การเปิดรอบปฐมทัศน์ของหนังสารคดีการเมืองเรื่อง”อำนาจ ศรัทธา อนาคต” หรือ Breaking the Cycle ในเดือนมิถุนายน ถือได้ว่ามาถูกที่ ถูกเวลา

เนื่องจากเข้าสู่บรรยากาศแห่งการตัดสินใจว่าจะยุบหรือไม่ยุบพรรคก้าวไกลอย่างเหมาะเจาะ

นี่เป็นการเลือกเองของ 2 ผู้กำกับการแสดงหรือ

นี่เป็นการกำหนดขึ้นเองของบริษัทที่รับผิดชอบในการจัดจำหน่ายและวางคิวให้กับ”อำนาจ ศรัทธา อนาคต” หรือ Breaking the Cycle หรือ

ไม่จำเป็นต้องเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่จำเป็นต้องเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่จำเป็นต้องเป็น นายชัยธวัช ตุลาธน ก็ตอบได้

นี่ย่อมเป็นเรื่องของโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะเป็น SF ไม่ว่าจะเป็น Major ไม่ว่าจะเป็น House

ผลที่เห็นและเป็นอยู่คือ บรรยากาศอันรู้เห็นและเป็นใจ

เป็นบรรยากาศที่ด้านหนึ่งก่อให้เกิดความคึกคัก ชุ่มชื่น และด้านหนึ่งก่อให้เกิดความหงุดหงิด กระบอกตาร้อนผ่าว

ต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ภายในความหงุดหงิดและอาการกระบอกตาร้อนผ่าวอันสะท้อน ผ่านโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ กระบวนการของปฏิบัติด้านการข่าว IO ก็เคลื่อนไหวตามมา

เป็นข่าวในเชิงล้มเหลว เป็นข่าวที่ไม่ดำรงอยู่อย่างเป็นกระแส หรือเป็นที่ขานรับ

ยิ่งเข้าสู่สถานการณ์วันที่ 6 มิถุนายน ยิ่งประโคมโหมแห่

ขณะที่ด้านหนึ่งก็เกิดการรื้อฟื้นบทบาทของหนังสารคดีที่เคยมีการเผยแพร่ก่อนเลือกตั้งเดือนพฤษภาคม 2566 ให้หวนกลับมาอีกครั้ง

นั่นก็คือ หนังสารคดีเรื่อง The Candidates

ด้านหนึ่ง ก็ยิ่งทำให้การดำรงอยู่และดำเนินไปของ”อำนาจ ศรัทธา อนาคต”หรือ Breaking the Cycle อยู่ในแสงแห่งสปอตไลต์

เป็นหนัง”สารคดี”ที่เปิดฉายผ่าน 100 กว่าโรงทั่วประเทศ

ขึ้นชื่อว่าเป็น”หนังสารคดี” แตกต่างไปจาก”หนังเรื่อง”อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะเป็นของไทย

แค่หาโรงฉายก็หืดขึ้นคอ แต่นี่ออกฉายถึงกว่า 100

ตอนแรกก็มีเพียง SF เพียง 40 กว่าโรง แต่เมื่อ Major ตัดสินใจก็กลายเป็นเรื่องเหลือเชื่อ รอยยิ้มบนใบหน้าของ 2 ผู้กำกับจากนิเทศศาสตร์ สามย่าน ก็สว่างจ้า

ไม่เพียงแต่”โรงหนัง”จะเป็นใจ หากแต่ยังก่อให้เกิด”บรรยา กาศ”อันเป็นคุณอย่างสูง