A FAMILY AFFAIR ‘อายุเป็นเพียงตัวเลข’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์ | นพมาส แววหงส์

 

A FAMILY AFFAIR

‘อายุเป็นเพียงตัวเลข’

 

กำกับการแสดง

นำแสดง

Richard LaGravenese

Nicole Kidman

Zac Efron

Joey King

Kathy Bates

 

ชั่วไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ดูหนังสองเรื่องที่ออกฉายใกล้ๆ กัน

The Idea of You และ A Family Affair

หนังทั้งสองมีความละม้ายคล้ายคลึงกันอย่างมีนัยสำคัญ จนชวนคิดว่าเกิดอะไรขึ้นหนอ ฮอลลีวู้ดถึงได้จับเอาเนื้อหาใกล้เคียงทำนองนี้มาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวและออกมาในช่วงใกล้ๆ กัน เหมือนจะประชันความคิดในหัวข้อ “รักต่างวัย” หรือไม่ก็เลียนแบบไอเดียกันมา

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ฝ่ายหญิงเป็นฝ่ายอายุมากกว่าฝ่ายชายมาก ขนาดแทบจะเป็นแม่เป็นลูกกันได้

ที่เหมือนกันอีกอย่างคือ ฝ่ายชายเป็นเซเลบในวงการบันเทิง มีแฟนคลับสาวๆ เป็นโขลงๆ วิ่งไล่ตามกรี๊ดลั่นทั่วทุกหัวระแหง

ในเรื่องหนึ่งเป็นนักร้องซุป’ตาร์ของวงที่ดังไปทั่วโลก มีทัวร์เดินสายในยุโรป ในอีกเรื่องเป็นดาราหนังขวัญใจในแฟรนไชส์ซูเปอร์ฮีโร่ของฮอลลีวู้ด ที่ฮิตติดตลาดต่อเนื่องกันมาแล้วหลายภาค และยังไม่ยอมเลิกราจากความนิยม

และฝ่ายหญิงที่อาวุโสกว่า ต่างเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูกสาววัยรุ่นและวัยเริ่มทำงาน

ที่สำคัญ ลูกสาวต่างก็เป็นตัวปัญหาใหญ่ในชีวิตรักต่างวัยของแม่กับหนุ่มรุ่นลูก

ตัวชูโรงฝ่ายหญิงต่างเป็นดาราเกรดเอ งามล้ำเลิศบาดตาขนาดเดินถนน ใครๆ ก็ต้องเอี้ยวคอเหลียวมองไม่วางตาจนกว่าจะเดินคล้อยหลังลับตา

ไม่ใช่ว่าจะเป็นดารา “เคยสวย” ณ กาลครั้งหนึ่ง แต่เป็นดารา “สวยอมตนิรันดร์กาล”

แอนน์ แฮธาเวย์ จาก The Princess Diaries (2001), The Devil Wears Prada (2006) และ Les Miserables (2012)

นิโคล คิดแมน จาก Moulin Rouge! (2001), The Hours (2002) และ Cold Mountain (2003)

ฝ่ายหญิงต่างก็มีความมั่นคงในอาชีพการงาน เป็นเจ้าของแกลเลอรี่ขายงานศิลปะ เป็นนักเขียนเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์

และหนังทั้งสองเรื่องจัดประเภทได้ว่าเป็น “รอม-คอม” หรือ โรแมนติกคอเมดี้ หรือหนังรักแบบเบาสมอง

ทั้งสองเรื่องมีตอนจบที่คล้ายคลึงกันอีกต่างหาก เนื่องจากเป็นสูตรสำเร็จของหนังรอม-คอม ที่จะต้องลงเอยแบบนี้แหละ ถ้าไม่ลงเอยแบบนี้คนดูคงเหวี่ยงน่าดู เพราะไม่อยากให้ชีวิตรักของพระเอกนางเอกกระจัดกระจายไปคนละทิศคนละทาง

ไม่ใช่หนังรอม-คอมประเภทหวานเศร้าเคล้าน้ำตา พระเอกหรือนางเอกเป็นโรคที่รักษาไม่หาย จึงจะจบด้วยการพลัดพรากด้วยความตาย สร้างความหวานซึ้งตรึงใจขึ้นไปอีก

 

กลับมาพูดถึงหนังเรื่องที่จั่วหัวไว้ข้างต้นนี่ซะทีดีกว่า…A Family Affair เป็นรอม-คอมเชิดชูความงามของนิโคล คิดแมน ในวัยย่างหกสิบ แต่ลบเลือนอายุจริงด้วยศัลยกรรมเสริมสวย ทำให้ดูหน้าตาผิดไปจากเดิม ในลักษณะแข็งๆ ชอบกลอยู่ละ

แต่เอาเถอะ ก็ยังนับว่าเธอยังเช้งวับเกินวัยจนไม่มีใครอยากเชื่อในอายุจริงของเธอ

ตัวละครที่เธอเล่น ชื่อ บรุค เป็นนักเขียนนวนิยายที่เคยประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่เศร้าโศกอยู่กับอดีตที่สามีตายจากไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ทำให้เธอเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ยอมออกไปเจอะเจอผู้คน มีเพียงแม่สามีผู้เป็นสุดยอดแม่ผัวแห่งปี ชื่อ เลล่า (แคธี เบตส์) คอยให้กำลังใจ

บรุคทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงลูกสาวคนเดียวชื่อ ซารา (โจอี้ คิง) มาจนเติบใหญ่ ถึงวัยเริ่มทำงาน แต่ก็ยังอยู่กับแม่ ไม่ยอมโผผินบินจากรังไป

ซาราเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของดารารูปหล่อชื่อ คริส (แซ็ก เอฟรอน) และรู้เห็นเป็นใจกับเจ้านายที่มักจะบอกเลิกกับสาวคู่ควงด้วยการมอบของขวัญเป็นต่างหูเพชร

ในฐานะผู้ช่วยส่วนตัว ซาราต้องวิ่งหัวหมุนไปตามที่ต่างๆ ตามแต่เจ้านายจะเรียกร้อง จ่ายตลาด สรรหาสิ่งที่ดาราใหญ่อย่างเจ้านายของเธอจะไม่ยอมเหยียบย่างไป

คริสเป็น “พรีมาดอนนา” คือดารานำที่ไม่ยอมลดตัวลงมาทำอะไรเอง เจ้าอารมณ์และระเบิดใส่คนรอบข้างบ่อยๆ ซาราก็อดทนอดกลั้นมาตลอด เพราะความหวังจะได้ก้าวขึ้นสู่อาชีพผู้อำนวยการสร้างตามอุดมคติที่ตั้งเป้าไว้

ถึงกระนั้น ซาราก็มาถึงจุดขาดสะบั้น เก็บข้าวเก็บของกลับบ้าน เมื่อคริสยื่นเงื่อนไขให้เธอเขียนจดหมายขอโทษเขาเป็นทางการ หาไม่เธอก็จะถูกไล่ออก

นั่นเป็นจุดหักเหที่จะทำให้คริสได้เจอบรุคเป็นครั้งแรก เนื่องจากเขาต้องไปตามซารากลับมาทำงานตามเดิม

 

แม้วัยจะห่างจากกันถึงยี่สิบปี คริสกับบรุคก็ปิ๊งกันในทันทีเมื่อแรกเจอ ซึ่งยังผลให้ซารา “ช็อกซีเนมา” แบบโครมครามล้มลุกคลุกคลาน เจ็บตัวจนต้องไปหาหมอ แถมหมอก็ยังเป็นแฟนคลับของคริส จนไม่เป็นอันสนใจคนไข้ ได้แต่หลงใหลได้ปลื้มในตัวดาราที่พาคนไข้มาหาหมอ

ซารารู้เช่นเห็นชาติดาราที่หลงตัวและใช้ผู้หญิงเปลืองอย่างคริส จนต้องยื่นคำขาดกับเขา และแม่ไม่ให้คบกันฐานคนรัก จึงจะยอมกลับไปทำงาน

แต่ดังบทกวีใน มัทนะพาธา ซึ่งเด็กนักเรียนสมัยผู้เขียนท่องจำได้ขึ้นใจ ดังนี้

“ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืดมน

ไม่ยินและไม่ยล อุปะสัคคะใดใด

ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้

ก็โลดจากคอกไป บ่ยอมอยู่ ณ ที่ขัง…”

พล็อตเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ให้ชวนติดตามหรือติดใจ ออกจะจืดๆ ชืดๆ ด้วยซ้ำ

นักแสดงคนที่มีสีสันน่าดูและน่าจับตาที่สุด คือโจอี้ คิง ซึ่งหวังว่าต่อไปคงได้เห็นเธอในหนังเรื่องต่อๆ ไปอีก