คอลัมน์ประจำ

การออกกำลังกาย ช่วยคลายอาการซึมเศร้า

พิศณุ นิลกลัด
ที่มามติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 19 - 25 กรกฎาคม 2567
คอลัมน์คลุกวงใน
ผู้เขียนพิศณุ นิลกลัด
เผยแพร่

คลุกวงใน | พิศณุ นิลกลัด

Facebook : @Pitsanuofficial

 

การออกกำลังกาย

ช่วยคลายอาการซึมเศร้า

 

อาการซึมเศร้า เป็นความผิดปกติทางจิตที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน

แต่มีหลายคนที่ไม่ทราบว่าตัวเองกำลังอยู่ในอาการซึมเศร้า

รายงานจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO (World Health Organization) พบว่า คนทั่วโลกกว่า 300 ล้านคนกำลังประสบกับโรคซึมเศร้า และก็มีแนวโน้มจะเพิ่มอัตราคนที่มีอาการซึมเศร้าขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน

อาการซึมเศร้ามีต้นเหตุมาจากหลายปัจจัย

เช่น ความเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมอง ระดับฮอร์โมน ความเครียดจากเรื่องที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน โรคภัยไข้เจ็บ

แม้แต่พฤติกรรมการนั่งอยู่กับที่ทั้งวันของพนักงานออฟฟิศ ก็มีโอกาสทำให้เกิดอาการซึมเศร้าได้เหมือนกัน

 

มีการศึกษาในประเทศออสเตรเลีย บอกว่าการออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยคลายอาการซึมเศร้าได้

โดย Black Dog Institute สถาบันวิจัยเพื่อป้องกันและบำบัดอาการ ซึมเศร้า และความแปรปรวนชนิดสองขั้ว (Bipolar Disorder) ในนครซิดนีย์ ได้ทำการติดตามศึกษาผู้ใหญ่ชาวนอร์เวย์จำนวน 33,808 คนเป็นเวลาติดต่อกันกว่า 11 ปี

โดยผู้ร่วมศึกษาได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่พวกเขาได้มีส่วนร่วม รวมถึงระดับความเข้มข้นในการออกกำลังกาย

จากนั้นก็ต่อด้วยแบบสอบถามเพื่อประเมินระดับความวิตกกังวลและอาการซึมเศร้า

 

การศึกษาพบว่าคนที่ตอบว่าไม่ได้ออกกำลังกายเลย จะมีโอกาสเกิดอาการซึมเศร้ามากกว่าคนที่ออกกำลังกายอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ถึง 44%

การออกกำลังกายอย่างน้อย 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่วยลดโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้าได้ถึง 12%

แม้จะเป็นการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อยแค่ 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ก็สามารถช่วยป้องกันและคลายอาการซึมเศร้าได้ดีมาก

เพราะในระหว่างที่ออกกำลังกาย ร่างกายของเราจะหลั่งสารความสุขในสมองเรียกว่า เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด สร้างความผ่อนคลาย

และลดอารมณ์ในเชิงลบที่เกิดขึ้นกับคนที่มีอาการซึมเศร้า เช่นความวิตกกังวล หงุดหงิด ขาดสมาธิ และการตำหนิตัวเอง

 

ดร.ซามูเอล ฮาร์วีย์ (Samuel Harvey) หัวหน้าผู้ศึกษาจาก Black Dog Institute บอกว่า เราทราบกันมาสักพักแล้วว่าการออกกำลังกายมีบทบาทในการช่วยบำบัดอาการซึมเศร้า

แต่การศึกษาครั้งนี้ เราสามารถยืนยันออกมาเป็นตัวเลขในแง่ที่ว่าการออกกำลังกายจะช่วยลดระดับการเกิดอาการซึมเศร้าในอนาคตได้อย่างน้อย 12%

การค้นพบครั้งนี้ช่วยเน้นให้คนเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายมากขึ้น

เนื่องจากในปัจจุบันการใช้ชีวิตของคนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยกับการนั่งอยู่กับที่ทั้งวัน เพราะว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้ง่ายเพียงแค่สั่งการด้วยปลายนิ้ว

คนจึงมีโอกาสต้องลุกขึ้นมาลงมือทำอะไรด้วยตัวเองน้อยลง อัตราคนที่เกิดอาการซึมเศร้า ก็มีจำนวนมากขึ้น

แต่การเปลี่ยนวิถีชีวิตด้วยการลุกขึ้นมาออกกำลังกายแม้เพียงเล็กน้อย สามารถช่วยให้เราได้รับประโยชน์ด้านสุขภาพกายและจิตมากมายอย่างที่คาดไม่ถึง