MatiTalk หลังบ้าน รมช.คลัง ‘ส.ส.ยิ้ม’ วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ บ้านใหญ่ จ.เชียงราย ชี้โลกเปลี่ยน – ‘เพื่อไทย’ กำลังพลิกโฉม

“สําหรับพรรคเพื่อไทยแล้วเรายอมรับกับสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมา วันนี้โลกมันเปลี่ยนไป เรามีสมการตัวใหม่ พรรคต่างๆ เกิดขึ้น พี่น้องประชาชนได้เห็นความสำคัญกับหลายๆ นโยบายของหลายๆ พรรค วันนี้ ถึงเวลาแล้วที่เพื่อไทยก็ต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยน!”

คือความในใจ ส.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่เล่าถึงการเตรียมปฏิรูปพรรคในอนาคต

วิสาระดีระบุว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมาในปี 2566 คุณพ่อ (วิสาร เตชะธีราวัฒน์) / สามี (จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) รวมถึงคนอื่นๆ ได้ถอดบทเรียนที่เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ สอนอะไรเราเยอะมาก

การเลือกตั้งครั้งนี้บ่งบอกได้ว่าพรรคเพื่อไทยเรายังติดอยู่กับความเชื่อที่ว่า เราเคยเป็นพรรคประชาธิปไตยแล้วได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ชนะการเลือกตั้งมา 5 ครั้งติดกัน ทำให้เราติดอยู่กับความเชื่อที่ว่า สิ่งที่เราทำมันถูกต้องแล้ว

เรายึดติดกับการชูนโยบายเก่าๆ นโยบายเศรษฐกิจที่เราเคยชูมาตลอด อย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โครงการ SML ที่พี่น้องประชาชนให้ความชื่นชอบ

เราก็คิดว่าสิ่งเหล่านี้จะขายได้อีกครั้งหนึ่ง แต่เมื่อสิ่งอะไรที่อยู่แบบเดิมๆ อยู่แล้ว มันก็กลายเป็นสิ่งปกติของเขา วันใดวันหนึ่งมันก็มีอายุขัยของมัน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยเองถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยน

เราต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยแพ้สนามการเลือกตั้งที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นก็อาจจะเป็นเพราะการสื่อสารที่เราอาจจะมองข้ามไป

ส.ส.พรรคเพื่อไทยเองเราลงพื้นที่อยู่กับพี่น้องประชาชน เมื่อก่อนเราคิดว่าการแสดงผลงานยึดติดกับพื้นที่ได้เจอกับพี่น้องประชาชนบ่อยๆ รับฟังปัญหาของพี่น้องประชาชนพอแล้ว

แต่มาวันนี้เราแพ้ในส่วนสงครามที่อยู่บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก ดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องกลับมามองตัวเองแล้วก็มองวิธีการสื่อสารให้ถูกต้องมากขึ้น

การลงพื้นที่หรือการออกงานอาจจะไม่ใช่งานหลักสำคัญของ ส.ส.อีกต่อไป เราต้องมาโชว์กันที่ผลงานและการสื่อสารในโซเชียลแพลตฟอร์ม เป็นอีกอันหนึ่งที่เรารู้สึกว่าพรรคเพื่อไทยพลาดตรงนี้

อยากจะให้ทุกคนเฝ้าติดตามดูว่าเร็วๆ นี้พรรคเพื่อไทยกำลังจะพลิกโฉมใหม่ไปในทิศทางที่ทันสมัยมากขึ้น อยากให้ช่วยเปิดใจอีกครั้งหนึ่งค่ะ

วันนี้เราต้องหาแนวทางใหม่ๆ หานโยบายใหม่ๆ ที่ไม่ได้ยึดติดกับนโยบายที่ส่งผลมาจากยุคพรรคไทยรักไทยแล้วก็ต่อยอดกันมาเรื่อยๆ

ต้องสื่อสารใหม่ให้เข้าถึงประชาชนรวมไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้มากขึ้นค่ะ

: เพื่อไทย Academy กำลังทำอะไร?

การเกิดขึ้นของ เพื่อไทย academy เพื่อเป็นการพัฒนา ส.ส.

เราจะมีวอร์รูม กลุ่มเด็กที่เข้ามาเราสามารถจะดึงเอาข้อมูลมาจากน้องๆ ที่มีความรู้ที่สนใจทางการเมืองเหมือนจะเป็นแหล่งที่จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับทุกๆ เรื่องให้กับ ส.ส.

เพื่อไทย academy เขาจะยื่นแผ่นงานมาให้เรา แล้วให้เราวิเคราะห์แล้วก็สื่อสารออกไปไม่ว่าจะเป็นรูปแบบว่าพูดคุยกับนักข่าว พูดคุยในสภาหรือว่าลงพื้นที่กับพี่น้องประชาชนให้เราวิเคราะห์แล้วก็นึกนโยบายต่างๆ ที่จะแก้ไขปัญหาในแต่ละจุดได้แล้วก็ออกมาพรีเซนต์

โดยที่พรรคเพื่อไทยหัวใจเราก็คือประชาชนสิ่งที่เราทำก็คือเราจะสร้างโอกาสเพื่อที่ให้พี่น้องประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุด เป็นแกนหลัก คือ DNA คือจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย

หรือเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2567 อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้เข้าไปพูดที่เพื่อไทย academy ก็เรียกว่าให้กำลังใจพร้อมย้ำว่า พรรคนี้เกิดขึ้นมากับคนจน เราเป็นพรรคของคนจน สิ่งที่เราทำได้ก็คือเราจะทำยังไงให้ประชาชนมีโอกาสที่เท่าเทียมกัน สามารถไปทำตามความฝันของพวกเขาได้อย่างเท่าเทียมกัน สร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนทุกๆ คน

แล้วท่านก็บอกว่าการสื่อสารที่สำคัญของเรา คือ “สายตา” ไม่ต้องดูอย่างอื่นเลยใครจะเป็นยังไงบ้านใหญ่บ้านเล็กเป็นใคร เราไม่ต้องสนใจ

การสื่อสารที่ชัดเจนที่สุด คือสายตาและการกระทำ ท่านบอกว่าถ้าวันนี้เราตั้งใจทำจริงให้กับพี่น้องประชาชนยังไงเขาก็ต้องได้สัมผัสถึงจิตใจ อยากให้ทำด้วยความจริงใจทำด้วยความตั้งใจ

 

: บางฝ่ายเกิดไม่ทัน และอาจมองว่าอดีตนายกฯ ทักษิณอาจจะเป็นตำบลกระสุนตกให้พรรค?

ถ้าถามส่วนตัวเลยนะคะ คือเราเป็นคนในพื้นที่ต่างจังหวัดนโยบายต่างๆ ตั้งแต่พรรคไทยรักไทยได้ทำไว้มันผูกแล้วก็ยึดติดกับพี่น้องประชาชนมากๆ ทุกครั้งที่เราเอานโยบายไปหาเสียงทุกคนรู้ว่านโยบายสามารถทำได้จริง ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพวกเขาได้จริง อันนี้เป็นสิ่งพรรคไทยรักไทยส่งต่อมาพรรคเพื่อไทยปัจจุบันนี้

วันนี้ เรามีท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เป็นผู้นำรัฐบาล และมีคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรคแต่ท่านนายกฯ ทักษิณเราปฏิเสธไม่ได้เลยท่าน คือจิตวิญญาณเป็นศูนย์รวมของ ส.ส.หลายๆ ท่าน

คนรุ่นใหม่อาจจะยังไม่เคยได้ทำงานกับท่าน แต่ว่า ส.ส.ในพรรคเกินครึ่งเคยทำงานกับท่านมาแล้ว

ถือว่าเรามีที่ปรึกษาที่ผ่านงานการเมืองมาแล้วเป็นถึงอดีตนายกฯ เดินทางไปทั่วโลก สัมผัสมาทั่วประเทศ วันนี้ท่านบอกจะเอาความรู้ที่มีทั้งหมดเอามาสรุปให้กับประเทศไทยได้ภายในพริบตา

หลายคนบอกว่าท่านทักษิณลงไปแต่ละพื้นที่เป็นนัยยะเกี่ยวกับการเมืองหรือเปล่า หากลองคิดดูว่าถ้าเรากลับมาแล้วเรามีคนที่รู้จัก ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนผองน้องพี่เราก็อยากไปเยี่ยมหาจากที่เราไม่ได้กลับมาตั้งนาน อันนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องปกติหรือเปล่าในบทบาทที่ท่านไป

ถ้าพูดถึงบ้านใหญ่ ก็ต้องนึกถึงกลุ่มคนที่เหมือนมีอิทธิพล มีอำนาจหรือว่าเป็นกลุ่มบ้านที่มีนามสกุลใหญ่

ถ้าในมุมมองของดิฉันเองกับทางการเมืองแล้ว บ้านของดิฉัน เราเองเป็นลูกคนเดียวบ้านเล็กมีกันอยู่แค่ 3 คน แต่ถ้าถามว่านามสกุลของเราหรือว่าที่ไหนก็ตาม คือ คำว่าบ้านใหญ่อาจจะเป็นผลพวงจากที่เราเป็นนักการเมืองมาตั้งแต่รุ่นพ่อมาสู่รุ่นลูก อย่างแรก คือเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์มีความชำนาญจบในพื้นที่นั้นๆ เขาเลยเรียกว่าบ้านใหญ่หรือเปล่า เพราะว่าทำงานคลุกคลีในพื้นที่มาตลอด จนชื่อ-นามสกุลติด

พรรคเพื่อไทยก็คือเป็นบ้านหลังหนึ่งหรือว่าพรรคก้าวไกลก็เป็นบ้านหลังหนึ่ง ถามว่าวันนี้คุณชัยธวัช ตุลาธน คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คนละนามสกุลกัน แต่ถามว่าเขาเป็นคนที่เชื่อมือกันที่สุด เขาก็เลือกที่จะทำงานที่เดียวกัน

ดังนั้น บ้านใหญ่การที่เราจะใช้คนที่เราเชื่อมือที่สุดส่งต่อผลงานที่มีประสบการณ์และมีความเชื่อทางการเมือง แนวทางประชาธิปไตยเหมือนกัน ก็น่าจะเป็นการเสริมให้กันได้ การที่เราจะดึงคนที่เราเชื่อมือมาเพื่อเสริมกำลังเพื่อพื้นที่ของเราถือเป็นสิ่งที่ดีนะคะ

: อาวุธลับที่พรรคเพื่อไทย หรือรัฐบาลมีคือดิจิทัลวอลเล็ต?

จริงๆ เรามีหลายนโยบายนะคะ แต่นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่ทุกคนให้ความสนใจ ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้เลยถ้าพี่น้องประชาชนจังหวัดเชียงรายทุกครั้งที่ลงพื้นที่ เขาก็เฝ้าถามว่าได้เมื่อไหร่และได้จริงไหม ซึ่งเป็นนโยบายของเราก็จะต้องมุ่งหน้าทำตามที่เราพูดไว้ตามนโยบายให้ได้มากที่สุดค่ะ

ลองคิดดูค่ะว่า 10,000 บาทต่อคน สำหรับเราอาจจะดูน้อยนะ แต่สำหรับบางครอบครัวมันเยอะมากๆ นะคะ ถ้าหากบ้านเขามีกัน 3 คน ก็มี 30,000 บาท เค้าสามารถจะไปแบบซื้อรถเข็นก๋วยเตี๋ยวสามารถสร้างอาชีพใหม่ๆ ของเขาได้ อันนี้คือการสร้างโอกาสให้กับครอบครัวต่างๆ ที่แบบรู้สึกว่าไม่เท่าเทียมถูกไหมคะ ลดความเหลื่อมล้ำ กับอีกสิ่งหนึ่งเรากำลังขอให้พี่น้องประชาชนช่วยจับจ่ายใช้สอยโดยเอาเงินตัวนี้ทำให้เกิดการกระตุ้นหมุนเวียนเศรษฐกิจ

 

: การเป็นหลังบ้าน รมช.คลัง? และการเติมกำลังใจในวันนี้ดิจิทัลวอลเล็ตคืองานหนัก?

ส่วนตัวจะคอยถาม ให้เขาเล่าว่ามีอะไร ให้เขาเหมือนได้ระบายได้พูด เขาก็จะเล่าให้ฟังเป็นบางเรื่อง ช่วงนี้รัฐมนตรีก็ทำงานหนัก หนักมากจริงๆ ไม่ใช่แค่พี่หนิม (จุลพันธ์) คนเดียวนะคะ ทั้ง ครม. รวมถึงตัวท่านนายกฯ เองด้วย ก็คือเห็นแล้วว่ารัฐมนตรีชุดนี้ไม่สบาย หนักหนา โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต เป็นอะไรที่เขาค่อนข้างให้ความสำคัญแล้วก็เหนื่อยมากๆ อยากจะทำออกมาให้ได้เร็วที่สุดตามที่ประกาศไว้ แต่ว่ามันก็ติดขัดหลายอย่าง ก็เห็นว่ากินข้าวน้อยลง ก็น้ำหนักลง

ส่วนตัวก็อยากให้ดูแลสุขภาพด้วยเพราะความเครียดมันก็จะบั่นทอนสุขภาพ

ชมคลิป

https://www.youtube.com/@MatichonWeekly