งบนเว็บไซต์ X ที่กลายเป็นไวรัลไปทั่วโลกคือโพสต์ที่นักเขียนนิยายไซ-ไฟคนหนึ่งชื่อ Joana Maciejewska เขียนว่า “ฉันอยากให้ AI มาช่วยซักผ้าและล้างจานให้เพื่อที่ฉันจะได้มีเวลาว่างไปทำงานศิลปะกับงานเขียน ไม่ได้อยากให้ AI มาช่วยทำงานศิลปะและงานเขียนแล้วให้ฉันไปซักผ้าล้างจานเสียหน่อย”
สิ่งที่ Joana พูดนั้นสะท้อนถึงความต้องการของเราหลายๆ คนที่รู้สึกว่าการทำงานบ้านกินเวลาชีวิตไปเยอะและอยากให้มีตัวช่วยอย่างหุ่นยนต์เก่งๆ สักตัวมารับงานแสนน่าเบื่อแบบนี้ไปทำได้แล้ว แต่จนแล้วจนรอดสิ่งที่ได้มากลับกลายเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยทำงานครีเอทีฟแทนเราเสียอย่างนั้น
สิ่งที่ใกล้เคียงหุ่นยนต์ที่ช่วยเราทำงานบ้านมากที่สุดก็น่าจะเป็นเครื่องดูดฝุ่นหุ่นยนต์เครื่องกลมๆ ที่เราปล่อยให้เดินไปมาดูดฝุ่นถูพื้นได้แบบที่เราไม่ต้องกำกับ แต่หุ่นยนต์ที่จะมาช่วยซักผ้า รีดผ้า และพับผ้าให้นั้นยังห่างไกลความเป็นจริงเหลือเกิน
ขอวกกลับมาคุยถึงสาเหตุที่โปรเจ็กต์หุ่นยนต์พับผ้าล้มเหลวนะคะ อันที่จริงเราเริ่มได้เห็นสัญญาณกันตั้งแต่เนิ่นๆ ว่า “สิ่งที่คิด” กับ “สิ่งที่เป็น” นั้นห่างไกลกันพอสมควร บ่อยครั้งเกิดความขลุกขลัก ผิดพลาดขึ้นในระหว่างการสาธิตการทำงานของ Laundroid นอกจากจะใช้เวลาในการพับเสื้อยืดธรรมดาๆ ต่อตัวนานสุดสุดแล้ว เครื่องยังทำพลาด กินเสื้อเข้าไปจนวิศวกรต้องไปดึงออกมาบ้าง หรือสับสนกับเสื้อผ้าสีดำจนทำงานต่อไม่ถูกบ้าง
ประกอบกับราคาที่แพงขนลุกที่ประมาณเครื่องละเกือบหกแสนบาทก็นึกไม่ออกว่าใครจะมีปัญญาหาซื้อมาใช้ซักผ้า พับผ้าในบ้านได้บ้าง เพราะเงินเท่านี้เราสามารถใช้จ่ายเป็นเงินเดือนแม่บ้านฝีมือดีๆ ได้หลายปี แม้ว่าซีอีโอของบริษัทจะเคยพูดไว้ว่าจะกดราคาเครื่องให้ต่ำกว่าเจ็ดหมื่นบาทให้ได้ แต่สุดท้ายบริษัทก็เลิกกิจการไปเสียก่อน
ไม่ใช่แค่ Laundroid ที่พบจุดจบแบบนี้แต่หุ่นยนต์พับผ้าในคอนเซ็ปต์แบบเดียวกันที่เปิดตัวมาทีหลัง อย่าง FoldiMate ก็ยุติการดำเนินงานไปในปี 2021
ถ้าลองมาพิจารณาโพสต์ของ Joana อีกครั้งจะพบว่าเธอพูดถึงเทคโนโลยี AI ที่ทำงานศิลปะและงานเขียนได้ซึ่งน่าจะหมายถึง Generative AI หรือ Gen AI อย่างเช่น ChatGPT ที่เราใช้งานกันทุกวันนี้ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับหุ่นยนต์ที่จะมาช่วยทำงานบ้าน
AI เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำให้แมชชีนมีความฉลาดใกล้เคียงกับมนุษย์ ในขณะที่หุ่นยนต์จะหมายถึงเครื่องจักรที่จับต้องได้ บางครั้งอาจจะมาในรูปแบบของหุ่นยนต์ที่มีร่างกาย มีหัว มีแขน มีขา แบบมนุษย์ หรือบางครั้งอาจจะมาแค่แขนกลหรือเป็นหุ่นยนต์ทรงกลมก็ได้
การจะพัฒนาให้หุ่นยนต์สามารถทำงานบ้านที่ต้องอาศัยการเคลื่อนไหวอย่างการหยิบจับวัตถุได้แม่นยำ ว่องไว ในแบบที่คนทำได้อย่างการหยิบมุมผ้าขึ้นพับหรือคลี่ออกก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายหรือทำได้แบบต้นทุนต่ำ ในขณะที่การพัฒนา AI ที่ไม่ได้ต้องการฮาร์ดแวร์หรือเรือนร่างเป็นพิเศษนั้นทำได้เร็วกว่ามาก
นี่จึงเป็นอุปสรรคที่ทำให้ตอนนี้ AI ช่วยเราทำงานศิลปะได้ แต่หุ่นยนต์ยังมาช่วยเรารีดผ้า พับผ้า ไม่ได้สักที
ทุกวันนี้มีหุ่นยนต์หลายตัวที่หากเรานำไปวางไว้ในสิ่งแวดล้อมที่เราควบคุมมันก็จะสามารถทำหน้าที่ของมันได้ไร้ที่ติ อย่างเช่น Mobile Aloha หุ่นยนต์แขนกลที่ทำอาหารก็ได้ ทำความสะอาดก็ได้ ซักผ้าก็ได้ รดน้ำต้นไม้ก็ยังได้ แต่แค่ยังไม่พร้อมให้ยกไปใช้งานกันทั่วไปเท่านั้น
ความฝันอันสูงสุดก็คือเราจะสามารถคิดค้นหุ่นยนต์ที่มีร่างกายซึ่งเคลื่อนไหวได้แม่นยำและขับเคลื่อนด้วยพลังของ AI ที่เก่งกาจโดยมาในขนาดและราคาที่เป็นมิตรพอที่จะหาซื้อมาใช้ในบ้านได้ซึ่งดูท่าทางแล้ววันนั้นคงจะยังไม่ได้มาถึงง่ายๆ
ดังนั้น ในตอนนี้ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนที่มีความกังวลอย่าง Joana ก็อาจจะเป็นการใช้ Gen AI ช่วยเป็นเครื่องมือในการทำงาน ไม่ได้สร้างผลงานให้ทั้งชิ้นแต่ช่วยทำให้กระบวนการทำงานใช้เวลาน้อยลง หรือช่วยริเริ่มไอเดียความคิดสร้างสรรค์บางอย่างให้เรานำไปต่อยอดในเวลาที่เราไอเดียตัน ทำให้เรามีผลงานที่ดีขึ้นและมีเวลาเหลือเยอะขึ้น
แล้วก็เจียดเวลาเหลือนั้นมาซักผ้า รีดผ้า พับผ้า ล้างจานด้วยตัวเองต่อไป
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022