ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 มิถุนายน 2567 |
---|---|
คอลัมน์ | หลังลับแลมีอรุณรุ่ง |
ผู้เขียน | ธงทอง จันทรางศุ |
เผยแพร่ |
เรื่องที่จะเล่าสู่กันฟังวันนี้เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เป็นเรื่องสมมุตินะครับ โปรดอย่าเชื่อถือว่าเป็นความจริงเป็นอันขาด
ในประเทศไทยของเรานี่เองมีจังหวัดจังหวัดหนึ่ง สมมุติว่าชื่อบริษัทอดทนบุรีก็แล้วกัน
อดทนบุรีเป็นจังหวัดเก่าแก่อยู่มาหลายร้อยปีแล้ว มีธรรมชาติที่สวยงาม มีวัดวาอารามและแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อีกมาก อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์ มีประวัติศาสตร์ที่น่าภาคภูมิใจ
พอเป็นจังหวัดแล้วก็ต้องมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานจากทุกกระทรวงทบวงกรมไปตั้งสาขาอยู่ที่นั่นครบถ้วน
ศาลก็มีหลายศาล ทั้งศาลยุติธรรม ศาลปกครองศาลเด็ก ศาลแขวง ขาดอยู่ก็แต่ศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น
แต่ดั้งเดิมมาประชาชนส่วนใหญ่ของจังหวัดนี้มีอาชีพการทำเกษตรกรรมเหมือนกันกับประชาชนในจังหวัดอื่นทั่วประเทศ พืชที่เพาะปลูกกันนั้นก็มีทั้งข้าวและพืชสวนต่างๆ
ทุกคนอยู่กันมาด้วยความผาสุกเรียบร้อยสวัสดี
ต่อมาเมื่อมีโรงงานอุตสาหกรรมเกิดขึ้นทั่วประเทศ ในนามของ “การพัฒนา” ซึ่งทุกคนเชื่อว่าเป็นของดี ได้มีบริษัทบริษัทหนึ่ง จดทะเบียนมีวัตถุประสงค์ว่ามีอาชีพในการรับจ้างกำจัดขยะประเภทกากอุตสาหกรรม โดยให้บริการกับบริษัทที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เมื่อรับจ้างแล้วก็ขนขยะเหล่านั้นมาทำลายหรือกำจัดที่จังหวัดอดทนบุรี
ตอนแรกที่ขอเปิดกิจการ ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย
การแสดงแผนการทำงานว่ามีความละเอียดรอบคอบอย่างไร
การกำจัดขยะแต่ละประเภทมีเทคนิควิธีการอย่างไร
เมื่อหลักฐานมาเรียบร้อยถึงขนาดนี้แล้ว มีหรือที่ทางราชการเราจะไม่อนุญาต
ว่าแล้วกิจการของโรงงานกำจัดขยะซึ่งเราสมมุติชื่อว่า บริษัท ฮ นกฮูก ก็เริ่มดำเนินกิจการ
ในการทำงานนั้นเอง เจ้าของและผู้บริหารบริษัทพบว่าหากใช้วิธีการกำจัดขยะให้ถูกต้องตามหลักวิชาการที่ขออนุญาตไว้แล้ว จะเป็นการสิ้นเปลืองทั้งเวลาและทรัพยากรอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก กำไรของบริษัทที่คาดหวังว่าจะได้มากมายจะลดน้อยลงอย่างมากมาย ชะดีชะร้ายอาจขาดทุนด้วยซ้ำ
เพราะตอนทำตัวเลขส่งให้หน่วยงานทั้งหลายตรวจเพื่อขออนุญาตตั้งโรงงานก็ทำส่งไปอย่างนั้นแหละ ในใจก็ไม่ได้คิดจะทำตามเอกสารเหล่านั้นอยู่แล้ว
ฝ่ายทางราชการที่เป็นคนตรวจเอกสารก็เป็นคนเชื่อคนง่ายเสียด้วย การออกใบอนุญาตให้ประกอบกิจการจึงผ่านตลอดโดยไม่มีไฟแดงห้ามการจราจรไว้เลย
เรื่องนี้ไม่มีการติดสินบาทคาดสินบนแต่อย่างใดเลย สาบานได้
ในภาคปฏิบัติ วิธีการกำจัดขยะที่รวดเร็วและประหยัดมากที่สุดจึงใช้วิธีกลบฝัง โดยขุดบ่อขนาดใหญ่ขึ้นในบริเวณที่ดินซึ่งเป็นของบริษัท และเป็นที่ดินที่มีรั้วรอบขอบชิดเสียด้วย เมื่อขนขยะจากบริษัทที่เป็นเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศและเป็นลูกค้าของบริษัท ฮ นกฮูก เดินทางมาถึงโรงงานที่อดทนบุรีแล้ว
วิธีกำจัดขยะก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นำขยะเหล่านั้นลงฝังในบ่อขนาดใหญ่ที่ขุดเตรียมไว้ พอเต็มบ่อแล้วเอาดินกลบผิวด้านหน้าเสีย แค่นี้ทุกอย่างก็สำเร็จเรียบร้อย ไม่ต้องไปเสียสตางค์จำนวนมากให้ขาดทุนขาดรอน
ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือโบร่ำโบราณ เคยจำได้ว่าในเมืองพม่าเมื่อครั้งที่พระเจ้าสีป่อแรกเสวยราชย์ พระนางศุภยาลัตบัญชาการให้สำเร็จโทษเจ้านายพี่น้องและประหารชีวิตข้าราชการที่มีท่าทีเป็นปฏิปักษ์เป็นจำนวนมาก การสำเร็จโทษเจ้านายนั้นทำในวังติดต่อกันหลายวัน
ระหว่างสถานการณ์ที่น่าสยดสยองดำเนินไปนั้น พระเจ้าสีป่อกับพระนางศุภยาลัตโปรดให้หามหรสพมาเล่นถวายเพื่อบันเทิงพระทัย และกลบเสียงที่ไม่พึงประสงค์ทั้งหลายด้วย
พระศพเจ้านายพี่น้องหลายสิบองค์นั้น ถ้านำออกไปนอกพระราชวัง ความก็จะแตก จึงใช้วิธีขุดหลุมใหญ่แล้วฝังพระศพร่วมกัน ฝังไปได้ไม่กี่วัน ดินตรงนั้นบวมนูนขึ้น
เดือดร้อนต้องหาช้างหลวงมาเดินเหยียบแผ่นดินให้เรียบกลับไปเป็นแผ่นพื้นเดียวกันดังเดิม
หลุมขยะที่จังหวัดอดทนบุรีในบริเวณบริษัท ฮ นกฮูก ก็มีปัญหาติดตามมาเหมือนกัน ข้อใหญ่ใจความคือมลพิษที่เกิดขึ้นจากขยะเหล่านั้นได้แทรกซึมไปตามแผ่นดินและลำธารที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง แผ่ซ่านไปตลอดทั้งบริเวณ
ทำให้การเพาะปลูกทำไร่ไถนาของชาวบ้านที่อยู่บริเวณโดยรอบต้องประสบความเสียหายอย่างหนักหน่วง เรียกว่าเจ๊งกันไปเป็นแถบๆ เลยทีเดียว
กว่าทางราชการ ไม่ว่าจะเป็นทางฝ่ายปกครองหรือกระทรวงนั้นกระทรวงนี้ตั้งแต่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงอุตสาหกรรม หรือกระทรวงยุติธรรมจะไหวตัวทันและเข้ามาสั่งปิดกิจการของโรงงานกำจัดขยะนอกลู่นอกทางแบบนี้ได้
ความเสียหายกับประชาชนก็ปรากฏชัดเจนแล้ว
เรื่องของการสั่งปิดโรงงานหรือเรื่องที่ต้องดำเนินคดีอาญาเอาผิดกับเจ้าของและผู้บริหารของโรงงานนั้นก็ว่ากันไปทางหนึ่ง
แต่ทางฝ่ายประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากการกระทำของโรงงานซึ่งมีสิทธิจะได้รับค่าทดแทนชดเชยจากทางบริษัท ประชาชนต้องออกแรงไปฟ้องคดีเอง ในทัศนะทางกฎหมายแล้วเป็นเรื่องระหว่างเอกชนกับเอกชน รัฐบาลไม่เกี่ยว ฮา!
โชคดีที่ประเทศไทยเรามีกฎหมายที่วางระบบไว้ให้ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายจากคดีประเภทนี้สามารถรวมกลุ่มกันฟ้องร้องเป็นคดีเดียวได้ เรียกว่าเป็นการฟ้องคดีแบบกลุ่มหรือที่ภาษาฝรั่งเรียกว่า Class action แทนที่จะให้ประชาชนแต่ละคนต้องไปเสียเงินทองและเสียเวลาฟ้องแยกเป็นรายคดี ฟังดูดีมากเลยใช่ไหมครับ
ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องนี้เขาก็รวมกลุ่มกันไปฟ้องเป็นคดีที่ศาลจังหวัดอดทนบุรี จากพยานหลักฐานต่างๆ ที่ปรากฏชัดเจน
ศาลก็ได้ตัดสินให้ประชาชนผู้เป็นโจทก์ชนะคดี
เรื่องน่าจะจบลงอย่างสวยงาม แต่ยังไม่จบครับ
ข้อแรกที่น่าสนใจเป็นพิเศษคือค่าเสียหายที่ประชาชนจะพึงได้รับจากการชนะคดี ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงนั้นเป็นความเสียหายในระยะยาวที่ประชาชนจะไม่สามารถปลูกพืชผลได้เหมือนเดิมในเวลาอันรวดเร็ว ต้องมีการฟื้นฟูบูรณะดิน ล้างพิษจากสิ่งที่เป็นมลพิษทั้งหลายให้หมดสิ้นไป เรื่องอย่างนี้ต้องใช้ทั้งเวลา ใช้วิชาการและใช้เงินทอง
ค่าเสียหายที่ศาลกำหนดให้ท่านคิดแต่เพียงต้นหมากรากไม้ที่ล้มตายไปในการเพาะปลูกรอบสุดท้ายก่อนที่จะมีการฟ้องคดี
ใช้สูตรคล้ายกันกับการคำนวณค่าเสียหายเวลาคิดค่าต้นไม้ในการเวนคืนที่ดิน อะไรประมาณนั้น
ข้อที่สองคือ เมื่อเป็นการฟ้องคดีแบบกลุ่ม การบังคับคดีก็ต้องบังคับร่วมกัน ถ้ามีข้อขัดข้องขึ้นด้วยโจทก์รายใดมีปัญหาส่วนตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เรื่องนั้นก็พลอยดึงให้การบังคับคดีหรือโอกาสที่จะได้รับการชดใช้ค่าเสียหายจากบริษัท ฮ นกฮูก
ล่าช้าไปทั้งกระบวน
ย้อนกลับไปพูดถึงเรื่องการฟื้นฟูสภาพดิน ถ้าชาวบ้านหวังจะรอให้ทางราชการมาช่วย เพราะจำนวนเงินที่ต้องใช้เป็นเรือนหลายสิบล้านบาท การรอนั้นก็รอกันแบบไม่มีอนาคต เพราะหน่วยงานใดหนอจะตั้งงบประมาณ งบประมาณตั้งปีนี้ยังไม่ได้ ปีต่อไปจะได้หรือไม่ก็ยังสงสัย เพราะที่อื่นก็ต้องใช้งบประมาณในภารกิจเร่งด่วนเหมือนกัน
ระหว่างนี้ชาวบ้านก็นั่งหน้าแห้งต่อไปนะ
ข้าราชการที่นั่งอยู่ในห้องแอร์ตามสำนักงานต่างๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองได้ทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว จะมากะเกณฑ์ให้ทำมากกว่านี้ก็ไม่รู้จะทำอะไรได้ เบื่อวุ้ย
ส่วนทางบริษัท ฮ นกฮูก จำเลยเหลืออะไรให้ฟ้องร้องบังคับได้บ้าง เรื่องผ่านไปหลายปีเข้าอย่างนี้บริษัทก็ล้มละลายแล้ว ถ้าประชาชนกลุ่มใหญ่จะไล่ตามบังคับคดีก็จะได้เพียงแค่โต๊ะเก้าอี้ไม่กี่ตัวที่ตกค้างอยู่ในสำนักงาน
แน่นอนว่าบริษัทที่เป็นเจ้าของขยะต้นทางตัวจริง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นบริษัทที่มีฐานะมั่นคง ย่อมรู้สึกว่าตัวเองอยู่ห่างไกลจากเรื่องนี้มาก เพราะได้ว่าจ้างบริษัท ฮ นกฮูก ให้ไปทำหน้าที่ครบถ้วนแล้ว ความเลอะเทอะเปรอะเปื้อนทั้งหลายเป็นเพราะบริษัท ฮ นกฮูก ต่างหาก ไม่เกี่ยวอะไรกับบริษัทของเราเลย
หลักการบริหารโดยธรรมาภิบาลหรือบริษัทภิบาลของเรายังอยู่ครบถ้วน
ฟังดูเรื่องสมมุติเรื่องนี้แล้ว รู้สึกเหนื่อยใจไหมครับ
ปัญหาของบ้านเราหลายต่อหลายเรื่องมีลักษณะทำนองนี้ คือมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากมาย แต่ทุกคนทำหน้าที่เป็นไซโล คือมองเฉพาะภารกิจหน้าที่ตามกฎกระทรวงของตัวเอง การทำงานร่วมกันให้ภาพใหญ่ขับเคลื่อนได้เต็มบริบูรณ์ พูดกันมาตั้งแต่ผมเริ่มรับราชการจนเกษียณอายุมาครบเก้าปีแล้วก็ยังไม่เป็นผล
ภาคเอกชนก็เป็นไซโลไม่แพ้กัน บริษัทเจ้าของขยะได้จ้างบริษัทกำจัดขยะถูกต้องตามกติกา เราสามารถยินยอมให้บริษัทต้นทางกล่าวได้เต็มปากใช่ไหมว่า เขาได้ทำทุกอย่างครบถ้วนแล้ว และไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่อดทนบุรีแต่อย่างใด
กระบวนการยุติธรรมบ้านเราก็เช่นเดียวกัน ภาพใหญ่เราเริ่มต้นมาดูแล้วแต่ภาพเล็กของเรายังไม่เป็นผลในภาคปฏิบัติ การบังคับคดียังมีปัญหา ทำอย่างไรผู้พิพากษาของเราถึงจะมีความรู้ในเรื่องของการคิดคำนวณค่าเสียหายในกรณีคดีสิ่งแวดล้อมได้ครบถ้วนในมิติต่างๆ
เรื่องนี้อาจจะต้องโทษมาจนถึงคนสอนกฎหมายอย่างผมด้วย ว่าวางหลักสูตรไว้อย่างไรบ้างในเรื่องเหล่านี้
นี่โชคดีเป็นที่สุดที่เรื่องนี้เป็นแค่เรื่องสมมุติ ไม่มีมูลความจริงแต่ประการใด
ว่าแต่พรุ่งนี้ว่างไหมครับ จังหวัดอดทนบุรีอยู่แค่นี้เอง ไปกินข้าวกลางวันกันเสียหน่อยจะเป็นไร
เผื่อหูตาจะสว่างขึ้นบ้าง
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022