การเสนอ Entertainment Complex เข้ามาของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ดำเนินไปอย่างทะลุทะลวง ดำเนินไปอย่างท้าทายต่อ”ค่านิยม” และ”ความเชื่อ”ในทางสังคม

หากทำได้สำเร็จมั่นใจได้เลยว่าจะส่งผลสะเทือนลึกซึ้ง กว้าง ขวางไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากรณี”สมรสเท่าเทียม”

เพียงแต่”สมรสเท่าเทียม” เป็นเรื่องระหว่าง”เพศ”

เพียงการปลดล็อคผ่านประมวลกฎหมายแพ่งในเรื่องของ”การสมรส” ก็ทำให้การแต่งงานมิได้มีความหมายเพียงชายกับหญิง หากทำได้ไม่ว่าชายกับชาย ไม่ว่าหญิงกับหญิง

นี่ย่อมเป็นการ”ช็อค”เป็นอย่างสูงในทางวัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อที่ยึดถือมาอย่างยาวนาน

อย่าได้แปลกใจที่นายทหารระดับ”พลเอก”ออกมาโอดครวญ

กระนั้น หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันให้โครงการ Entertainment Complex ประสบความสำเร็จอย่างราบรื่น

นั่นจะยิ่งทำให้สังคมไทยก้าวเข้าสู่ความเป็น”อารยะ”ในโลกสมัยใหม่อย่างอึกทึกครึกโครม ท้าทายต่อความคิด ความเชื่อในเชิงประเพณีวัฒนธรรม

เนื่องจากบ่อน”คาสิโน”จะเป็นเรื่องซึ่งถูกกฎหมาย

หากมองพื้นฐานการเสนอเรื่องอันเกี่ยวกับ”คาสิโน”ก็จะเห็นได้ว่า นี่มิได้เป็นความริเริ่มของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยอย่างโดดๆเป็นเอกเทศ หากมีความต่อเนื่อง

เป็นความต่อเนื่องจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผลจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเพียงแต่เอามาสานต่อและจัดระบบ เป็นการจัดระบบเหมือนกับกรณีของ”สมรสเท่าเทียม” เป็นการจัดระบบเหมือนกับกรณีของ”แลนด์บริดจ์” กรณีของ”สมรส เท่าเทียม”อาจมีรากฐานมาจากพรรคไทยรักไทย กรณีของ”แลนด์ บริดจ์”อาจเกิดในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

แต่หากรัฐบาลพรรคเพื่อไทยสามารถผลักดันและขับเคลื่อนจนลงหลักปักฐานก็ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จและเป็นผลงานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้อย่างเต็มปาก

กรณี”สมรสเท่าเทียม”เรียบร้อยแล้ว ยังก็แต่”คาสิโน”

หากมองจากพื้นฐานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากมองจากพื้นฐานของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในกรณี”คาสิโน” ต้องยอมรับว่ามีจุด”ร่วม”และความต้องการอันตรงกัน

กรณี”คาสิโน”จึงไม่เกี่ยวกับเป็นอนุรักษ์นิยมหรือว่าไม่เป็นอนุรักษ์นิยม เพราะว่าหากกรณี”คาสิโน”เกิดขึ้นได้จริงนั่นหมายถึง การก้าวรุกในทางเศรษฐกิจสมัยใหม่

เหมือนลาสเวกัส เหมือนมาเก๊า เหมือนปอยเปต เหมือนเมียวดี เหมือนที่เห็นในออสเตรเลีย