ขอแสดงความนับถือ

ระหว่าง 2-4 มิถุนายนที่ผ่านมา ณ ประเทศสิงคโปร์

มีกิจกรรมระดับโลก คือ การประชุมแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ครั้งที่ 20

เจ้าภาพคือ สิงคโปร์ บอกว่า มีตัวแทนหน่วยงานด้านกลาโหมและความมั่นคงเกือบ 600 คน จากกว่า 40 ประเทศและภูมิภาคเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้

เพื่อถกประเด็นร้อนทางด้านความมั่นคง ความปลอดภัยในภูมิภาค และในโลก

ไม่ว่า ความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ความมั่นคงด้านนิวเคลียร์ ความมั่นคงทางทะเล และความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของมหาอำนาจมาพร้อมหน้า ทั้งสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นาโต ฯลฯ

แม้กระทั่งประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก็โผล่มาระดมความสนับสนุนจากนานาชาติด้วย

 

อาเซียนเรา สิงคโปร์ ไม่ต้องพูดถึง เด่นอยู่แล้วในฐานะเจ้าภาพ

ส่วนอินโดนีเซีย ว่าที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนใหม่ ปราโบโว ซูเบียนโต ใช้เป็นวาระในการแนะนำตัวต่อเวทีโลก

ส่วนไทย ปรบมือต้อนรับรัฐมนตรีกลาโหมพลเรือน “สุทิน คลังแสง”

ถือเป็นการขึ้นเวทีระดับโลกครั้งแรก

และพยายามเปล่งเสียงไทยพร้อมจะเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ย” ความขัดแย้ง

แต่ดังเพียงไหน และมีการตอบรับเพียงใด

ทีมงานคงต้องประเมินกันอย่างจริงจัง

เพราะดูจะเสียงเบาเหลือเกิน

 

สิ่งที่สัมผัสได้จากการประชุมแชงกรี-ลา ไดอะล็อก ครั้งนี้

แม้ไทยจะส่งเสียงตามสายกลาง คือ ขอเป็นผู้ไกล่เกลี่ย

แต่ความตึงเครียดโลก มีแนวโน้มที่จะเกิดสงครามสูงมาก

คนในโลกสัมผัสถึงความเปราะบางของสถานการณ์ ที่อาจจะนำไปสู่สงคราม

สงครามที่ไม่ได้ก่อผลดี ทั้งผู้ชนะ ผู้แพ้

หรือแม้แต่ผู้ที่พยายามจะเป็น “กลาง” ก็ไม่อาจลอยตัว หนีผลกระทบไปได้

แต่ผู้คนในโลก โดยเฉพาะผู้นำทั้งหลาย ก็ไม่เคยสรุปบทเรียน

แม้ว่าจะมีความหายนะ เป็นบทเรียนจำนวนมาก

 

คอลัมน์ อะไร(แม่ง)ก็เป็นศิลปะ ของ ภาณุ บุญพิพัฒนาพงศ์ ในมติชนสุดสัปดาห์ เล่มนี้

พาเราไปรู้จัก บุญโปน โพทิสาน ศิลปินร่วมสมัยชาวลาว ซึ่งมีบทบาทที่สุดในวงการศิลปะร่วมสมัยของประเทศลาว

เขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ไปร่วมแสดงผลงานในนิทรรศการ The Spirits of Maritime Crossing : วิญญาณข้ามมหาสมุทร ที่เป็นส่วนหนึ่งของมหกรรมศิลปะนานาชาติ เวนิส เบียนนาเล่ ครั้งที่ 60

โดยบุญโปนนำเสนอผลงาน Story from Plateau (2019)

ประติมากรรมจัดวางที่สะท้อนผลกระทบจากสงครามในอดีต ของลาว

ด้วยการหยิบเอาเปลือกของลูกระเบิดที่เก็บได้จากทุ่งนาที่เต็มไปด้วยวัตถุระเบิด มาฉลุเป็นลวดลาย

เพื่อบอกเล่าและตีแผ่เรื่องราวของประชาชนผู้ต้องบาดเจ็บ พิการ และล้มตายจากวัตถุระเบิดที่ยังคงตกค้างมาจนถึงทุกวันนี้

 

มรดกอันเลวร้ายจากเหตุการณ์ในสงครามอินโดจีน

กองทัพอเมริกันทิ้งระเบิดในประเทศลาวกว่า 2 ล้านตัน ติดต่อกันนับตั้งแต่ปี 1964 ถึง 1973 เป็นเวลา 9 ปีเต็ม

ทำให้ลาวเป็นประเทศที่ถูกทิ้งระเบิดหนักที่สุดในโลก เมื่อเฉลี่ยต่อจำนวนประชากร

คือมากกว่า 270 ล้านลูก

และคาดว่ายังมีลูกระเบิดตกค้างที่ยังไม่ระเบิด หลงเหลืออยู่ราว 80 ล้านลูกในผืนแผ่นดินลาว

เป็นมหันตภัยคุกคามชีวิตประจำวันของประชาชนในประเทศลาว แม้กระทั่งทุกวันนี้

“ผมไม่ได้ทำงานชุดนี้เพื่อตอกย้ำให้เกิดความเกลียดชังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต

หากแต่ผมต้องการพูดถึงผลกระทบจากสงครามที่หลงเหลือมาถึงปัจจุบัน

และผมก็ไม่ได้หมายถึงแค่สงครามอินโดจีนที่ส่งผลกระทบถึงลาวเท่านั้น

หากแต่หมายถึงสงครามทั่วโลก ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว

ความสูญเสียและบาดแผลจะติดตรึงอยู่กับสังคมไปอย่างยาวนาน”

คือ ความในใจของศิลปินลาว “บุญโปน โพทิสาน” ที่สะท้อนผ่านไปยังคนทั่วโลก •