พลันที่ภาพในชุดพิธีการของตัวแทน”นักกีฬาไทย”ที่จะอยู่ในพิธีเปิดโอลิมปิค 2024 ที่มหานครปารีส ปรากฏขึ้นและเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

ภาพอันเป็นผ้าไทยสีฟ้าครามพร้อมกับลาย S อันเป็นความคุ้นเคยอย่างยิ่งในสังคมไทยก็กระตุ้นให้เกิด”ปฎิกิริยา”ตามมาอย่างรวดเร็ว

ความน่าสนใจอยู่ที่เป็นปฏิกิริยาในเชิง”ต่อต้าน” แสดงความไม่เห็นด้วย และมีการยกเอาภาพอันเป็นชุดพิธีการของมองโกเลียมาวางเรียงเคียงเปรียบเทียบ

บทสรุปอันรวบรัดเป็นอย่างยิ่งอยู่บนฐานที่ชื่นชมต่อชุดพิธีการของ”มองโกเลีย” แต่แสดงความไม่สบอารมณ์ต่อชุดพิธีการของ”โอลิมปิคไทย”

ที่แปลกเป็นอย่างยิ่งก็คือ ไม่ว่าจะมองผ่านกองเชียร์พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะมองผ่านกองเชียร์พรรคก้าวไกล ล้วนมีเอกภาพในทางความรู้สึก

หยุดสาดอารมณ์เข้าใส่กันชั่วคราว เป็นการแสดงความเห็นต่อชุดพิธีการของไทยในโอลิมปิดอย่างรุนแรง แข็งกร้าว

ทั้งๆที่เป็นชุดไทยอันงดงาม แล้วทำไมจึงเกิด”ปฎิกิริยา”

ฐานที่มาในทางความคิด 1 น่าจะเป็นเพราะโอลิมปิค 2024 จัดขึ้นที่มหานครปารีส ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพเพียงได้ยินชื่อ”ปารีส” ย่อมมากับมหานคร”แฟชั่น”

ขณะเดียวกัน ฐานความคิดและความสนใจ 1 เนื่องจากสังคมไทยนับแต่สถานการณ์เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 เป็นต้นมา เป็นสถานการณ์แห่ง”ซอฟต์ พาวเวอร์”

เป็น”ซอฟต์ พาวเวอร์”ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีบทบาทในการผลักดันและขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง

มีการนำเสนอ”ผ้าขาวม้า” มีการนำเสนอ”ผ้าไทย”

กระนั้น ภายในการนำเสนอ”ผ้าไทย”ไม่ว่าของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าของนักการเมือง เมื่ออยู่ในบรรยากาศแห่ง”ซอฟต์ พาวเวอร์”ในบรรยากาศแห่งมหานคร”ปารีส”

จึงแฝงมาด้วยความเรียกร้องในการยกระดับที่พัฒนาและเติบใหญ่ให้สมกับพิธีกรรมโอลิมปิคในดินแดนแห่งแฟชั่น

อย่าได้แปลกใจหากความรู้สึกหนึ่งของชุดพิธีการของไทยจะก่อให้เกิดนัยประหวัดไปยังลุงๆในพรรคพลังประชารัฐ เพราะ”ลุง”อยู่ในสถานะแห่งประธานโอลิมปิคไทย

เมื่อเงาร่างของลุงฉายสะท้อนผ่านชุดพิธีการอันเป็นตัวแทนแห่งนักกีฬาไทยถูกโยงไปยังพรรคพลังประชารัฐ ไปยัง พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ จึงก่อให้เกิดความรู้สึก”ร่วม”

เอกภาพในทางความคิดไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์พรรคก้าวไกลจึงไปบนเส้นทางเดียวกัน