วัชระ แวววุฒินันท์ : กิ๊กดู๋…ท้าเงาเสียง โปรเจ็กต์ใหม่ สะท้อนพฤติกรรมเสพสื่อ

วัชระ แวววุฒินันท์

เชื่อว่าผู้ชมหน้าจอทีวีหลายล้านคนทีเดียวที่เป็นแฟนประจำรายการ “กิ๊กดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” ทุกคืนวันอังคาร ทางช่อง 7 สี

บางคนบอกว่าดูแล้วได้หัวเราะสบายใจ นอนหลับสนิท แถมฝันดีอีกต่างหาก

บางคนพลาดชมตอนอากาศจริง ก็มาตามดูย้อนหลังกันทางสื่อออนไลน์ต่างๆ ดูแล้วดูอีก หัวเราะแล้วหัวเราะซ้ำได้อีก ไม่มีใครว่า

สำหรับผู้จัดรายการเองแล้ว รู้สึกสนุกเวลาจะเอาต้นเสียงคนไหนมาออก เพราะทุกคนล้วนให้ความร่วมมือ นอกจากที่ผลงานเพลงของตนจะได้ถูกเผยแพร่ในรายการท็อปฮิตแล้ว ยังได้มาเจอกับ 2 พิธีกรที่เหมือนเป็นญาติสนิท กับอีก 5 กรรมการที่บางทีต้นเสียงเองไม่เป็นอันทำอะไรเอาแต่หัวเราะไปมา

บางคนบอกว่า “เหมือนมาพักผ่อนเดินเล่น”

ส่วนคนที่สมัครมาเป็นเงาเสียงนั้นก็มีให้เลือกไม่น้อย บางคนมีทักษะการร้องเพลงจนเป็นเงาของหลายๆ เสียงก็มี แต่คนที่ได้มาออกในรายการนั้น ไม่ใช่แค่การร้องที่ต้องละม้ายคล้ายเหมือน แต่ทีมงานดูถึงบุคลิกลักษณะด้วยว่ามีจุดเด่นอย่างไร

เพราะคนเหล่านี้จะกลายมาเป็น “ของเล่น” ให้พิธีกรได้ขยี้เพื่อชูให้เด่น ให้คนดูจดจำ ชื่นชอบ

ซึ่งที่จำต้องคัดทิ้งไปด้วยความเสียดายก็มาก เพราะในรายการมีพื้นที่ให้ได้แค่ 4 คนเท่านั้น

จึงเกิดมาเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ที่ต่อยอดจากความสำเร็จของรายการ นั่นคือ “กิ๊กดู๋ ท้าเงาเสียง”

ซึ่งไม่ได้ออกอากาศทางช่องดิจิตอล แต่ผู้ชมสามารถหาชมได้ทาง 2 ช่องทางคือ ทางแอพพลิเคชั่น ของ AIS Play กับทางกล่องที่เรียกว่า AIS Play box

ทั้งนี้ เป็นการร่วมมือกันระหว่างคอนเทนต์ที่เป็นที่นิยมที่สุดอย่าง “กิ๊กดู๋ สงครามเพลง” กับเครือข่ายที่มีผู้นิยมมากที่สุดในประเทศไทยเช่นกัน คือ AIS

ซึ่ง AIS นั้นได้วางตนให้เป็นผู้บริการคอนเทนต์ดิจิตอลที่ทันสมัยด้วยรายการพิเศษ ที่หาดูเฉพาะที่นี่เท่านั้น

“กิ๊กดู๋ ท้าเงาเสียง” จึงเป็นโปรเจ็กต์ใหม่ที่น่าสนใจขึ้นมาทันที แค่ออกอากาศตอนพิเศษที่นำบรรยากาศของการแถลงข่าวโปรเจ็กต์นี้มาออกทางแอพพลิเคชั่นที่ว่า ก็มียอดวิวสูงเกือบ 7 แสนรายทีเดียว

มาพูดถึงตัวรายการกันบ้างว่าเป็นอย่างไร “กิ๊กดู๋ ท้าเงาเสียง” เป็นการนำเอานักร้องต้นแบบชื่อดังมาเยือนเวทีกิ๊กดู๋อีกครั้ง แต่คราวนี้จะมีเงาเสียงมาแข่งขันถึง 7 คนด้วยกัน มีตั้ง 7 คนอย่างนี้ กิ๊กและดู๋ เลยสนุกใหญ่ เพราะมีของเล่นอย่างที่ว่าให้เล่นแบบเต็มอิ่มกันเลย

ส่วนการตัดสินจะมาจาก 2 ส่วน คือ 7 เงาเสียงนั้นใครมียอดวิวมากที่สุดในช่วงเวลา 1 สัปดาห์จะเป็นผู้ชนะ ได้รับของรางวัลจาก AIS ไป ส่วนเงาเสียงที่ต้นแบบเลือกก็จะได้อีก 1 รางวัลด้วยเช่นกัน อาจจะเป็นคนคนเดียวกันหรือไม่ก็ได้

สำหรับนักร้องต้นแบบคนแรกที่มาเปิดประเดิม ก็คือ “ก้อง ห้วยไร่” เจ้าของยอดวิวกว่า 100 ล้านวิวจากบทเพลงดัง “ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน”

ก้องนั้นเคยมาเป็นต้นเสียงในรายการใหญ่มาแล้ว สนุกและเรียกเสียงหัวเราะได้อย่างมาก มาคราวนี้ความสนุกก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย กลับมากขึ้นด้วยเพราะมีถึง 7 เงาเสียงที่ว่า

ในวันบันทึกรายการ ทีมงานตั้งใจให้แต่ละคลิปคือ 1 เงาเสียงใช้เวลาประมาณ 9-12 นาทีแล้วแต่ความสนุกมากสนุกน้อย แต่กลับเป็นว่า 2 พิธีกรกิ๊กดู๋สนุกมาก จนใช้เวลาต่อคนไปร่วม 20 นาที

พอบันทึกเทปเสร็จ สองพิธีกรหมดแรงข้าวต้มกันทีเดียว

จากโปรเจ็กต์นี้ เป็นตัวอย่างที่สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้เสพสื่อทุกวันนี้ได้อย่างดี ว่าคน “เลือก” ที่จะดูอะไร ในแบบ ในช่วงเวลา ในสื่อ ที่เขามีความพร้อม ที่เขาเลือกได้ เขาไม่จำเป็นต้องดูเหมือนกับคนทั่วไป แต่เขาเลือกดูในสิ่งที่ตนชอบได้

และนั่นคือการปรับตัวของคนผลิตคอนเทนต์วันนี้ ที่ต้องคิดใหม่ ทำของใหม่ ที่เอาผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และไม่ใช่ศูนย์กลางเดียว หากมีหลากหลาย segment จนนักการตลาดมึนกันเป็นแถวๆ

มีคนตั้งคำถามว่าคนทุกวันนี้จะเสพก็ต่อเมื่อเป็น “ของฟรี” เท่านั้น ก็จริงและไม่จริง

ที่จริงคือ ถ้าของนั้นไม่ได้โดดเด่นมากกว่าคนอื่นเป็นพิเศษ คุณจะมาให้เขาควักเงินเพื่อซื้อก็คงจะยาก

แต่ถ้าของของคุณพิเศษมากๆ ตรงกับความต้องการจริงๆ คนก็ยินดีที่จะควักเงินซื้อหามาใช้ มาชม

และนั่นคือโอกาสของการตลาดที่หลายๆ คนแข่งขันกันไปให้ถึง

สําหรับผู้ที่ต้องการชม “กิ๊กดู๋ ท้าเงาเสียง” ก็หาชมได้ผ่านสองช่องทางที่ว่า ทาง AIS เริ่มให้บริการมาตั้งแต่วันที่ 6 กันยายนแล้ว

ลองดูนะครับ แล้วคุณจะได้หัวเราะได้ทุกเมื่อ แถมมีคำถามพ่วง เอ๊ย โอกาสพ่วงในการเป็นยอดวิวของผู้ชนะอีกด้วย

ฝากด้วยครับ กับ “กิ๊กดู๋ ท้าเงาเสียง”