เผยแพร่ |
---|
กรณีงบประมาณในการเดินทางไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีนับแต่รับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน 2566 กระทั่งมาถึงก่อนเดือนกรกฎาคม 2567 กำลังเป็น”เส้นแบ่ง”ในทางการเมือง
ไม่ว่าจะมองจาก”คำถาม”อันมาจาก”กรรมาธิการ” ไม่ว่าจะมองจาก”คำตอบ”อันมาจาก”เลขาธิการนายกรัฐมนตรี”นี่ย่อมเป็น”จุดเปลี่ยน”อย่างมีนัยสำคัญยิ่ง
บทบาทนี้จึงไม่เพียงแต่จะมองผ่านความพยายามของ”กรรมาธิการ” หากแต่ต้องมองผ่านการให้คำตอบของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีด้วย
ถามว่าก่อนหน้านี้เคยมี”คำถาม”จากภายในคณะกรรมาธิการหรือไม่ น่าจะต้องเคยมี”บ้าง” แต่ที่สำคัญเป็นอย่างมากคือการได้”คำตอบ”หรือไม่
เรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่จะให้เครดิตต่อกรรมาธิการจากพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายวีระ ธีระภัทรานนท์
ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ก็ต้องมอบเครดิตให้กับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริยเดช หากไม่สนองรับและให้คำตอบก็คงไม่มีความต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นคือ ความต่อเนื่องไปยัง”หน่วยงาน”อื่น
คำว่า”หน่วยงานอื่น”สังคมอาจให้ความสนใจอย่างเป็นพิเศษไปยังงบประมาณการเดินทางไปต่างประเทศภายในรัฐบาล แต่อย่าลืมเป็นอันขาดว่าที่มิใช่รัฐบาลก็ต้องใช้”งบประมาณ”เหมือนกัน
นั่นก็คือ การเดินทางไปขององค์กรภายใน”อำนาจนิติบัญญัติ” การเดินทางไปขององค์กรภายใน”อำนาจตุลาการ”ทำไมจะต้องเป็นภายใน”อำนาจบริหาร”เพียงอย่างเดียว
ไม่ว่าจะมองจากคำถามของ”กรรมาธิการ” ไม่ว่าจะมองจากคำตอบของ”เลขาธิการนายกรัฐมนตรี” จึงเท่ากับเป็นการเปิดประตูบานใหญ่ให้กับระบบ”งบประมาณ”
เพราะไม่เพียงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเท่านั้น หากแต่แต่ละกระทรวงทบวงกรม แต่ละองค์กรในการบริหารที่อยู่ภายใต้ระบบงบประมาณล้วนเคยมีขึ้นมีขึ้น
การตั้งคำถามต่อ”องค์กรอิสระ”จะต้องตามมา การตั้งคำถามต่อกระทรวงที่มีความอ่อนไหวบางกระทรวงจะต้องตามมา
อย่าคิดแต่จะมองไปยังกระทรวงที่มีความอ่อนไหว อย่าคิดแต่จะมองไปยังองค์กรอิสระที่อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์ หากแม้กระทั่งบทบาทของ”กรรมาธิการ”เองก็ไม่มียกเว้น
เพียงแต่แต่ละ”กรรมาธิการ”จะขยายผลอย่างสร้างสรรค์และเป็นคุณอย่างไร ขณะเดียวกัน บทบาทของแต่ละหน่วยราชการจะสนองรับอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบอย่างไร
นี่ย่อมเป็นประตูบานใหม่ในเรื่อง”งบประมาณ” นี่ย่อมเป็นมิติใหม่ในทาง”การเมือง”