เสถียร จันทิมาธร : วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย : 2 วีรชน เอกชน (51)

เสถียร จันทิมาธร

ต้องยอมรับว่าเฮ้งเต็งเอี้ยงคือคนที่สร้างสุสานโบราณ และเป็นคนมอบสุสานโบราณให้กับลิ้มเซียวเอ็ง ดังนั้น เขาย่อมรู้รายละเอียดภายในสุสานได้เป็นอย่างดี

ความนัยของจารึก “เก้าอิมจินเก็ง” จึงสำคัญ

สำคัญไม่เพียง 1 มันไปปรากฏอยู่ภายในสุสานโบราณได้อย่างไร หากแต่ 1 ยังสะท้อนให้เห็นการต่อกรกันอย่างลึกซึ้งระหว่าง 2 ปรมาจารย์

จำเป็นต้องให้ความสนใจ

สำนวน น.นพรัตน์ บรรยายสภาพของเฮ้งเต็งเอี้ยงเมื่อหวนกลับเข้าสู่สุสานอีกหนหนึ่งว่า ได้พบเห็นภาพวาดของเขาซึ่งลิ้มเซียวเอ็งวาดขึ้น รู้สึกว่าวิชาฝีมือในคัมภีร์สุรางคนางค์ลึกล้ำพิสดารทุกกระบวนท่าล้วนเป็นดาวข่มของหลักวิชาสำนักช้วนจิน

สร้างความตระหนกจนหน้าถอดสีล่าถอยออกจากสุสาน

เฮ้งเต็งเอี้ยงพาตัวเข้าสู่ส่วนลึกของภูเขาปลูกสร้างกระท่อมหลังหนึ่งใช้ชีวิตอยู่ในกระท่อม 3 ปี ศึกษาค้นคว้าวิธีทำลายเคล็ดวิชาสุรางคนางค์ มาตรว่าพอมีความสำเร็จด้านปลีกย่อยเล็กน้อยแต่ไม่สามารถหลอมรวมเป็นขุมวิชาที่ครอบคลุมทั้งภายในและภายนอก

เชื่อมโยงร้อยเป็นจุดใหญ่ได้

ยามท้อแท้ใจ ยิ่งนับถือเลื่อมใสต่อสติปัญญาความคิดของลิ้มเซียวเอ็งถึงกับยอมศิโรราบสิ้น ไม่ศึกษาค้นคว้าอีกต่อไป

10 กว่าปีให้หลัง เฮ้งเต็งเอี้ยงเข้าร่วมการชุมนุมวิจารณ์กระบี่บนยอดเขาฮั้วซัวช่วงชิงคัมภีร์นพยมซึ่งเป็นยอดตำราวิชาการต่อสู้มา

ความจริง ตั้งใจว่าจะไม่ฝึกปรือวิชาในคัมภีร์

แต่ด้วยความสงสัยอยากรู้จึงอดพลิกดูเที่ยวหนึ่งมิได้ ตอนนั้นเฮ้งเต็งเอี้ยงมีพลังฝีมือที่ 1 แห่งแผ่นดิน เคล็ดความอันลึกล้ำพิสดาร ซึ่งบันทึกอยู่ในคัมภีร์นพยมพออ่านผ่านสายตา ท่านครุ่นคิดเป็นเวลา 10 กว่าปีล้วนได้คิดปรุโปร่ง

ดังนั้น แหงนหน้าหัวร่อดังยาวนาน กลับเข้าสุสานคนตายในคนเป็น

จารึกเคล็ดวิชาของคัมภีร์นพยมอยู่บนเพดานของห้องศิลาใต้ดินซึ่งเป็นตำแหน่งเร้นลับที่สุดของสุสาน พร้อมกับระบุวิธีทำลายวิชาฝีมือในคัมภีร์สุรางคนางค์ เฮ้งเต็งเอี้ยงดูจากสภาพในสุสานคาดว่าโลงเปล่าหลายใบจัดเตรียมไว้สำหรับศิษย์ของลิ้มเซียวเอ็ง

พวกนางก่อนตายคงจะลงนอนในโลงรอคอยความตาย เมื่อถึงเวลานั้นจะทราบว่า ในชีวิตของปรมาจารย์สำนักเต็งเอี้ยงไม่เคยพ่ายแพ้แก่ผู้ใด

ดังนั้น เขียนข้อความลงบนใต้ฝาโลงของโลงเปล่าซึ่งจัดเตรียมไว้สำหรับตัวเองเพื่อให้ทายาทของลิ้มเซียวเอ็งก่อนตายทราบว่า วิชาฝีมือของปรมาจารย์ผู้ก่อตั้งสำนักช้วนจินสุดที่วิชาฝีมือในคัมภีร์สุรางคนางค์จะสะกดข่มได้

เพียงเป็นความคิดเอาชนะ หามีเจตนาแพร่งพรายวิชาฝีมือในคัมภีร์นพยมไปไม่

เฮ้งเต็งเอี้ยงกับลิ้มเซียวเอ็งล้วนเป็นอิจฉริยะในเชิงบู๊ เป็นคู่ครองที่สวรรค์บรรจงสร้างขึ้น ระหว่างคนทั้ง 2 ทั้งไม่มีบุคคลที่ 3 ที่เป็นบุรุษหรือสตรีสอดแทรกเข้ามาก่อเกิดเป็นมรสุมในห้วงรัก

และปราศจากความแค้นข้อพิพาทระหว่างญาติสนิทศิษย์พี่น้อง

ตอนแรกเฮ้งเต็งเอี้ยงทุ่มเทจิตใจกับการรวบรวมกำลังต่อต้านทหารไต้กิม ไม่มีเวลาครุ่นคิดถึงความรักฉันบุรุษสตรี แต่หลังจากที่ก่อการใหญ่ล้มเหลวขังตัวเองอยู่ในสุสานศิลา ลิ้มเซียวเอ็งเดินทางมาปลอบโยนไต่ถาม

คุณธรรมอันสูงส่ง น้ำใจอันนุ่มนวลเป็นที่น่าตื้นตัน

ตอนนั้นไม่มีเหตุผลที่ไม่สมรักสมปรารถนา แต่แล้ววิมานรักกลายเป็นแค้นยืนยาว คน 1 บวชเป็นนักพรต คน 1 อยู่ในสุสานศิลา ตรอมใจจวบจนตาย

สาเหตุของเรื่องนี้แม้แต่ตัวเฮ้งเต็งเอี้ยงกับลิ้มเซียวเอ็งก็ยากที่จะอธิบายได้

มีแต่บอกว่าเกิดจากคำว่า “ไร้วาสนา” หาทราบไม่ว่า การที่ไร้วาสนาสืบเนื่องจาก “ผล” หาใช่เกิดจาก “เหตุ” ไม่

ทั้ง 2 ต่างมีฝีมือสูงเยี่ยม เปี่ยมด้วยความทระนงตน ทุกครั้งที่ใยรักงอกงาม พอถกถึงวิชาบู๊ต้องเกิดการโต้เถียงขึ้น จวบจนตายจากความคิดเอาชนะคะคานของทั้ง 2 ยังไม่สลายคลายจากใจ

สรุปตามสำนวน “ซ้าย” ยุคเหมาก็ต้องว่า ล้วนเป็นประเภท “วีรชนเอกชน”

ไม่ว่าความปรารถนาของลิ้มเซี้ยวเอ็งจะเป็นเช่นใด ไม่ว่าความปรารถนาของเฮ้งเต็งเอี้ยงจะเป็นและดำรงอยู่อย่างไร

แต่การเอาชนะคะคานของบุคคลทั้ง 2 ก็มีคุณ

อย่างน้อยคุณนั้นก็ตกมาถึงเซียวเล้งนึ่ง อย่างน้อยคุณนั้นก็ตกมาถึงเอี้ยก่วย ได้ศึกษา ได้ทำความเข้าใจ

เพียงแต่จะต้องทำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำอย่างเป็นกระบวนการเท่านั้น