แกะรอยคดีจับญาติ รมต. เปิดโรงแรมหรูมั่วยาไอซ์ พร้อมคนรถ-2 สาวสนิท ‘ชาดา’ ลั่นสมควรแล้ว

การบุกจับกุมผู้ต้องหามั่วสุมเสพยาไอซ์ ภายในโรงแรมหรูย่านถนนเพชรบุรี

แม้นของกลางที่ได้จะมีเพียงยาไอซ์แค่ 5 กรัมเศษ

แต่กลับสร้างแรงสะเทือนไปถึงกระทรวงคลองหลอด

เพราะหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นญาติกับรัฐมนตรีผู้โด่งดังคับ จ.อุทัยธานี

 

พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน ยันไม่หนักในแม้นนามสกุลดัง

บุกจับญาติ “ชาดา” คาโรงแรม

เหตุการณ์ครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 10 มิถุนายน พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ร้องเกาะเกิด สว.กก.สส.บก.น.1 ได้เบาะแสจากการสอบสวนขยายผลผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในพื้นที่ว่าจะมีการมั่วสุมเสพยาเสพติดภายในโรงแรมหรูแห่งหนึ่งย่านถนนเพชรบุรี แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

ต่อมาเวลา 22.00 น. ตำรวจชุดสืบสวน กองกำกับการสืบสวนตำรวจนครบาล 1 นำโดย พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.อติชาติ แย้มผกา รอง ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.มนูญ กู้เมือง รองผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.ณัชฐปกรณ์ หัดคำ รอง ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.ณัฐพงศ์ ร้องเกาะเกิด สว.กก.สส.บก.น.1 ด.ต.ปรีชา อิ่นมโน จ.ส.ต.ทิวา เกษแก้ว ส.ต.ท.ณัฐปคัลภ์ เหล็งหนูดำ ส.ต.ท.รัตนไชย ศรีสวัสดิ์ ผบ.หมู่ กก.สส.บก.น.1 ร่วมกันซุ่มอยู่ที่โรงแรมเป้าหมาย

นายนรเศรษฐ์ ปฏิเสธตอบคำถามสื่อ

กระทั่งเวลาประมาณ 22.25 น. พบเห็นหญิงสาวทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.อัญชลีพร เหมือนแก้ว อายุ 41 ปี เดินลงมาใต้อาคารโรงแรมดังกล่าวลักษณะตรงกับที่ได้เบาะแสมา จึงแสดงตัวเพื่อขอทำการตรวจค้น

เบื้องต้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ น.ส.อัญชลีพรแสดงอาการมีพิรุธอย่างเห็นได้ชัด ตำรวจจึงสอบเค้นจนยอมรับว่าเพิ่งเสพยาไอซ์มาและยังยอมรับอีกว่ายังมีกลุ่มเพื่อนมั่วสุมเสพยาไอซ์อยู่ภายในห้องเลขที่ 304 ชั้น 3 ของโรงแรม

ชุดสืบสวนจึงเชิญ น.ส.อัญชลีพรพาไปตรวจค้นที่ห้องพักดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ให้ น.ส.อัญชลีพรเคาะประตูเรียกคนในห้องให้มาเปิด และกรูบุกเข้าไปอย่างรวดเร็วก่อนที่คนในห้องจะทันตั้งตัว ภาพในห้องพบชาย 2 คน หญิง 1 คน สอบสวนทราบชื่อคือนายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ อายุ 52 ปี นายกิจจา จุลมุสิทธ์ อายุ 55 ปี และ น.ส.วาลิส ทัศนเอกจิต อายุ 36 ปี จากการตรวจค้นยังพบของกลางยาไอซ์ชนิดเกล็ด บรรจุในถุงซิปปิดซองใส จำนวน 6 ถุง รวมน้ำหนัก 5.4 กรัม และอาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ กล็อก 30 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนขนาด .45 จำนวน 6 นัด และซองใส่ โดยเป็นอาวุธปืนมีทะเบียนชื่อนายนรเศรษฐ์

สำหรับหนึ่งในผู้ต้องหาคือนายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ พบว่าเป็นญาติของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ซึ่งพ่อของนายชาดาเป็นพี่ชายแท้ๆ ของพ่อนายนรเศรษฐ์ จึงมีฐานะเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน และนายกิจจาเป็นคนขับรถของนายนรเศรษฐ์

ส่วน น.ส.วาลิส และ น.ส.อัญชลีพรเป็นคนรู้จักของทั้งคู่ที่รู้จักกันมานาน

เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และแจ้งข้อหาเพิ่มนายนรเศรษฐ์ ข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ฯ

ก่อนนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ กับพวกถูกจับพร้อมยาไอซ์

ปฏิเสธข้อหา-ไม่ยอมตรวจฉี่

ที่สน.มักกะสัน พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน เปิดเผยรายละเอียดของคดีว่า เบื้องต้นการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ได้แก่ นายนรเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ นายกิจจา จุลมุสิทธ์ น.ส.วาลิส ทัศนเอกจิต และ น.ส.อัญชลีพร เหมือนแก้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำบันทึกการจับกุมอยู่ ยังไม่ได้อยู่ในขั้นสอบสวน หลังจากนี้เมื่อทำขั้นตอนการบันทึกการจับกุมเสร็จ ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ซึ่งสถานที่ที่จับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้นั้นอยู่ในพื้นที่ สน.มักกะสัน จึงได้ส่งตัวมาทำบันทึกการจับกุมที่นี่

เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 4 รายได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และไม่ได้รู้สึกกดดันอะไรที่ 1 ในผู้ต้องหามีนามสกุลเหมือนกับนักการเมืองชื่อดัง ส่วนหลังจากนี้ก็จะทำการตรวจสารเสพติดของผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย เนื่องจากว่าในตอนแรกตำรวจสืบสวนนครบาล 1 ได้จับกุมกรณีที่มียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพเท่านั้น

ส่วนที่มีประเด็นว่าได้เปิดห้องที่โรงแรมแห่งนี้เพื่อมั่วสุมในการเสพยาเสพติดนั้น ผกก.สน.มักกะสันบอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ดูจากโรงแรมแล้วมองว่าเป็นโรงแรมที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนกับครอบครัวมากกว่า มักจะมีแต่ผู้เข้าพักที่มากับครอบครัว ยังไม่เคยมีพฤติกรรมที่มีคนมาเปิดปาร์ตี้ยา อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการขยายผลการจับกุมในครั้งนี้ต่อไป

ขณะเดียวกันตั้งแต่ช่วงเช้ามีเพื่อนของกลุ่มผู้ต้องหาเดินทางเข้ามาเยี่ยมและสังเกตการณ์ แต่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ให้เพียงข้อมูลว่ามาสังเกตการณ์เท่านั้น แต่ในส่วนของคดีก็ให้ทนายเป็นคนดำเนินการ

ด้านนายเกริกเกียรติ กิ่งแก้ว ทนายของผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า หลังจากนี้ผู้ต้องหาจะให้การในชั้นพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เบื้องต้นปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยวันที่ 12 มิถุนายน ญาติเตรียมหลักทรัพย์ไปประกันตัวในชั้นศาล ซึ่งต่างคนต่างยื่น เป็นเงินสด 40,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทุกคนไม่มีอาการเครียด ได้พูดคุยกับนายนรเศรษฐ์ซึ่งได้เล่าข้อเท็จจริงทั้งหมดให้ฟังแล้ว

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมตแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อหาเพิ่มนายนรเศรษฐ์ ข้อหามีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร ฯ

ตร.ค้นตัวหาสิ่งผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เคยมีข่าวคนใกล้ตัวกระทำผิดกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้เป็นกรณีของนายวีระชาติ รัศมี นายกเทศบาลตลุกดู่ ลูกเขยของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่ถูกตำรวจ บก.ปปป.จับกุมในความผิดฐานเรียกรับเงินสินบนจากผู้ประกอบการ โครงการก่อสร้างระบบประปาพื้นที่ ต.ตลุกดู่ อ.ทัพทัน และ ต.หาดทนง อ.เมือง จ.อุทัยธานี เมื่อปี 2566 นั้น ความคืบหน้าคดีดังกล่าวล่าสุดทราบว่าพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปปป.ได้สรุปสำนวนคดีส่งให้กับทางอัยการพิจารณาสั่งฟ้องตามขั้นตอนกฎหมายไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา

เมื่อตรวจสอบประวัติพบว่านายกิจจาเคยถูกดำเนินคดี 2 คดี ข้อหานำเข้าส่งออกจำหน่ายมีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 ใน จ.อุทัยธานี เมื่อปี 2566 และคดีฉ้อโกง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลปลอม ในพื้นที่ สน.ทุ่งครุ เมื่อปี 2565 ส่วน น.ส.วาลิสพบมีประวัติลักทรัพย์อีกด้วย

ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่ร่วมพิธีฮัจญ์ อยู่ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์เมื่อกลางดึกวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ยอมรับว่านายนรเศรษฐ์ที่ถูกจับภายในห้องพักโรงแรมดังย่านห้วยขวาง พร้อมยึดของกลางยาเสพติด อาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน เป็นญาติของตนจริงๆ

จากนั้นนายชาดาถามว่าโดนจับยาอะไร ผู้สื่อข่าวจึงบอกว่าเป็นยาไอซ์ พร้อมกับอาวุธปืน นายชาดาจึงกล่าวว่า คนนี้มันแสบไปทั่วหมด สมควรแล้ว แม้จะเป็นหลานของรัฐมนตรี ก็ต้องขอบอกว่าให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการได้เต็มที่เลย และไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเคยตักเตือนว่ากล่าวไปตั้งแล้ว และเขาก็ไม่ค่อยได้เข้าบ้านตน เพราะที่ผ่านมาเขาเป็นคนเกเร และมีข่าวเรื่องนี้อยู่แล้ว

การจับกุมครั้งนี้ชัดเจนว่าตำรวจจับกุมจากการขยายผลผู้ค้ายารายย่อย แต่บังเอิญโยงไปถึงญาติรัฐมนตรีคนดัง ก็เลยเพิ่มความฮือฮาได้มากขึ้น

คุมผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.มักกะสัน