ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 กรกฎาคม 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | ในประเทศ |
เผยแพร่ |
ช่วงเย็นวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา “พรรคร่วมรัฐบาล” ได้จัดงานเลี้ยงดินเนอร์ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 หลังจากจัดตั้งรัฐบาลบริหารประเทศด้วยกันมา โดยหัวใจหลักของการจัดงานทุกครั้ง เพื่อกระชับและสานสัมพันธ์การทำงานร่วมกันระหว่างคนในพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้การทำงานเป็นไปด้วยความราบรื่น เรียบร้อย ไม่มีปัญหาหรืออุปสรรค
พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะเจ้าภาพ นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรค นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดเซ็ตเมนูอาหารไทยร่วมสมัย นำเมนูซึ่งมาจากวัตถุดิบเกษตรกรไทย มาเสิร์ฟเลี้ยงรับรองแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล
โดยบรรยากาศ ณ พิพิธภัณฑ์บ้านปาร์คนายเลิศ เป็นไปด้วยความคึกคักเป็นอย่างมาก มีแกนนำพรรคต่างๆ เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียงทุกพรรค อาทิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรค ติดภารกิจที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย จึงไม่ได้เดินทางมาร่วม
นอกจากนี้ ยังมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายนิกร จำนง ผอ.พรรค พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติไทยพัฒนา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานวิปรัฐบาล เป็นต้น
แต่ทว่า งานใหญ่ระดับนี้กลับขาดแม่ทัพใหญ่คนสำคัญของ พปชร. นั่นคือ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. โดยเจ้าตัวได้แสดงเจตนารมณ์ตั้งแต่เข้ามาร่วมรัฐบาลว่ากรณีที่มีงานหรือการพบปะกัน จะมอบหมายน้องชาย คือ “บิ๊กป๊อด” พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ดูแลแทน
ทว่า ในวันงานเลี้ยงดินเนอร์ พล.ต.อ.พัชรวาทกลับไม่ได้มาร่วมงานเช่นกัน อ้างว่าเนื่องจากมีอาการป่วย
งานนี้ บทบาทสำคัญย่อมหนีไม่พ้น “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค พปชร. ที่ต้องรับหน้าที่ดูแลแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแทน
อย่างไรก็ตาม งานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลครั้งนี้ จัดขึ้นห่างจากครั้งที่ 2 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) เป็นเจ้าภาพนานกว่า 6 เดือน นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 จึงทำให้ถูกจับตาและตั้งข้อสังเกตว่า สถานการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ยังแน่นแฟ้น เป็นปึกแผ่น เหนียวแน่นกันดีอยู่ใช่หรือไม่
เนื่องจากก่อนหน้านี้มีประเด็นปัญหาเรื่องที่นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้กระทรวงสาธารณสุข ดึง “กัญชา” ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย กลับเข้าบัญชียาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีกรณีปมปัญหาของนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี เมื่อ กกต.ประกาศรับรองแล้วจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติหรือไม่ โดยเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทยโดยตรง
รวมทั้งยังมีกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเติมเงิน 10,000 บาท ที่พรรคฝ่ายค้านออกมาขู่ว่าหากพรรคร่วมฯ สนับสนุนจะกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทำผิดกฎหมายครั้งนี้
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง และปัญหาราคาพลังงานอีกด้วย
แต่กระนั้น ภาพที่ปรากฏในงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาล มีความพยายามโชว์ให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังคงมีเสถียรภาพที่มั่นคง เพราะแกนนำพยายามทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความชื่นมื่น อบอุ่น มีแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ทั้งนี้ เพื่อสยบข่าวเกิดรอยร้าวขึ้นระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง
โดยบรรดาแกนนำต่างโชว์ทำสัญลักษณ์รูปหัวใจ และคล้องแขนทำรูปหัวใจ เพื่อแสดงถึงมิตรภาพและความรัก พร้อมกันนี้เหล่าแกนนำยังขึ้นเวทีร่วมร้องเพลง “เราและนาย” ตอกย้ำความสัมพันธ์แนบแน่น แสดงถึงความสามัคคีกัน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จากความร่วมมือของทุกๆ คนในรัฐบาลนี้ ทำให้เห็นว่าเรามีมากกว่า 314 เสียง แน่นอนการอยู่ด้วยกัน บรรยากาศอาจมีความตึงเครียดบ้าง ดุบ้าง พูดจาไม่เข้าหูบ้าง แต่เรามี 300 กว่าเสียง ยืนยันทำงานด้วยกันเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน มีการพูดคุยกัน อย่างเป็นผู้ใหญ่
“ผมมั่นใจว่า 314 เสียงเป็นอย่างน้อย ไม่มีการแตกแถว และเรามาที่นี่ทำงานหนักกันทุกคนเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่ว่าจากการทำงานในทำเนียบฯ หรือในกระทรวงต่างๆ เป็นการลงพื้นที่เท่าที่เคยติดตามการเมืองมาก็ไม่เคยเห็นรัฐบาลไหนลงพื้นที่เยอะเท่ารัฐบาลนี้ รัฐมนตรีทุกคน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะแข็งแกร่งขึ้นไปเรื่อยๆ ขอบคุณพลังประชารัฐอีกครั้ง” นายกฯ ระบุ
อย่างไรก็ดี อีกหนึ่งสัญญาณที่ต้องจับตามอง เมื่อช่วงหนึ่งของงานเลี้ยงอาหารค่ำของพรรคร่วมรัฐบาล “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เจ้าภาพงานเลี้ยงดินเนอร์ครั้งนี้ กล่าวตอนหนึ่งว่า “วันนี้เอาป้ายโลโก้ของแต่ละพรรคมาติดในงานทั้ง 11 พรรค แต่ตอนนี้เรามีพรรคเล็กเข้ามาร่วมรัฐบาลแล้ว ทั้งที่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ก็มีหลายพรรค แต่พลังประชารัฐก็ไม่อยากจะน้อยหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็เอามาดูแลหลายพรรคเหมือนกัน ซึ่งก็ 20 กว่าพรรคแล้วที่ร่วมรัฐบาลในตอนนี้”
แม้ว่า ร.อ.ธรรมนัสจะออกมาชี้แจงว่าเป็นแค่มุขหยอดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น เรื่องจริงคือร่วมอุดมการณ์กับรัฐบาล ไม่ต้องยุบควบรวมพรรค
ขณะที่นายอนุทินก็มองว่า “ร.อ.ธรรมนัสก็พูดแซวไปอย่างนั้น ข้อเท็จจริง ตนเองดูแลแค่ ส.ส.ภูมิใจไทย แค่พรรคเดียว มี ส.ส.แค่เท่าที่พรรคภูมิใจไทยมีอยู่”
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ไป คงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าสิ่งที่ ร.อ.ธรรมนัสออกมาพูดลักษณะเชิงหยอดมุขหรือแซวเล่นนั้นมีนัยยะทางการเมืองใดหรือไม่
ต้องการโชว์เสียงสนับสนุนจากพรรคเล็กให้เห็นหรือเปล่า
แม้ไม่มีภาพ 2 พี่น้อง “บิ๊กป้อม” และบิ๊กป๊อด” มาปรากฏเข้าร่วมงานเลี้ยงดินเนอร์พรรคร่วม ซึ่งพรรค พปชร.เป็นเจ้าภาพด้วยก็ตามแต่ จะไม่กระทบความมั่นคงของพรรคร่วมรัฐบาลแต่อย่างใด
ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลยัง “ปึ้ก” ซึ่งจริงเหมือนกับฉากหน้าที่แสดงออกผ่านสื่อหรือไม่ ต้องจับตากันต่อไป
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022