ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 กรกฎาคม 2567 |
---|---|
ผู้เขียน | ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน |
เผยแพร่ |
Shepperton Studios ของ Norman Loudon ชนะประมูลงานผลิตเครื่องบินปลอมให้กับภารกิจลับของกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้แก่ เครื่องบิน Wellington ปลอม จำนวน 50 ลำ และเครื่องบินรุ่น Blenheimปลอมอีก 100 ลำ โดยต้นทุนการผลิตเครื่องบินปลอมเหล่านี้มีเพียง 1 ใน 3 ของค่าผลิตเครื่องบินจริง
ในตอนนั้น Shepperton Studios มีชื่อเสียงในการเป็นโรงถ่ายหนังหมายเลขหนึ่งของยุโรป แต่ประสบปัญหาทางธุรกิจ ผลพวงจากสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงต้องหยุดพักทุกอย่างลง การรับผลิต “เครื่องบินปลอม” ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการรบของอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงเป็นอะไรที่ลงตัวมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปีนี้เป็นปี “ครบรอบ 80 ปี” ของ “เหตุการณ์วัน D-Day” หรือ “การยกพลขึ้นบก” ที่ชายหาด Normandy ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี ค.ศ.1944
ซึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในวันนั้น ยังมีเรื่องที่ผู้คนไม่รู้อีกมาก หนึ่งในนั้นคือ “ยุทธศาสตร์หลอกนาซี” หรือ “แผนลวงในยุทธการทรหด” ของ “ฝ่ายสัมพันธมิตร”
“ยุทธการทรหด” หรือ Operation Fortitude มีขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนให้ “ฝ่ายอักษะ” นำโดย “นาซี” ของ “ฮิตเลอร์” ออกจากสมรภูมิ Normandy โดยการใช้เทคนิค “ยุทโธปกรณ์ปลอม”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “รถถังปลอม” ที่ถูกใช้ในการสร้างแผนการบุกแบบลวงตา ของกองทหารจากเกาะอังกฤษไปยังฝั่งตะวันตกของยุโรป
“หน่วยรบปลอม” เหล่านี้ สร้างขึ้นจากฝีมือของบริษัทผลิตภาพยนตร์อังกฤษ ทั้ง “รถถังปลอม” และ “เครื่องบินปลอม” ซึ่งก็คือ Shepperton Studios ของ Norman Loudon นั่นเอง
นอกจากนี้ Shepperton Studios ยังมีส่วนร่วมในการสร้าง “กองทัพปลอม” ซึ่งประกอบไปด้วย “ทหารหน่วยกลลวง” ที่เป็น “หน่วยรบปลอมแห่งแรกของสหรัฐ” หรือ First US Army Group
ที่ต่อมาได้รับการตั้งชื่อตามตัวย่อว่า FUSAG และเป็นอีกครั้งที่ช่างฝ่ายเทคนิคของ Shepperton Studios ถูกส่งไปทำงานในการสร้าง “รถถังปลอม” สำหรับ “กองทัพปลอม” ถึงสหรัฐ
โดย “รถถังปลอม” ดังกล่าว สร้างขึ้นจากยางพารา ซึ่งใช้ผ้าใบหุ้มโครงโลหะเอาไว้ โดยมันสามารถพองลมได้ในเวลา 30 นาทีทันทีที่เปิดเครื่องสูบลม
นอกจากนี้ FUSAG ยังได้คิดค้น “หน่วยงานปลอม” ขึ้นมาอีกหลายแห่ง เพื่อสร้างความสับสน เช่น “กรมทหารสื่อสารปลอม” ที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งสัญญาณวิทยุปลอมไป-มา ในช่องสื่อสารบังคับบัญชา โดยส่งรายละเอียดเกี่ยวกับซ้อมรบ และการยกพลขึ้นบก
ที่ฝ่ายทหารเยอรมันไม่จำเป็นต้องถอดรหัสสัญญาณวิทยุเหล่านี้แต่อย่างใด เพราะเพียงแค่ดูจากความหนาแน่นของการสื่อสารทางวิทยุที่เกิดขึ้น ก็จะเห็นได้ว่า “กองทัพขนาดใหญ่” กำลังจะมารวมตัวกัน (แบบปลอมๆ)
นอกจากนี้ แนวคิดการสร้าง “หน่วยรบปลอม” เพื่อลวง “นาซี” ยังเกิดขึ้นในสนามรบกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ โดยหน่วย A-Force ของพันโท Clark
รวมถึงการสร้าง “กองเรือยกพลขึ้นบกปลอม” เพื่อใช้ล่อลวง “ทหารนาซี” บริเวณท่าเรือตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงก่อนวัน D-Day
ด้วยการนำรถบรรทุกที่คลุมด้วยผ้าใบกันน้ำ ซึ่งเมื่อมองจากอากาศ จะดูเหมือนว่าเป็น “แนวรถถัง” ตั้งเรียงรายกันบนผืนทราย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวางสิ่งที่เป็นเหมือน “แนวท่อ” เชื่อมต่อไปยังคลังเชื้อเพลิงทางตอนใต้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เป็นเพียงการนำ “ถังน้ำมันเก่า” มาเรียงต่อๆ กันเท่านั้น
ซึ่งหลังจากการบุกครั้งใหญ่ในวัน D-Day “ยุทธการทรหด” ของฝ่ายสัมพันธมิตร ประสบความสำเร็จ ด้วยการชะลอการส่งกำลังสำรองของเยอรมนีไปยัง Normandy
ด้วยการส่ง “เครื่องบินปลอม” จำนวนมากลงจอด ทำให้ดูเหมือน “พร้อมจะโจมตี” เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของ “นาซี”
ตัดข้ามมาในยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” ที่ไม่น่าเชื่อว่า “ยุทธการทรหด” หรือ Operation Fortitude จะถูกนำมาปัดฝุ่นเพื่อใช้อีกครั้ง ในรูปแบบ “ยุทโธปการณ์ปลอม”
บริษัท INFLATECH Decoy ผู้ผลิต “ยุทโธปกรณ์กองทัพปลอม” ของ “สาธารณรัฐเช็ก” ได้ผลิต “อาวุธปลอม” เช่น “รถถังปลอม” หรือ “เครื่องยิงขีปนาวุธปลอม” สำหรับ “ล่อเป้า” คล้าย “ของเล่นเด็กเป่าลม”
“ยุทโธปกรณ์ปลอม” เหล่านี้ทำจากผ้าไหมสังเคราะห์ ซึ่งเหมือนของจริงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากมองจากระยะไกล ยิ่งใช้ Drone ถ่าย หรือกล้องส่องทางไกล จะยิ่งเหมือน
นอกจากจะทำให้ศัตรูเข้าใจผิด หากมองด้วยสายตาแล้ว ยังมีตัวสร้างความร้อน และตัวส่งสัญญาณที่ทำให้พวกมันปรากฏบนเรดาร์ เพื่อหลอกให้ข้าศึกเข้าใจผิดว่าเป็นของจริงอีกด้วย
โดย “ยุทโธปกรณ์ปลอม” สามารถบรรจุลงกระสอบที่ทหาร 2 นายสามารถแบกได้ และสามารถเป่าลมได้ภายใน 10 นาที
ซึ่งเครื่องยิงขีปนาวุธ HIMARS ปลอม น้ำหนัก 43 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึง 100,000 เหรียญอเมริกัน
ปรัชญาของ INFLATECH Decoy ก็คือ ถ้าคุณหลอกให้ศัตรูยิงมาที่ “ยุทโธปกรณ์ปลอม” ด้วยจรวดที่ราคาแพงกว่า 4 เท่า ก็ถือว่าชนะแล้ว
ทั้งนี้ ธุรกิจของ INFLATECH Decoy เฟื่องฟูอย่างมากในสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” โดยมีการเพิ่มกำลังการผลิต “ยุทโธปกรณ์ปลอม” หลาย 100 ชิ้นต่อเดือน
ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่า 100%
เนื่องจากช่วงสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” มีการสูญเสียรถถัง ระบบยิงขีปนาวุธ HIMARS หรือเครื่องบินรบที่มีมูลค่าสูง ถือเป็นความสูญเสียระดับใหญ่หลวงของกองทัพนั้นๆ
เหตุผลหลักก็คือ ยุทโธปกรณ์ราคาแพงเหล่านี้ มักตกเป็นเป้าการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม
ด้วยเหตุนี้ในการศึกสงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” จึงมักใช้กลยุทธ์ “ตัวล่อ” เพื่อลวงให้อีกฝ่ายโจมตี “เป้าหมายปลอม”
จุดประสงค์เพื่อหลอกให้อีกฝ่ายเสียกระสุน หรือขีปนาวุธไปฟรีๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อให้อีกฝ่าย “โฟกัสผิด” แล้ว “ตลบหลัง”
ปัจจุบัน INFLATECH Decoy มีสินค้า “ยุทโธปกรณ์ปลอม” มากว่า 30 รายการ ตั้งแต่ “รถถัง” ไปจนถึงสินค้าใหม่ล่าสุดอย่าง “ระบบยิงขีปนาวุธ HIMARS”
แม้ INFLATECH Decoy จะมีลูกค้าอยู่ทั่วโลก ทว่า “ยูเครน” เป็นหนึ่งในลูกค้ารายใหญ่ของบริษัท
INFLATECH Decoy ตั้งอยู่ในเมืองทางตอนเหนือของ Decin “สาธารณรัฐเช็ก” ปัจจุบันผลิต “ยุทโธปกรณ์ปลอม” ได้มากถึง 500 ตัวต่อเดือน
โดยขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ ซึ่งในการส่งออกสินค้าทั้งหมด ต้องได้รับการอนุมัติจากชาติสมาชิก NATO
นอกเหนือจากในสมรภูมิแล้ว “ยุทโธปกรณ์ปลอม” มีจุดประสงค์แรกเริ่มเพื่อการฝึกทหาร ซึ่งในช่วงต้นๆ ของการพัฒนาผลิตภัณฑ์นั้น มีต้นทุนสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ต่อชิ้น
เดิมที INFLATECH Decoy เป็นบริษัทผลิต “ของเล่นเด็ก” แต่ในช่วง COVID-19 ยอดขายของเล่นลดลง จึงหันมาผลิต “ยุทโธปกรณ์ปลอม” ในช่วงที่สงคราม “ยูเครน-รัสเซีย” เริ่มต้นขึ้น
หากพิจารณา “ธุรกิจอาวุธปลอม” ใน “สงครามจริง” ทั้งในช่วง “สงครามโลกครั้งที่ 2” และใน “สงครามยูเครน-รัสเซีย” แล้ว ดูคล้ายกับแผน “เรือฟางยืมเกาทัณฑ์”
แผน “เรือฟางยืมเกาทัณฑ์” ของ “ขงเบ้ง” คือการสร้าง “หุ่นฟางทหาร” เพื่อล่อให้ศัตรูยิง “เกาทัณฑ์” ไปปักใส่ “หุ่นฟาง”
ประกอบด้วยเรือ 20 ลำ โดยเรือแต่ละลำมีทหารฟาง 30 นาย และทุกลำให้ใช้ทุ่นฟางผูกไว้ทั่วเรือ
เมื่อเรือไปใกล้กับฝ่าย “โจโฉ” เวลานั้นมีหมอกทั่วท้องน้ำ “ขงเบ้ง” สั่งสร้างสัญญาณโจมตี “โจโฉ” เข้าใจว่าข้าศึกได้บุกเข้ามา จึงยิง “เกาทัณฑ์” เพื่อป้องกันออกไปจำนวนมาก
จากนั้น “ขงเบ้ง” ได้สั่งให้เรือกลับ ปรากฏ “เกาทัณฑ์” ติดกับ “เรือ” และ “ทหารฟาง” นับได้ “หนึ่งแสนดอก”
และนี่ก็คือ “การพิชัยสงครามสามก๊ก” เรื่อง “เรือฟางยืมเกาทัณฑ์” อันลือลั่นของ “ขงเบ้ง” นั่นเอง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022