ลุ้น ‘กกต.’ ฝ่าด่าน ‘ล้มกระดาน’ รับรอง 200 ส.ว.ใหม่ ปล่อยก่อนสอยทีหลัง

แม้ว่ากระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ชุดใหม่ จะเสร็จสิ้น ได้เห็นรายชื่อว่าที่ ส.ว. 200 คน ที่มาจาก 20 กลุ่มอาชีพ ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 ออกแบบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ทว่า สิ่งที่สะท้อนตามมาคือเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระบวนการคัดเลือกที่มีกติกาซับซ้อน พิสดาร มีการตั้งข้อสังเกต ข้อท้วงติง ร้องเรียนสารพัด ตั้งแต่การเลือกระดับอำเภอ เรื่อยมาระดับจังหวัด จนกระทั่งระดับประเทศ

อีกทั้งเมื่อพลิกประวัติของว่าที่ ส.ว. พบว่าบางคนมีคุณสมบัติไม่ตรงสเป๊กตามกลุ่มอาชีพที่ยื่นใบสมัคร ผู้เชี่ยวชาญหรือคร่ำวอดในแวดวงวิชาชีพ ถึงกับตกใจเพราะรายชื่อผู้ได้รับเลือก ส.ว.ในบางกลุ่มอาชีพซึ่งมีคะแนนมาเป็นอันดับต้นๆ กลับไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลที่มีชื่อเสียงระดับบิ๊กเนมเป็นที่รู้จักกันทั้งประเทศ มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์หลายต่อหลายคน กลับสอบตก ไปไม่ถึงฝั่ง ไม่ได้รับเลือกให้เข้ามาทำหน้าที่

ด้วยเหตุนี้ จึงส่งผลให้เกิดคำถามตามมามากมายว่า ท้ายที่สุดแล้ว ส.ว. 200 คนที่มาจากกระบวนการเลือกกันเองของผู้สมัคร โดยที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมนั้น จะสามารถตอบโจทย์และตรงตามที่รัฐธรรมนูญเขียนไว้ได้จริงหรือไม่

รวมทั้ง ส.ว.ชุดใหม่ จะมีความเป็นอิสระ เป็นตัวแทนของกลุ่มวิชาชีพได้จริงหรือไม่ ไม่ใช่คนหรือตัวแทนของกลุ่มใดที่จัดตั้งเข้ามาให้ทำหน้าที่หรือไม่

 

นอกจากการตั้งคำถามต่อกระบวนการเลือก ส.ว.ครั้งนี้ สิ่งที่ตามมาคือ บรรดาอดีตผู้สมัครที่สอบตก ต่างยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ขอให้ตรวจสอบกระบวนการเลือก การทุจริต การบล็อกโหวต การล็อกโหวต การฮั้วกันของผู้สมัคร บางคนนำภาพบัตรลงคะแนน ลงหมายเลขตรงโพยเป๊ะๆ มาเป็นหลักฐานให้ กกต.ตรวจสอบ

นอกจากนี้ ยังขอให้ กกต.ตรวจสอบกระแสข่าวการจ่ายเงินแลกคะแนนเสียงตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสน การปล่อยให้นักการเมืองและพรรคการเมืองเคลื่อนไหวและอยู่เบื้องหลังการเลือก ส.ว.ในครั้งนี้

ซ้ำหนักอดีตผู้สมัครบางรายยังไปขุดประวัติของบุคคลสำคัญ กกต. ในฐานะดูแลการเลือก ส.ว.ระดับประเทศ ว่าเป็นคนบุรีรัมย์ และพี่ชายเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดในภาคอีสาน โดยการสนับสนุนของคนบางคน และคนบางพรรคด้วย ซึ่งอ้างข้อมูลสอดรับกับว่าที่ ส.ว.บางคนที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองหนึ่งด้วย

ขณะที่บางส่วนต้องการเบรก กกต.ให้หยุดการประกาศรับรอง 200 ชื่อว่าที่ ส.ว.เอาไว้ก่อน เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของคะแนนทุกคะแนนว่าการเลือกครั้งนี้มีการเอาเปรียบผู้สมัครคนอื่นหรือไม่

หากพบว่าผลการตรวจสอบคะแนนมีมูล หรือเหตุควรเชื่อว่ามีการฮั้วลงคะแนนให้กัน ให้ กกต.ประกาศให้ผลการเลือก ส.ว.ครั้งนี้เป็นโมฆะ และสั่งให้มีการเลือก ส.ว.ใหม่ทันที

 

ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ เลขาธิการกลุ่ม Clean Politic ในฐานะอดีตผู้สมัครสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กลุ่มที่ 20 (กลุ่มอื่นๆ)

ไปยื่นฟ้อง กกต.ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีปล่อยปละละเลยตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ไม่ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ว.ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ

อีกทั้งขอให้ศาลเปิดไต่สวนฉุกเฉินเพื่อพิจารณาสั่งระงับการประกาศรับรองผลการเลือก ส.ว.เป็นการชั่วคราว จนกว่าจะมีการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น ส.ว. 200 คน และผู้อยู่ในบัญชีสำรองอีก 100 คน ว่ามีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมาย

ฉะนั้น ความเป็นไปได้ว่า กกต.จะดำเนินการตรวจสอบข้อร้องเรียนต่างๆ ที่เข้ามามีจำนวนมากทั้งประเด็นคุณสมบัติผู้สมัคร การให้ทรัพย์สินตามมาตรา 77 พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. การจ้างลงสมัคร เรียกรับให้ลงคะแนน เบื้องต้นเสียก่อน

ดังนั้น กกต.จะยังไม่ประกาศรับรอง ส.ว.ตามไทม์ไลน์เดิมที่วางไว้ นั่นคือ 3 กรกฎาคม

 

แต่ทว่า การประกาศรับรอง คงขยับไปจากไทม์ไลน์เดิมไม่มากเท่าไร มีแนวโน้มว่า กกต.จะประกาศรับรองรายชื่อ ส.ว.ไปพร้อมกันทั้ง 200 คนก่อน หากภายหลังพบว่าผู้สมัครรายใดกระทำผิด มีหลักฐานเอาผิดชัดเจน ค่อยมาตามสอยภายหลังได้

เนื่องจากการพิจารณาว่าใครทำผิดกฎหมาย หรือทุจริตการเลือก ส.ว. ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจนว่าผิดจริงๆ แต่จนถึงขณะนี้ กกต.ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดมากพอที่จะสั่งเอาผิด หรือลบชื่อออกได้ในทันที ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูล หลักฐาน การหาหลักฐานเพิ่มเติม

อีกทั้งการตรวจสอบการเลือก ส.ว.ไม่ได้มีกฎหมายระบุชัดว่าให้ทำให้เสร็จภายในระยะเวลากี่วัน กี่เดือน แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว กกต.จะดำเนินการประมาณ 1 ปี

นอกจากนี้ กกต.จำเป็นต้องตรวจสอบหลักฐานด้วยความรอบคอบ มีข้อเท็จจริง พยานหลักฐาน มีน้ำหนักเพียงพอที่จะวินิจฉัยเอาผิดผู้สมัครได้

เพื่อป้องกันเกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมเหมือนเคสกรณีแจกใบส้ม นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ ช่วงการเลือกตั้งปี 2562 ภายหลังศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีที่ กกต.ยื่นฟ้องนายสุรพล คดีบูชาเทียนเพื่อทำบุญวันเกิด 2,000 บาท โดยระบุว่า ไม่ใช่เป็นการซื้อเสียง หรือทุจริตการเลือกตั้ง ส.ส.

 

เรื่องนี้ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อธิบายถึงการประกาศรับรองสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ภายหลังมีกระแสข่าวการเลื่อนประกาศรับรองจากไทม์ไลน์เดิมวันที่ 3 กรกฎาคม ว่า อย่าใช้คำว่าเลื่อน แต่ทุกอย่างจะต้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จ จึงจะมีการประกาศรับรอง ส.ว. ตามแผนการที่จะประกาศรับรองวันที่ 3 กรกฎาคม จะประกาศต่อเมื่อ กกต.ดำเนินการส่วนที่เกี่ยวข้องเรื่องต่างๆ แล้วเสร็จ ดังนั้น จึงไม่ใช่เป็นการเลื่อน แต่ยังไม่เสร็จ เป็นการทำให้เสร็จแล้วจะประกาศ

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่า ขณะนี้ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประสานมายังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ให้จัดเตรียมสถานที่รับรายงานตัวบุคคลที่ได้รับการประกาศให้ ส.ว. 200 คน และห้องทำงานให้ ส.ว.ใหม่ ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้

ดังนั้น กรณีที่นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ระบุว่าวันที่ 3 กรกฎาคม ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือก เพราะต้องพิจารณาคำร้องให้เสร็จสิ้นก่อนนั้น เป็นเพียงพิธีกรรม และไม่มีการตรวจสอบกรณีที่ถูกร้องจริง

ขณะนี้วุฒิสภาทราบแล้ว และ ส.ว.ทราบว่าถูกไล่ วันนี้ผมเข้ามาเก็บของให้แล้ว