E-DUANG : รอยร้าว การเมือง ยากประสาน บ้านบางบอน กับจันทร์ส่องหล้า

สภาพการณ์ทางการเมืองที่กำลังเกิดขึ้นกับ นายวัน อยู่บำรุง ดำรงอยู่และดำเนินไปในทิศทางแห่ง”สงครามสั่งสอน”อย่างแหลมคมและจะทวีความร้อนแรงยิ่งขั้น

ยิ่งจับแต่ละถ้อยคำอันมาจาก นายวัน อยู่บำรุง ประสานกับแต่ละถ้อยคำอันมาจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยิ่งเห็นเบาะแส นั่นก็คือ ประโยคที่ว่า”มีเนื้อหา”มากกว่าที่ปรากฏเป็นข่าว

นั่นก็คือ ประโยคที่ว่า โชคดีที่มิได้เป็นการพูดกันในลักษณะสองต่อสอง หากแต่มีบุคคลอื่นๆอย่างน้อยอีก 2 คนร่วมอยู่ในการรับฟังด้วย

แม้ว่าสายสัมพันธ์ระหว่าง นายวัน อยู่บำรุง กับพรรคเพื่อไทยจะมีตั้งแต่ยุคพรรคพลังประชาชน แต่เมื่อถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้น

เด่นชัดยิ่งว่าภายในการสนทนาและตอบโต้ระหว่าง นายวัน อยู่บำรุง กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มิได้เป็นเรื่องระหว่างสมาชิก พรรคกับหัวหน้าพรรคอย่างธรรมดา

ตรงกันข้าม ได้ปรากฎร่องรอยแห่งความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนมากยิ่งกว่านั้นในทางการเมือง

บทสรุปจึงโน้มเอนไปในทิศทางแห่ง”สงครามตัวแทน”

 

เนื่องจากประเมินว่าเป็นเงาสะท้อนแห่ง”สงครามตัวแทน”และประเมินว่าความสัมพันธ์ทั้งหมดมิได้เป็นเรื่องในเชิงปัจเจกระหว่างนักการเมืองรุ่นใหม่ 2 คน

หากเป็นเรื่องที่ยึดโยงอย่างลึกซึ้งอยู่กับเครือข่ายเดิมในทางการเมืองที่ตัดมิได้ ขายมิขาด เป็นเรื่องระหว่าง”อยู่บำรุง” กับ”ชินวัตร”

มองทะลุไปยัง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มองทะลุไปยัง นายทักษิณ ชินวัตร ก็นำไปสู่ความละล้าละลังในลักษณะมิได้เป็นการฟันธงว่าจะแยกขาดจากกัน

จำนวนไม่น้อยยังคิดว่าน่าจะดำเนินไปในสถานการณ์แบบ “กวนโอ๊ย” ในที่สุดแล้วก็ปรากฏภาพ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เดิน เข้าบ้านของตระกูล”อยู่บำรุง”ที่บางบอน

เนื่องจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ก็ยังเป็น “บัญชีรายชื่อ”และ เป็น”สมาชิกภาพ”แห่งพรรคเพื่อไทยอยู่

 

น่าสังเกตว่าการเคลื่อนไหวของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สัมพันธ์กับบรรยากาศ ณ บ้านปาร์คนายเลิศอย่างแนบแน่น เป็นความมั่นใจภายใต้กระหึ่มแห่งบทเพลง”รักนิรันดร์”

เพียงแต่เป็น”รักนิรันดร์”ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐกับพรรคชาติไทยพัฒนา กับพรรครวมไทยสร้างชาติ

มิได้เป็น”รักนิรันดร์”อันมีอยู่กับ นายวัน อยู่บำรุง ที่เพิ่งยื่นใบลาออกจากพรรคเพื่อไทย